เปิดค่าสินสอดพระราชพิธีเสกสมรส ‘เจ้าชายอับดุลมาทีน’ แห่งบรูไน กับพระชายา ‘อนิชา รอสนาห์ บินติ อดัม’ น้อยจนชาวเน็ตถึงกับอึ้ง แม้จะแต่งงานกับหนึ่งในราชวงศ์ที่ร่ำรวยที่สุดในโลกของปี 2565
จบลงไปแล้วอย่างสมพระเกียรติ พระราชพิธีเสกสมรสสุดยิ่งใหญ่ ระหว่าง เจ้าชายอับดุล มาทีน แห่งบรูไน กับพระชายา อนิชา รอสนาห์ บินติ อดัม ที่จัดขึ้นต่อเนื่องเป็นเวลา 10 วัน ตั้งแต่วันที่ 7-16 มกราคม 2567 ณ พระราชวังอิสตานา นุรุล อิมาน กรุงบันดาร์เสรีเบกาวัน ซึ่งภาพส่วนหนึ่งของพระราชพิธีเสกสมรสของทั้งสองก็ได้ถูกเผยแพร่ไปทั่วโลก ทำให้ผู้คนมีโอกาสได้เห็นความยิ่งใหญ่ของพิธีดังกล่าว
เว็บไซต์ต่างประเทศ sohu ได้จัดทำสกู๊ปพิเศษเกี่ยวกับพระราชพิธีเสกสมรสแบบอิสลามของเจ้าชายอับดุล มาทีน และพระชายา มีการเผยถึงรายละเอียดพระราชพิธีในแต่ละวัน และรวบรวมภาพความประทับใจที่เกิดขึ้นตลอด 10 วันที่ผ่านมา ซึ่งหนึ่งในพิธีที่ทั่วโลกให้ความสนใจมากที่สุดก็คือ พิธีกรรมทางศาสนาอิสลามที่จัดขึ้นในวันที่ 11 มกราคม 2567
ในวันดังกล่าว เจ้าชายอับดุลมาทีนเสด็จเดินทางมายังมัสยิดสุลต่านโอมาร์ อาลี ไซฟุดดิน กรุงบันดาร์เสรีเบกาวัน เพื่อทำพิธีตามธรรมเนียมทางศาสนา โดยมีเพียงเจ้าบ่าว ญาติฝั่งเจ้าบ่าว รวมถึงเพื่อนคนสนิทเท่านั้น หรืออาจเรียกอีกอย่างได้ว่าเป็นงานแต่งที่ไม่มีเจ้าสาว
นอกจากนั้น เจ้าชายอับดุลมาทีนยังได้ประกาศของหมั้น ซึ่งมีมูลค่าเพียง 1,000 ดอลลาร์บรูไน หรือราว ๆ 26,500 บาท ในเวลานั้นพระองค์ได้นั่งบนเสื่อพิเศษ พร้อมอ่านคำปฏิญาณในงานแต่งงาน ที่ระบุว่า “คุณอนิชา ฉันยอมรับการแต่งงานในครั้งนี้และมอบเงินเจ้าสาวเป็นราคา 1,000 ดอลลาร์บรูไน”
มูลค่าของหมั้นที่น้อยนิดไม่สมฐานะของพระองค์ก็ทำให้เกิดการถกเถียงอยู่ไม่น้อย บ้างก็ว่าข้อมูลอาจไม่ครบถ้วน บ้างก็บอกว่าเหตุใดราชวงศ์ที่รวยล้นฟ้าถึงมอบของหมั้นราคาต่ำเสียยิ่งกว่าเข้าของในพระราชวังเสียอีก
อย่างไรก็ดี ในความเป็นจริงของหมั้นราคา 26,500 บาทเป็นเพียงส่วนหนึ่งของค่าใช้จ่ายในงานแต่งงานทั้งหมด เพราะแน่นอนว่าการเฉลิมฉลองพิธีเสกสมรสต่อเนื่อง 10 วัน มีค่าใช้จ่ายกว่า 100 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือราว ๆ 3,561,050,000 บาท และยังไม่รวมมูลค่าของเครื่องประดับที่มอบให้เจ้าสาวอีกมากมายนับไม่ถ้วน
อีกทั้งเงินสินสอดดังกล่าวอาจเป็นเพียงเรื่องของพิธีกรรมเท่านั้น หลาย ๆ วัฒนธรรมไม่ได้มีค่านิยมเรื่องต้องทุ่มค่าสินสอดเป็นจำนวนมากเหมือนเช่นวัฒนธรรมไทย เงินจำนวนดังกล่าวจึงถือว่าไม่ได้มากหรือน้อยในแง่คุณค่า
ความร่ำรวยของ ‘ราชวงศ์บรูไน’ ที่เลื่องลือไปทั่วโลก
แม้ว่าประเทศบรูไนดารุสซาลามจะมีพื้นที่เล็กกว่าอีกหลาย ๆ ประเทศทั่วโลก แต่บรูไนก็กลายเป็นประเทศที่ร่ำรวยที่สุดในเอเชียด้วยทรัพยากรน้ำมันและก๊าซธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์ ไม่เพียงเท่านั้นพระราชวงศ์บรูไนยังเป็นหนึ่งในราชวงศ์ที่ร่ำรวยที่สุดในโลก จากการจัดอันดับ “กษัตริย์ที่ร่ำรวยที่สุด” ในปีพ.ศ. 2565
สมเด็จพระราชาธิบดีฮัลซานัล บลกียะห์ ทรงเป็นหนึ่งในกษัตริย์ที่ร่ำรวยที่สุดในโลก โดยมีทรัพย์สินมูลค่า 28,000 ล้านดอลลาร์ หรือคิดเป็นเงินไทยราว ๆ 900,000 ล้านบาท
รายชื่อทรัพย์สินสุทธิของสุลต่านแห่งบรูไนอยู่ในอันดับที่ 2 รองจากพระมหากษัตริย์ไทย อีกทั้งราชวงศ์บรูไนยังเป็นเจ้าของพระราชวังอิสตานา นูรูล อีมาน ซึ่งเป็นที่ประทับอย่างเป็นทางการที่ใหญ่ที่สุดในโลกของประมุขแห่งรัฐ มีขนาดครอบคลุมพื้นที่สี่เท่าของพระราชวังบักกิงแฮม และมีมูลค่ามากกว่า 1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ
ข้อมูลจาก sohu
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
- เปิดภาพ พระราชพิธีเสกสมรส เจ้าชายมาทีน แห่งบรูไน กับว่าที่พระชายา ‘อนิชา’
- พระประวัติ “เจ้าชายอับดุล มาทีน” พระราชโอรสรูปงามแห่งบรูไน
- เปิดภาพ ไฮโซเจนธิรา ร่วมงานเสกสมรส เจ้าชายบรูไน ฐานะพระญาติเจ้าสาว
