“ไม่มีใครเก่งเท่าแม่มึงแล้วค่ะ” มีมนี้ มาจากไหน ประโยคเจ็บจี๊ด ของคนสุดจะทน

Thosapolเผยแพร่: 15 ม.ค. 2567 16:18 น.| อัปเดต: 15 ม.ค. 2567 16:18 น.

5,065 1 minute read

ไม่มีใครเก่งเท่าแม่มึงแล้วค่ะ มาจากไหน มีม ภาษาไทย อังกฤษ ญี่ปุ่น จีน

เปิดคลังศัพท์ ปทานุกรมคำฮิต-วลีเด็ด โลกโซเชียล ประจำต้นปี 2024 มีม “ไม่มีใครเก่งเท่าแม่มึงแล้วค่ะ” มาจากไหน หมายถึงอะไร และสามารถใช้กล่าวถึงในสถานการณ์ใดได้บ้าง

ปัจจุบันคำศัพท์ ประโยคฮิต หรือวลีติดปาก สามารถเกิดขึ้นใหม่ได้ในสังคมไทยแทบจะตลอดเวลา นับตั้งแต่การมาของยุคมือถือสมาร์ทโฟน ซึ่งตอบรับกับลักษณะนิสัย เจ้าบทเจ้ากลอน ของคนไทยเป็นอย่างดี ที่สะท้อนให้เห็นบ่อยครั้งอยู่ในงาน วรรณคดีไทย และที่ไม่กล่าวไม่ได้เลยคือประโยคคำว่า “ไม่มีใครเก่งเท่าแม่มึงแล้วค่ะ” ที่ได้กลายเป็นแคปชั่นยอดนิยม บนโซเชียลมิเดีย มาตั้งแต่ปี 2023 จนถึงต้นปี 2024 และคาดว่าจะยังคงเป็นประโยคเด็ดอยู่บนสื่อโซเขียลไปอีกนานต่อไปด้วยั่นเอง

ความหมาย “ไม่มีใครเก่งเท่าแม่มึงแล้วค่ะ” หลากหลายภาษา

สำหรับคำว่า “ไม่มีใครเก่งเท่าแม่มึงแล้วค่ะ” สามารถกล่าวในประโยคภาษาอังกฤษได้ว่า There’s no one better than your mom

ภาษาญี่ปุ่นคือ お前のお母さんより偉いやついない คำอ่าน Omae no okāsan yori erai yatsu inai

ภาษาจีนคือ 沒有人比你媽更厲害了咔~ (Méiyǒu rén bǐ nǐmā gèng lìhài le ka) อ่านว่า Méiyǒu rén bǐ nǐmā gèng lìhài le ka

ประโยคว่า “ไม่มีใครเก่งเท่าแม่มึงแล้วค่ะ” มีความหมายในเชิงอุปมาอุปมัยของการประชดประชัน ถึงคนที่มีลักษณะนิสัยหรือพฤติกรรมคิดว่าตัวเอง เก่งที่สุด เก่งทุกอย่าง ใครทำอะไรก็ขวางหูขวางตาผิดไปหมด เป็นคนที่ยึดถือเอาตัวเองเป็นที่ตั้งของศูนย์กลางจักรวาล แกมันห่วย ฉันสิดี แค่นี้ทำไม่ได้เหรอ บลา บลา ฯลฯ

ไม่มีใครเก่งเท่าแม่มึงแล้วค่ะ มาจากไหน มีม ภาษาไทย อังกฤษ ญี่ปุ่น จีน 2024

สรุปก็คือ เอาไว้เป็นคำด่าถึงคนหรือกลุ่มคนที่เป็นพวกหลงตัวเอง โรคเพอร์เฟคชั่นนิส หรือแล้วแต่บริบทของผู้สนทนา (แต่ในบางกรณีก็อาจเป็นคำชมได้เหมือนกัน ขึ้นอยู่กับเจตนาของผู้พูด)

ไม่มีใครเก่งเท่าแม่มึงแล้วค่ะ มาจากไหน มีม ภาษาไทย อังกฤษ ญี่ปุ่น จีน 2567

ประวัติที่มา คำว่า “ไม่มีใครเก่งเท่า…มึงแล้ว”

ย้อนกลับไป เมื่อต้นปี 2023 ในเดือนกุมภาพันธ์ น้องไซอัลบลู สกาย ดูวาล ลูกชายของ ปุ้มปุ้ย พรรณทิพา และแร็ปเปอร์หนุ่ม กวินท์ ดูวาล ได้ถูกชาวเน็ตบางกลุ่ม แสดงความคิดเห็นในเชิงการแซะหรือเสียดสี กรณีที่ ปุ้มปุ้ย ตั้งใจว่าจะไม่เปิดหน้าลูกจนกว่าเขาจะสามารถตัดสินใจเองได้ เพื่อปกป้องสิทธิความเป็นส่วนตัวของลูกน้อยนั่นเอง

จนกระทั่งเมื่อวันที่ 21 กุมภาพันธ์ 2566 ปุ้มปุ้ย ก็ได้ออกมาเคลื่อนไหวผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว Pantipa Arunwattanachai พร้อมโพสต์แคปชั่นสุดแซ่บสะเทือนไปถึงชาวเน็ตขี้แซะดังกล่าว ด้วยข้อความที่ว่า

“ไม่มีใครดีเท่ามึงกับแม่มึงแล้วค่าาา”

ส่งผลให้ประโยคดังกล่าวได้กลายเป็น “มีม” ฮิตติดเทรนด์ทวิตเตอร์(เอ็กซ์) ในช่วงเวลานั้น และก็กลายเป็นคำที่ผู้คนส่วนใหญ่นำมาใช้กันบนโซเชียลจนถึงทุกวันนี้อีกด้วย

มีม ไม่มีใครเก่งเท่าแม่มึงแล้วค่ะ มาจากไหน ตอบแล้ว