สยอง เด็ก ป.5 ถูกรั้วเสียบเข่า พลาดขณะปีนรั้ว เพื่อนงงปีนทำไม เลิกเรียนแล้ว
สยอง เด็ก ป.5 ถูกรั้วเสียบเข่า พลาดขณะปีนรั้ว เจ้าหน้าที่นำตัวช่วยเหลือได้สำเร็จ ด้านเพื่อนงงปีนรั้วทำไม เลิกเรียนแล้ว
เมื่อเวลา 16.20 น. ของวันที่ 11 มกราคม 2567 อาสากู้ภัยและกู้ชีพมูลนิธิอุดรสว่างเมธาธรรมสถาน ได้รับแจ้งเหตุนักเรียนชายปีนกำแพงรั้วข้างโรงเรียนบ้านหมากแข้ง เขตเทศบาลนครอุดรธานี เพื่อจะกลับบ้าน แต่พลาดถูกเหล็กแหลมบนกำแพงรั้วเสียบขา ร่างห้อยอยู่บนกำแพงรั้ว จึงรุดลงพื้นที่เพื่อเข้าช่วยเหลือผู้ได้รับบาดเจ็บ
เมื่อถึงที่เกิดเหตุบริเวณหลังห้องน้ำ ที่อยู่ติดกับวิทยาลัยสารพัดช่างอุดรธานี พบ ด.ช.แมดทิว อายุ 11 ปี นักเรียนชั้น ป.5/7 โดยมีเพื่อนนักเรียนคอยประคองร่างเอาไว้ เนื่องจากเหล็กแหลมบนรั้วกำแพงสูงประมาณ 2 เมตร เสียบเข้าบริเวณหัวเข่าด้านขวาลึกประมาณ 2-3 นิ้ว โดยระหว่างรออาสากู้ภัยฯ ประกอบเครื่องตัดถ่างอยู่นั้น อาสากู้ภัยฯ ที่ช่วยประคองร่างน้องแมดทิวเอาไว้ พร้อมกับพยายมพูดคุยกับน้องแมดทิวอยู่ตลอดเวลา เพราะเกรงว่าน้องจะหมดสติ แผลที่ถูกเหล็กเสียบเข้าไปลึก จะทำให้แผลฉีกขาดขนาดใหญ่ เนื่องจากจุดที่ถูกเหล็กเสียบ เป็นบริเวณหัวเข่าด้านใน อาจทำให้เด็กพิการหัวเข่าหรือขาผิดรูปได้
โดยเจ้าหน้าที่ใช้เวลา 30 นาที จึงสามารถตัดเหล็กที่เสียบออกจากกำแพงได้ ก่อนเร่งส่งตัวน้องแมดทิวไป รพ.ศูนย์อุดรธานี เพื่อผ่าตัดเหล็กออกจากหัวเข่า ที่ถูกเหล็กเสียบจนกระดูกหัวเข่าแตก แต่ผู้ได้รับบาดเจ็บยังมีสติให้การได้
สอบถาม ด.ญ.โบว์ อายุ 10 ปี นักเรียนชั้น ป.5/8 เล่าว่า ขณะตนและเพื่อนๆ มาเข้าห้องน้ำหญิงหลังเลิกเรียน ได้ยินเสียงร้องขอความช่วยเหลือ ทีแรกนึกว่าเพื่อนเล่นกัน จึงออกมาดูก็พบแมดทิวถูกเหล็กกำแพงเสียบขา ร่างห้อยอยู่บนกำแพงรั้วหลังห้องน้ำชายที่อยู่ติดกัน จึงพากันวิ่งไปบอกครู และทราบเพียงว่าแมดทิวเขาไม่อยากรอหรืออะไรก็ไม่รู้ จึงปีนกำแพงเพื่อออกจากโรงเรียน และติดอยู่กำแพงประมาณ 20 นาที แต่ก็เป็นเวลาหลังเลิกเรียนแล้ว
ขณะที่ ผอ.โรงเรียน เล่าว่า รู้สึกตกใจกับเหตุการณ์ครั้งนี้ ถือว่าเป็นเคสแรกที่ตนมารับตำแหน่ง หลังได้รับรายงานจากครูผู้สอน ตนก็รีบมาที่เกิดเหตุ เพราะเป็นห่วงอาการเด็กว่าหนักมากน้อยเพียงใด ซึ่งอาสากู้ภัยฯและกู้ชีพ ได้ช่วยเหลือปฐมพยาบาล หลังจากตัดเหล็กที่เสียบหัวเข่าออกจากกำแพงรั้วจนสำเร็จ และถูกส่งตัวไปผ่าตัดที่ รพ.ศูนย์อุดรธานี ขณะนี้ผู้ปกครอง และครูประจำชั้น ได้ไปรออยู่ที่โรงพยาบาลแล้ว
ที่ผ่านมาทางโรงเรียนได้กำชับนักเรียนทุกคนว่า ไม่ให้ปีนป่ายรั้วโรงเรียน หรือปีนขึ้นที่สูง เพราะประตูโรงเรียนมี 3 ด้าน หลังเลิกเรียนก็จะเปิดให้ผู้ปกครองมารับบุตรหลานกับบ้านตามปกติ แต่ไม่รู้ว่าน้องคิดอย่างไรจึงได้ปีนกำแพงรั้วออกจากโรงเรียนอย่างนั้น เบื้องต้นทราบว่าน้องไม่อยากรอผู้ปกครอง หรือรอประตูโรงเรียนเปิดก็ไม่แน่ชัด และเป็นอุบัติเหตุ เหตุสุดวิสัย ไม่มีใครอยากให้เกิดขึ้น เบื้อต้นทราบว่าน้องยังมีสติและปลอดภัย