เปิดปัจจัยหลักส่ง “ทีมชาติไทย” คว้าชัยเหนือ คีร์กีซสถาน นัดเปิดสนาม “เอเชียน คัพ 2023”
เปิดปัจจัยหลักที่ส่งผลให้ ทีมชาติไทย เอาชนะ คีร์กีซสถาน ในเกมนัดแรกของรอบแบ่งกลุ่ม ศึกฟุตบอล เอเชียน คัพ 2023
อย่างที่ทราบกันว่าเมื่อคืนที่ผ่านมา (16 มกราคม) ทีมชาติ มีคิวลงสนามพบกับ ทีมชาติคีร์กีซสถาน ในเกมนัดแรกของรอบแบ่งกลุ่ม เอเชียน คัพ 2023 รอบสุดท้าย ก่อนที่ผลการแข่งขันจะเป็นทัพช้างศึกที่เอาชนะไปได้ 2-0 จากการเหมาคนเดียว 2 ประตูจาก ศุภชัย ใจเด็ด
วันนี้ Thaiger จะมาวิเคราะห์ว่ามีปัจจัยใดบ้างที่ส่งผลให้ ทีมชาติไทย สามารถเอาชนะ คีร์กีซสถาน พร้อมกับคว้า 3 แต้มในเกมนัดแรกของศึก เอเชียน คัพ 2023 ได้สำเร็จ
11 ตัวจริงที่ส่งลงสนาม
เกมในวันนี้ มาซาทาดะ อิชิอิ กุนซือใหม่ของทัพช้างศึก ตัดสินใจเลือกส่งนักเตะที่เขาเคยร่วมงานด้วยทั้งกับสโมสร สมุทรปราการ ซิตี้ และบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ได้แก่ ปฏิวัติ คำไหม, ธีราทร บุญมาทัน, พรรษา เหมวิบูลย์, พีรดนย์ ฉ่ำรัศมี, สุภโชค สารชาติ, ศุภชัย ใจเด็ด และ ศุภณัฏฐ์ เหมือนตา
นักเตะทั้ง 7 คนที่ได้กล่าวมาถ้าสังเกตดีๆ พวกเขาถือว่าเป็นนักเตะที่เข้าใจถึงแท็กติก และระบบแบบแผนของนายใหญ่ชาวญี่ปุ่นอย่างแท้จริง อยู่ในทุกๆ แดน แดนละ 2 คน พร้อมผู้รักษาประตูอีก 1 คน แถมมเมื่อผลการแข่งขันเป็นใจ ก็ต้องยอมรับว่าการตัดสินในครั้งนี้ของ อิชิอิ ถือว่ายอดเยี่ยมและชาญฉลาดสุดๆ สำรับทีมที่มีปัญหามาตลอดและมีเวลาเก็บตัวค่อนข้างน้อย
เกมรับที่เหนียวแน่นของ ทีมชาติไทย
หนึ่งสิ่งที่วันนี้ต้องชื่นชมนักเตะทัพช้างศึกนั่นก็คือ ทุกคนที่ลงสนามต่างช่วยกันวิ่งเพื่อบีบให้นักเตะของคีร์กีซสถานเล่นยากมากขึ้น จะเป็นได้จากการที่ผู้เล่นของคีร์กีซสถานมักจะออกบอลเสียในแดนของทีมชาติไทย
นอกจากนี้ หนึ่งในนักเตะที่เล่นได้อย่างโดดเด่นแต่กลับถูกพูดถึงน้อยตามหน้าสื่อก็คือ วีระเทพ ป้อมพันธุ์ ที่ถูกส่งลงสนามแทนที่ของ สารัช อยู่เย็น ซึ่ง “เทพเตอร์” ก็ตอบแทนความไว้ใจของอิชิอิได้อย่างยอดเยี่ยม เพราะแม้ว่าบทบาทของเขาจะไม่ได้โดดเด่นเมื่อเทียบกับเพื่อนร่วมทีมในแดนกลาง แต่ด้วยการเล่นของเขาทำให้ทัพช้างศึกสามารถเล่นได้ง่ายขึ้นอย่างเห็นได้ชัด
ความเฉียบคมในการจบสกอร์
ในเกมนี้หนึ่งในนักเตะที่ถูกชื่นชมมากที่สุดคงหนีไม่พ้น ศุภชัย ใจเด็ด กองหน้าตัวเก่งของ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ที่กลับมาเล่นได้อย่างยอดเยี่ยมอีกครั้ง เพราะนอกจากจะเหมาคนเดียว 2 ประตูในเกมนี้แล้ว เจ้าตัวยังมีส่วนอย่างมากในการกดดันกองหลังของคีร์กีซสถานได้เป็นอย่างดี
แต่เหนือสิ่งอื่นใดสิ่งที่ต้องชมของศุภชัยในเกมนี้ก็คือ จังหวะการจบสกอร์ ที่เฉียบคมขึ้นกว่าเดิมอย่างเห็นได้ชัด แม้ว่าทั้ง 2 ประตูจะเป็นการเก็บตกจังหวะสอง แต่กองหน้ารายนี้ก็สามารถเก็บกินได้หมด แบบที่ไม่ทำให้แฟนบอลได้ผิดหวัง
เกมต่อไป ทีมชาติไทย จะลงสนามพบกับ ทีมชาติโอมาน ในวันอาทิตย์ที่ 21 มกราคม 2024 เวลา 21.30 น. ตามเวลาประเทศไทย ถ่ายทอดสดทางช่อง T Sports 7 และ PPTV HD 36