ร่วมอาลัย 2 กู้ภัย เสียชีวิต จากเหตุ โรงงานพลุระเบิด จ.สุพรรณบุรี
ร่วมไว้อาลัย 2 เจ้าหน้าที่กู้ภัย เสียชีวิตจากอุบัติเหตุ โรงงานพลุไฟระเบิด จังหวัดสุพรรณบุรี ครอบครัวและเพื่อนผู้เสียชีวิต ต่างเข้ามาแสดงความเสียใจต่อการสูญเสียบุคลากรคนสำคัญในครั้งนี้
เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 18 มกราคม 2567 เฟสบุ๊กเพจ สมาคมตอบโต้ภัยพิบัติ ประเทศไทย ได้โพสต์แสดงความอาลัย พร้อมกับเผยแพร่ภาพของ 2 เจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัย ผู้เสียชีวิต จากเหตุการณ์ โรงงานพลุระเบิด ในพื้นที่หมู่ 3 ต.ศาลาขาว อ.เมือง จ.สุพรรณบุรี โดยระบุข้อความไว้ว่า
“สมาคมตอบโต้ภัยพิบัติประเทศไทย ขอแสดงความเสียใจกับ ครอบครัวผู้เสียชีวิตทุกท่าน และ สมาคมร่วมใจสวนแตง สุพรรณบุรี ต่อการสูญเสียเจ้าหน้าที่อาสาสมัครร่วมใจสวนแตง
ในเหตุการณ์พลุระเบิด วันที่ 17 มกราคม 2567 นางสาววรัญญา ศรีเหรา (ร่วมใจ70), นายธนากร วัชรพิมลมิตร (ร่วมใจ63) ขอส่งกำลังใจ ต่อครอบครัวผู้เสียชีวิต รวมถึงเจ้าหน้าที่ อาสาสมัครทุกท่านทุกนาย ด้วยความห่วงใย
#โรงงานพลุระเบิดสุพรรณบุรี #สมาคมตอบโต้ภัยพิบัติประเทศไทย #DRAT”
นอกจากนี้ ในวันเดียวกัน ทางด้านของเฟสบุ๊กเพจ มูลนิธิเสมอกันกู้ภัยสุพรรณบุรี ยังได้โพสต์ข้อความแสดงอาลัยต่อ 2 เจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยทั้งสองท่านว่า
“#ในนามมูลนิธิเสมอกันกู้ภัยสุพรรณบุรี ขอแสดงความเสียใจ ต่อการสูญเสียเจ้าหน้าที่อาสาสมัคร สมาคมร่วมใจสวนแตง สุพรรณบุรี #ในเหตุการณ์พลุระเบิด เมื่อวันที่ 17 มกราคม 2567 ที่ผ่านมา..
นางสาววรัญญา ศรีเหรา (ร่วมใจ70), นายธนากร วัชรพิมลมิตร (ร่วมใจ63)
และขอส่งกำลังใจ ต่อครอบครัวผู้เสียชีวิต รวมถึงเจ้าหน้าที่ อาสาสมัครทุกท่านทุกนาย ด้วยความห่วงใย 😢
#ทั้งสองทำงานในโรงงานพุ ความถี่: 168.275 MHz. โทร: 0983177998 . #ศูนย์มูลนิธิเสมอกันกู้ภัยสุพรรณบุรี (ตลอด24ช.ม.)”
อย่างไรก็ตาม จากกรณีเหตุ โรงงานพลุระเบิดภายใน ในพื้นที่หมู่ 3 ต.ศาลาขาว อ.เมือง จ.สุพรรณบุรี เบื้องต้นมีรายงานผู้เสียชีวิตแล้ว 23 ศพ โดยในผู้เสียชีวิตนั้นมีเจ้าของโรงงานและลูกชายรวมอยู่ด้วย นอกจากนี้จากการตรวจสอบยังพบว่าโรงงานแห่งนี้ยังเคยเกิดเหตุระเบิดมาแล้วในปี 2565 นั้น
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
- ยอดผู้เสียชีวิต โรงงานพลุสุพรรณระเบิด เพิ่มอีก 2 รวมแล้ว 25 ศพ
- ผู้ว่าสุพรรณบุรี เผย โรงงานพลุระเบิด ขออนุญาตถูกต้อง แม้เคยระเบิดมารอบ
- เปิดข้อมูล โรงงานพลุสุพรรณบุรี เคยระเบิดมาแล้วในปี 65 เกิดเหตุซ้ำจุดเดิม
อ้างอิง : สมาคมตอบโต้ภัยพิบัติ ประเทศไทย, มูลนิธิเสมอกันกู้ภัยสุพรรณบุรี