ไลฟ์โค้ชตัวจริง แชร์งานสบาย เงินดี คนในไม่อยากออก เปรียบเป็น “ยามห้องแอร์”
ยิ่งกว่าไลฟ์โค้ช หนุ่มโพสต์แชร์อาชีพสบาย ๆ เงินเดือนดี แต่แทบไม่ต้องทำอะไร แถมยังเป็นงานที่หายาก เพราะคนในไม่อยากออก เผยตนพบความสบายใจของชีวิตแล้ว
ในยุคสมัยแห่งการแข่งขัน ผู้คนต่างมุ่งมั่นที่จะประสบความสำเร็จ ฝันได้ทำงานตำแหน่งใหญ่โต แต่ทว่ามีคนอีกกลุ่มหนึ่งที่อยากใช้ชีวิตแบบเรียบง่าย ขอแค่มีความสุข ไม่เน้นทะเยอทะยานหรือฟุ่มเฟือย อย่างเช่นเจ้าของเฟซบุ๊กชื่อ เกี้ยมอี๋ ซึ่งได้มาเล่าประสบการณ์ทำงานอาชีพสบาย ๆ นั่งในห้องแอร์ ลูกค้าไม่เยอะแต่ได้เงินเดือนสม่ำเสมอ เผยตนไม่ได้อยากร่ำรวย เน้นความสบายเป็นหลัก
เมื่อวันพุธที่ 10 มกราคม 2567 เจ้าของเฟซบุ๊กชื่อ เกี้ยมอี๋ ได้ออกมาเขียนเล่าชีวิตการทำงานในร้านหนังสือห้างดัง เผยเป็นงานที่สบาย โครงสร้างองค์กรเป็นแนวราบ ทำงานคนเดียวในร้าน ฐานเงินเดือน 12,000 – 17,000 บาท แค่นี้ก็อยู่ได้แล้ว แนะคนชอบสบายอย่าไปทำงานร้านอาหารแฟรนไชส์เด็ดขาด โดยเจ้าตัวได้เล่าเอาไว้อย่างละเอียดในเพจหางาน JobThai Official Group ดังนี้
“แชร์ประสบการณ์งานสบาย รายได้น้อยแต่มีความสุขครับ เหมาะกับคนที่ไม่ทะเยอทะยาน ไม่ฟุ่มเฟือยนะครับ
โอเคเริ่มเลย ผมเป็นคนหนึ่งที่ไม่ได้อยากก้าวหน้า ไม่ได้อยากร่ำรวย พูดง่าย ๆ คือไม่ได้มีความฝันอะไร อยากทำงานสบาย ๆ เงื่อนไขคือต้องนั่งทำงานในห้องแอร์ งานต้องน้อย รายได้ไม่ต้องเยอะ เน้นสบายเป็นหลัก
ผมจะเลือกบริษัทที่ไม่ค่อยมีลูกค้า เช่น ร้านหนังสือ…. ตามสาขาต่างจังหวัด(มักอยู่ในโฮมโปร) , ร้านรองเท้า…ตามห้างต่างจังหวัด, ร้านรองเท้า…สาขาต่างจังหวัด ร้านพวกนี้วัน ๆ จะแทบไม่มีลูกค้าเลย แอร์ก็เย็นฉ่ำ ไม่มีหัวหน้างานมาวุ่นวาย งานแบบนี้โครงสร้างองค์กรเป็นแนวราบ บางไตรมาสเขาจ้างงานแค่สาขาละ 1 คน คือมีแค่ผมคนเดียว รายได้จะอยู่ที่ประมาณ 12,000-17,000 บาท
ผมเรียกอาชีพนี้ว่ายามในห้องแอร์ หน้าที่จริง ๆ ก็เหมือนยามนี่แหละ แต่รายได้ดีกว่ายามทั่วไป ผมเคยลองเป็นยามมาแล้ว ร้อน ยุงกัด แถมรายได้น้อยกว่า ทั้ง ๆ ที่รูปแบบงานคล้ายๆกัน (ร้านขายแว่นก็น่าสนใจ แต่เห็นเขารับแค่ผู้หญิง ผมเลยไม่เคยทำ)
ถ้าคุณอยากทำงานสบาย แล้วอยู่ต่างจังหวัด งานที่ห้ามทำเด็ดขาดคือร้านอาหาร พวกสุกี้, ชาบู หรืองานร้านสะดวกซื้อ งานพวกนี้โคตรเหนื่อยถึงเหนื่อยมาก ๆ แล้วรายได้ไม่ได้ต่างอะไรจากงานที่ผมทำอยู่เลย แต่ความสบายต่างกันราวฟ้ากับดิน งานพวกนั้นจะรีดพลังงานชีวิตของคุณจนหมด คุณจะเหนื่อยแทบบ้าแล้วจะเริ่มถามตัวเองว่าคุณเกิดมาเพื่ออะไร
อาชีพที่ผมทำ คนส่วนมากอยู่กันนาน ไม่ค่อยออก เพราะอยู่ไปสักพัก จะเริ่มกลายเป็นคนขี้เกียจ และไม่สามารถไปทำงานประเภทอื่นได้
ใครก็ตามที่ไม่ว่าจะผ่านงานอะไรมาก่อน ล้วนมาเกษียณที่งานแบบนี้ทั้งนั้น การลาออกจากร้านบาจา หรือร้าน… แทบจะเป็นการลาออกครั้งสุดท้ายกันเลย
ต่างจังหวัดค่าครองชีพต่ำกว่า โดยเฉพาะค่าที่พักและอาหาร รายได้ 12,000-17,000 สามารถอยู่ได้สบาย ๆ เลิกงานวันศุกร์ก็หาร้านคาราโอเกะสักร้าน นั่งดื่มเบียร์เย็น ๆ กินกับข้าวเกรียบและไส้กรอกอีสาน ผ่านชีวิตในแต่ละวันไป
งานที่ผมแนะนำไม่ใช่ว่าวันนี้คุณอยากทำก็ไปสมัครได้ง่าย ๆ นะครับ เพราะมันมีตำแหน่งว่างน้อย เทิร์นโอเวอร์ต่ำมาก คนไม่ค่อยลาออก บางคนแม่ทำงานส่งลูกเรียนจบ ก็ให้ลูกมาสมัครทำต่อ หรือถ้ามีตำแหน่งว่างก็จะรีบเรียกญาติตัวเองมาสมัคร เพราะงานในฝันของใครหลายคน อาจไม่ใช่งานเงินเดือนหลักแสนที่ต้องใช้ความคิดซับซ้อน แต่เป็นงานที่สบาย พอเลี้ยงตัวเองได้ ก็แค่นั้น
สุดท้ายผมจะเล่าว่าผมรู้จักลูกค้าหลายคนที่มาซื้อรองเท้า ด้วยความที่ร้านมันเงียบ ก็เลยคุยกัน ถึงได้รู้ว่าลูกค้าบางคนทำงานเป็นลูกจ้างชั่วคราวแบบต่อสัญญาทุก 1 ปี กับหน่วยงานบริหารท้องถิ่น เช่น พวก อบจ อบต ตามอำเภอต่าง ๆ ได้เงินน้อยกว่าผมอีก ได้แค่8,000-9,000บาท
เท่าที่ฟังดูงานลำบากกว่าผมด้วย แต่หลายคนก็เลือกทำ เพราะบอกว่าพ่อแม่เขาภูมิใจ ที่ลูกทำงานหน่วยงานราชการ เวลาใครถามว่าลูกทำงานที่ไหน การตอบว่าลูกทำงานกับนายกเทศมนตรีคนนั้นคนนี้ ทำงานหน่วยงานบริหารส่วนท้องถิ่นนั้นนี้ มันเป็นความอิ่มใจของพ่อแม่
เรื่องแบบนี้มันก็ประเมินเป็นตัวเลขไม่ได้เหมือนกัน ตอนแรกจะชวนเขามาขายรองเท้า พอฟังแบบนี้แล้วผมใจฟูเลย อดยิ้มไม่ได้ ทำให้ผมเข้าใจว่าความสุขใคร ความสุขมันจริงๆครับ ผมค้นพบตำแหน่งแห่งหนที่ผมอยู่แล้วสบายใจแล้ว ลูกค้าคนนี้ก็ค้นพบพื้นที่ที่เขาสบายใจเจอแล้วเช่นกัน”
ด้านชาวเน็ตหลายคนที่ได้อ่าน ต่างก็รู้สึกชื่นชมแนวคิดเจ้าของโพสต์ เพราะถือเป็นคนที่ถ่ายทอดเรื่องราวได้ดี และให้แง่คิดใหม่ ๆ แก่สังคมได้อีกด้วย โดยหลายคนเผยว่า หากไม่มีหนี้สินหรือภาระที่ต้องรับผิดชอบ ก็อยากลองใช้ชีวิตแบบนี้ดูบ้างเหมือนกัน.