ข่าวข่าวการเมือง

‘ชัยชนะ’ ฝากถึง ‘เศรษฐา’ โรงพยาบาลตำรวจ วงจรเสียทั้งตึก ไม่ได้เยี่ยม ‘ทักษิณ’

ชัยชนะ ฝากถึง เศรษฐา โรงพยาบาลตำรวจ วงจรเสียทั้งตึกอาคารมหาภูมิพลราชานุสรณ์ 88 ไม่ได้เยี่ยม ทักษิณ แต่ดูหน้าห้อง

นายชัยชนะ เดชเดโช ส.ส.นครศรีธรรมราช และรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการการตำรวจ สภาผู้แทนราษฎร ได้ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชน หลังดูงานที่โรงพยาบาลตำรวจ ปมเรื่องการรักษาตัวของ นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี

นายชัยชนะเผยว่าตนได้ทราบว่าขณะนี้ มีผู้ต้องขังที่มารักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลตำรวจที่ค้างคืนนั้น มีเเค่คนเดียวคือ นายทักษิณ ชินวัตร ที่เหลือเป็นเพียงผู้ต้องขังที่มีอาการป่วย แต่เป็นการรักษาแบบเช้าเย็นกลับ ตนได้หารือตามกรอบระเบียบของทางโรงพยาบาลตำรวจ จึงได้รับอนุญาตให้ขึ้นไปยังอาคารมหาภูมิพลราชานุสรณ์ 88 พรรษา ชั้น 14 เพื่อไปดูขั้นตอนในการคุมขัง โดยตนและคณะกรรมาธิการการตำรวจนั้น ไม่ได้เข้าไปภายในชั้นทางเดินของชั้น 14 หรือภายในห้องเเต่อย่างใด เพียงเเค่อยู่ในจุดบริเวณหน้าห้องเพียงเท่านั้น ซึ่งพบว่ามีเจ้าหน้าที่ กรมราชทัณฑ์ปฏิบัติหน้าที่อยู่ 2 นาย ร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจสน.ปทุมวัน 3 และเจ้าหน้าที่ตำรวจสันติบาล 3 นาย รวมเป็น 8 นาย แต่ประจำอยู่จุดไหนนั้นไม่สามารถบอกได้

หลังจากนั้นจึงได้ลงมายังชั้น 7 เพื่อมาดูขั้นตอนในการปฏิบัติงานการรักษาผู้ป่วยที่เป็นผู้ต้องขัง ที่มีโรคต้อกระจก ว่าเป็นอย่างไร โดยมีเจ้าหน้าที่ กรมราชทัณฑ์ ดูแลเช่นเดียวกัน จึงจะเห็นได้ว่ากรมราชทัณฑ์นั้นปฏิบัติกับนักโทษที่มารักษาตัวอย่างเท่าเทียมกัน ส่วนว่าในตอนที่ขึ้นไปชั้น 14 ได้พบเจอนายทักษิณหรือไม่นั้น เป็นเรื่องของพ.ร.บ.ส่วนบุคคล ที่ได้อนุญาตจะอนุญาตให้เยี่ยมหรือไม่ให้เยี่ยม แต่ทางคณะกรรมาธิการการตำรวจไม่ได้เจาะจงมาเยี่ยมใครเป็นพิเศษ เพียงแต่มาเพื่อดูว่าขั้นตอนในการปฏิบัติรักษาเท่าเทียมกันหรือไม่

นายชัยชนะ ยังกล่าวอีกว่า ได้รับข้อมูลมาว่า ประตูห้องพักรักษาตัวของนายทักษิณที่อยู่บนชั้น 14 นั้นไม่ได้มีการล็อกใดๆทั้งสิ้น เจ้าหน้าที่สามารถเปิดเข้าออกได้ตลอดเวลา

ผู้สื่อข่าวถามว่าทางคณะกรรมาธิการการตำรวจ ได้มีความสงสัยหรือไม่ว่าอาการป่วยของนายทักษิณนั้นจะต้องพักรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาลอีกนานเท่าไหร่ นายชัยชนะ กล่าวว่า ทางคณะกรรมาธิการการตำรวจ ไม่ขอก้าวล่วงในการรักษาของแพทย์ เพียงแต่วันนี้นั้นมาตรวจสอบข้อเท็จจริง โดยหลังจากนี้นั้นต้องกลับไปถาม อธิบดี กรมราชทัณฑ์ว่าเอกสารที่ทางคณะกรรมาธิการการตำรวจได้ขอไป 1.เกี่ยวกับเรื่องของข้อมูลผู้คุมคนใดที่ได้มาเข้าเวรที่นี่ และมีการปรับเปลี่ยนเวรอย่างไร 2.ในส่วนของค่ารักษาพยาบาล ที่แจ้งว่าใช้สิทธิของสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) ว่าถ้าเกินสิทธิสามารถไปใช้เงินส่วนตัวได้นี้นั้นใช้ระเบียบข้อไหน 3. สำเนาใบ รท.101ที่ได้ขอไปนั้นได้ทำไว้หรือเปล่า ทางคณะกรรมาธิการการตำรวจ ก็จะต้องไปตามเอกสารจากกรมราชทัณฑ์ ซึ่งวันนี้นั้นจะต้องขอขอบคุณทางโรงพยาบาลตำรวจ ที่ให้ทางคณะกรรมาธิการได้ขึ้นไปตรวจสอบยังชั้น 14 จึงไม่มีข้อข้องใจกับทางโรงพยาบาลตำรวจแล้ว ยังเหลือเพียงแต่ข้อข้องใจกับทางกรมราชทัณฑ์เกี่ยวกับเอกสารที่ทางคณะกรรมาธิการได้ขอไปเพียงเท่านั้น

นายทักษิณ ชินวัตรนั้นไม่ได้ผิดอะไรหรอก เพียงแต่กรมราชทัณฑ์นั้นจะต้องออกมาชี้แจงกับสังคมอย่างชัดเจน หากเมื่อไหร่ที่ชี้แจงไม่ชัดเจน จำเลยของสังคมก็คือกรมราชทัณฑ์นั่นเอง ส่วนตนขอยอมรับว่าสิ่งที่โรงพยาบาลตำรวจทำในวันนี้นั้นถูกต้องที่สุด หน้าที่ในการยืนยันว่านายทักษิณนั้นอยู่หรือไม่อยูโรงพยาบาลตำรวจนั้น ไม่ใช่หน้าที่ของตนแต่เป็นหน้าที่ของกรมราชทัณฑ์

ทั้งนี้นายชัยชนะทิ้งท้ายว่า ฝากถึงนายกรัฐมนตรีว่า ของบ 2-5 ล้านบาท มาซ่อมกล้องวงจรปิดอาคารมหาภูมิพลราชานุสรณ์ 88 พรรษา เพราะเสียแทบทั้งตึก เนื่องจากติดตั้งมากว่า 10 ปี ตั้งแต่ก่อนนายทักษิณเข้ารักษาตัวแล้ว

พยาบาลชั้น 14 เล่า ‘ทักษิณ’ ป่วยภาวะหัวใจรั่ว – กมธ. ตำรวจ ยังไม่เห็นตัวเป็น ๆ

Nateetorn S.

ผู้สื่อข่าว ทำงานกับ Thaiger มาตั้งแต่ปี 2020 จบการศึกษาจากคณะวารสารศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสคร์ เคยทำงานกับสถานีโทรทัศน์อันดับ 1 ของประเทศ ทำให้มประสบการณ์ความเชี่ยวชาญ เจาะประเด็นข่าวการเมืองอาชญากรรม ข่าวแปลกๆ เรื่องน่าสนใจจากต่างประเทศ ช่องทางติดต่อ tee@thethaiger.com

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ใส่ความเห็น

Back to top button