อาชีพมาแรง ชาวโคราช แห่ปลูกกะหล่ำปลีสร้างรายได้ พบเป็นพืชที่เก็บเกี่ยวไว ทำเงินได้ดี ขายออกได้หลักแสนต่อไร่ เกษตรกรอยู่ดีกินดีขึ้น
ในช่วงต้นปี 2567 พบว่าเกษตรกรในพื้นที่ อำเภอหนองบุญมาก จังหวัดนครราชสีมา เริ่มเปลี่ยนแนวทางการเพาะปลูกกันมากขึ้น โดยส่วนใหญ่หันมาปลูกกะหล่ำปลี เน้นทำการเกษตรแบบเชิงเดี่ยว เพราะค้นพบว่าทำเงินได้ไวและดีกว่าพืชชนิดอื่น
จากการสอบถาม พบว่ามีเกษตรกรหลายราย ได้ทดลองปลูกกะหล่ำปลีขายส่งตลาดแถวบ้าน ซึ่งมีจุดรับซื้อและส่งต่อผลผลิตอยู่ใกล้กัน ทั้งยังได้ค่าตอบแทนที่สูง และช่วยลดต้นทุนการผลิตได้ดีกว่าพืชที่เคยปลูกในอดีต เนื่องจากวงจรชีวิตของกะหล่ำปลีค่อนข้างสั้น และเมื่อมีการรับซื้อในตลาดใกล้บ้าน เกษตรกรก็ไม่ต้องแบกภาระค่าเดินทางในการนำส่งด้วย
เกษตรกรหญิงรายหนึ่งเผยว่า ตนได้ลงทุนเจาะบ่อบาดาล ทำให้มีน้ำที่เพียงพอต่อการทำเกษตรกรรมตลอดปี เลยมองหาพืชชนิดใหม่มาเพาะปลูก กระทั่งพบว่ากะหล่ำปลีเป็นพืชที่สร้างเงินได้ดีที่สุด เนื่องจากการปลูกหนึ่งรอบใช้เวลาเพียงแค่ 60 วัน ก็สามารถนำไปขายได้แล้ว
ปัจจุบันกะหล่ำปลีมีราคาอยู่ที่กิโลกรัมละ 8-10 บาท แต่หากช่วงไหนมีความต้องการมากเป็นพิเศษ ราคาก็จะขึ้นไปที่ 15 บาทต่อกิโลกรัม ซึ่งในปีที่ผ่านมา ชาวบ้านบางคนกวาดรายได้ไปหลายแสนบาทเลยทีเดียว
ทั้งนี้เกษตรกรในโคราชอีกหลายเจ้า เตรียมจัดสรรพื้นที่เพื่อเพาะปลูกกะหล่ำปลีมากขึ้น เพราะได้มีการพิจารณากันถี่ถ้วนแล้วว่า ต้นทุนของการเพาะปลูกอยู่ที่ไร่ละไม่เกินหนึ่งหมื่นบาท แต่สามารถขายออกจนฟันกำไรได้กว่า 1 แสนบาทต่อไร่ ทำให้การเพาะปลูกกะหล่ำปลีกำลังกลายมาเป็นอาชีพใหม่ ที่นิยมทำกันในทุกชุมชน.
