อัยการคดีพิเศษ นัดสั่งฟ้อง สุนทร วิลาวัลย์ พร้อมพวกรวม 11 คน คดีบุกรุกที่เขาใหญ่ 28 ก.พ. นี้ อยู่ระหว่างสั่งสอบเพิ่มตามคำสั่ง อสส.
นายวิรุฬห์ ฉันท์ธนนันท์ อธิบดีอัยการสำนักงานคดีพิเศษ เปิดเผยความคืบหน้ากรณีที่ กรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) โดยกองคดีทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม คณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษ ได้มีหมายเรียกนายสุนทร วิลาวัลย์ กับพวกรวม 11 คน มารับทราบข้อกล่าวหาฐาน ร่วมกันบุกรุกเข้ายึดถือ ครอบครอง ก่อสร้าง แผ้วถาง ในเขตอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ หมู่ 13 ต.โพธิ์งาม อ.ประจันตคาม จ.ปราจีนบุรี ตามคำสั่งของอัยการสูงสุด โดยผู้ต้องหาทั้งหมดได้รับทราบข้อกล่าวหาแล้ว หลังจากนี้จะได้มีหนังสือส่งบันทึกแจ้งข้อกล่าวหาดังกล่าว รวมทั้งผลการประเมินมูลค่าความเสียหายเป็นรายบุคคล ไปยังสำนักงานอัยการสูงสุดเพื่อมีคำสั่งทางคดีต่อไปนั้น
นายวิรุฬห์กล่าวว่า คดีนี้เป็นคดีสำคัญ เกี่ยวกับการร่วมกันบุกรุกป่าและเขตอุทยานและที่ดินของรัฐ มีผู้ต้องหาทั้งหมด 12 คนในชั้นสุดท้ายที่อสส. ชี้ขาดให้ฟ้องผู้ต้องหา 12 คน (เสียชีวิต 1 คน เหลือ 11 คน)
ทั้ง 12 คนอาจแตกต่างกัน เรื่องการแยกคำนวณเรื่องการการดำเนินการในส่วนแพ่ง ตามข้อกล่าวหาความผิดฐานร่วมกันบุกรุกป่าร่วมกันบุกรุกเขตอุทยานฯ ซึ่งเป็นที่ดินของรัฐตาม พ.ร.บ. ป่าไม้ พ.ร.บ.อุทยานแห่งชาติฯประมวลกฎหมายที่ดิน
นอกจากมีการชี้ขาดให้ฟ้องหรือคำสั่งให้ฟ้อง ทางอสส. ให้สอบสวนเพิ่มเติมบางประเด็นด้วย ขณะนี้ทางอัยการ ได้แจ้งพนักงานสอบสวนให้สอบสวนเพิ่มเติมอยู่ กระทั่งถึงวันนัดที่ 10 ม.ค.ที่ผ่านมา โดยผลการสอบสวนเพิ่มเติมยังสอบมาไม่ครบถ้วน จึงจำเป็นต้องเลื่อนนัดสั่งคดีออกไป ซึ่งนัดครั้งต่อไปจะเป็นวันที่ 28 ก.พ. ตรงนี้ต้องรอผลการสอบสวนเพิ่มเติม ถ้าส่งมาครบถ้วนแล้ว ในช่วงวันนัดถัดไปก็จะนำตัวผู้ต้องหาทั้ง 12 คนไปยื่นฟ้องต่อตามข้อกล่าวหาต่อไป
เมื่อถามว่าในวันที่ 28 ก.พ.นี้ ถ้าผลสอบยังไม่มา อาจต้องเลื่อนฟังคำสั่งต่อไปหรือไม่ นายวิรุฬห์ กล่าวว่า ถ้าส่งมาไม่ครบถ้วน ทางอัยการจำเป็นที่จะเลื่อนคดีไปก่อนตามกฎระเบียบ เเต่เมื่อถ้าส่งมาครบถ้วนแล้วเราจะนำตัวผู้ต้องหาไปยื่นฟ้องต่อศาลต่อไป
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนหน้านี้ ดีเอสไอ ได้ออกเอกสารเเถลงข่าวเเจ้งว่า คดีนี้ สืบเนื่องมาจากคณะกรรมการคดีพิเศษ มีมติในการประชุม ครั้งที่ 4/2555 เมื่อวันที่ 27 มิ.ย. 2555 ให้รับกรณีบุคคล/กลุ่มบุคคลกระทำการบุกรุกและออกเอกสารสิทธิโดยมิชอบในเขตพื้นที่อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ หมู่ที่ 13 ต.โพธิ์งาม อ.ประจันตคาม จ.ปราจีนบุรี จำนวน 22 แปลง เนื้อที่ 251–3–52 ไร่ มูลค่าความเสียหาย 21,134,075.50 บาท ไว้สอบสวนเป็นคดีพิเศษ ตามมาตรา 21 วรรคหนึ่ง (2) แห่งพ.ร.บ.การสอบสวนคดีพิเศษ พ.ศ. 2547 และที่แก้ไขเพิ่มเติม
โดยรับเป็นคดีพิเศษที่ 149/2555 ทางการสอบสวนปรากฏข้อเท็จจริงว่ามีเจ้าหน้าที่ของรัฐเกี่ยวข้อง ในการออกโฉนดที่ดินโดยมิชอบด้วยกฎหมายอันความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการ จึงส่งสำนวนการสอบสวนคดีพิเศษที่ 149/2555 ไปดำเนินการตามกฎหมาย
ในส่วนของการกระทำความผิดฐานบุกรุกของราษฎร กรมสอบสวนคดีพิเศษ ได้สืบสวนขยายผลและแยกสำนวนการสอบสวนเป็นคดีพิเศษที่ 136/2558 มีการดำเนินคดีกับ นายสุนทร อดีตสส.และอดีตรมช.สาธารณสุข กับพวก รวม 13 คน ในความผิดฐาน “ยึดถือครอบครองพื้นที่อุทยานแห่งชาติ อันเป็นการสมคบกับเจ้าหน้าที่ของรัฐในการออกโฉนดที่ดินโดยมิชอบด้วยกฎหมายและนำเอาโฉนดที่ดินไปใช้เพื่อยึดถือครอบครองที่ดินในเขตอุทยานแห่งชาติ”
ภายหลังมีพ.ร.ป.ว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2561 บังคับใช้ กำหนดให้คดีที่มีการกระทำความผิดเกี่ยวข้องกันกับคดีที่คณะกรรมการ ป.ป.ช.ดำเนินการอยู่ ให้เป็นอำนาจของคณะกรรมการ ป.ป.ช.
กรมสอบสวนคดีพิเศษ จึงส่งสำนวนการสอบสวนคดีพิเศษที่ 136/2558 ไปยัง ป.ป.ช. เพื่อรวมดำเนินการกับคดีพิเศษที่ 149/2555 ที่ส่งไปก่อนหน้านี้ ต่อมา ป.ป.ช. ได้ส่งสำนวนคืนมาให้พนักงานสอบสวนคดีพิเศษทำการสอบสวนตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญาต่อไป
พนักงานสอบสวนคดีพิเศษ จึงรับเป็นคดีพิเศษที่ 2/2562 และสอบสวนจนเสร็จสิ้น เสนอสำนวนการสอบสวนพร้อมความเห็นควรสั่งฟ้องผู้ต้องหา 12 คน และเห็นควรสั่งไม่ฟ้อง 1 คน เนื่องจากถึงแก่ความตาย ไปยังพนักงานอัยการสำนักงานคดีพิเศษ สำนักงาน อสส.
ล่าสุด อสส. ได้พิจารณาแล้ว มีคำสั่งให้พนักงานสอบสวนคดีพิเศษ ดำเนินการประเมินมูลค่าความเสียหายเป็นรายบุคคล ซึ่งคณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษ ได้มีหนังสือแจ้งให้กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช ดำเนินการประเมินมูลค่าความเสียหายและได้รับผลการประเมินเรียบร้อยแล้ว และให้แจ้งข้อกล่าวหาแก่ นายสุนทร กับพวก ตามบทกฎหมายที่แก้ไขใหม่
ส่วนผู้ต้องหาอีก 1 คน ถึงแก่ความตาย สิทธินำคดีอาญามาฟ้องระงับไปตามกฎหมาย จึงมีหมายเรียกผู้ต้องหาทั้ง 11 คน มารับทราบข้อกล่าวหาในวันที่ 4 ม.ค.ที่ผ่านมา
