วิธีป้องกันลูกพลัดหลง ในงานวันเด็กแห่งชาติ ป้องกันการสูญเสีย
8 วิธีป้องกันลูกผลัดหลง ในงานวันเด็กแห่งชาติ เตรียมพร้อมดูแลไม่ให้คลาดสายตา เพื่อความสนุกสนานของลูกหลานแบบไร้กังวล
ใกล้เข้ามาทุกขณะกับเทศกาลวันเด็กแห่งชาติ 13 มกราคม 2567 ผู้ปกครองหลายท่านคงวางแผน เตรียมพาบุตรหลานเข้าร่วมกิจกรรมวันเด็ก ในสถานที่จัดกิจกรรมใกล้บ้าน แน่นอนว่าผู้เข้าร่วมงานย่อมมีเป็นจำนวนมาก เนื่องจากเป็นงานที่หนึ่งปีมีครั้งเดียว หากไม่ระมัดระวังอาจพลัดหลงกับลูกน้อยโดยไม่รู้ตัว
วิธีเตรียมตัวป้องกัน กรณีเกิดเหตุลูกพลัดหลงในงานวันเด็ก จึงเป็นสิ่งที่ผู้ปกครองควรรับทราบ และเตรียมพร้อมเผื่อเกิดเหตุไม่คาดฝันขึ้น เพื่อรับมือได้อย่างทันท่วงที เพราะจากสถิติล่าสุด จากศูนย์ข้อมูลคนหายมูลนิธิกระจกเงา เผยว่าเมื่อปี 2566 มีเด็กหายทั้งหมด 296 คน สูงขึ้นกว่าเดิมในรอบ 5 ปี สูงกว่าปี 2565 ถึง 17 เปอร์เซ็นต์
วิธีป้องกันลูกพลัดหลง เที่ยวงานวันเด็กแห่งชาติ 2567
ก่อนเดินทางออกจากบ้าน พ่อแม่ผู้ปกครองต้องเตรียมตัวให้บุตรหลานตัวเอง กรณีเกิดเหตุไม่คาดคิด เพื่อความมั่นใจว่า หากเกิดการพลัดหลงกัน จะสามารถตามหาตัวเด็กเจอ
1. เขียนป้ายชื่อเด็ก พร้อมระบุชื่อและเบอร์โทรศัพท์ผู้ปกครอง
วิธีการแรกเป็นวิธีที่ค่อนข้างง่ายแต่ปลอดภัยที่สุด ให้เราเตรียมป้ายชื่อติดตัวเด็กไว้ โดยด้านหน้าของป้ายมี ชื่อ นามสกุล และชื่อเล่นของเด็ก และด้านหลังของป้าย ให้เขียนชื่อพ่อ-แม่ รวมถึงเบอร์โทรศัพท์ติดต่อกลับ ทั้งสอนบุตรหลานของตนเอง ว่าหากเกิดการผลัดหลงให้โชว์ป้ายดังกล่าว เพื่อให้คนที่พบเห็นเด็ก สามารถโทรศัพท์ติดต่อผู้ปกครอง เพื่อส่งคืนเด็กสู่อ้อมอกของพ่อแม่
2. จูงมือเด็ก หรือใช้อุปกรณ์ช่วยจูงเด็ก
ผู้ปกครองควรจูงมือบุตรหลานของตนเองไว้ตลอดเวลา เนื่องจากการที่ต้องไปในสถานที่ที่มีคนเยอะ หากคลาดสายตาหรือปล่อยมือเพียงไม่นาน ลูกน้อยของคนอาจจมหายไปในฝูงก็เป็นได้ ดังนั้นต้องจับมือและไม่ปล่อยให้เขาคลาดสายตาเด็ดขาด ในกรณีเด็กเล็กอาจใช้วิธีการอุ้มไว้กับตัว หรือใช้สายจูงก็สามารถช่วยป้องกันไม่ให้ผลัดหลงกันได้
3. ถ่ายรูปเด็ก ก่อนไปร่วมงานวันเด็กแห่งชาติ
การถ่ายรูปลูกหลานของท่าน ก่อนออกจากบ้านไปท่องเที่ยวงานวันเด็กแห่งชาติ ถือว่าเป็นสิ่งที่ควรทำอย่างยิ่ง เนื่องจากจะทำให้ผู้ปกครองจดจำชุด สีเสื้อ หรือลักษณะที่สังเกตได้ง่ายของลูก หากเกิดเหตุผลัดหลงขึ้น สามารถนำรูปถ่ายดังกล่าวเพื่อไปประชาสัมพันธ์ตามหาลูกหลานของตนเองได้ง่ายยิ่งขึ้น
4. ให้เด็กพกโทรศัพท์หรือสมาร์ทวอชติดตัว
โทรศัพท์มือถือ เป็นอุปกรณ์อีกหนึ่งอย่างที่มีประโยชน์มาก หากเกิดผลัดหลงกับเด็ก ๆ โดยโทรศัพท์ที่จะให้เด็กพกติดตัวนั้น อาจเป็นโทรศัพท์ที่ใช้ได้เฉพาะโทรเข้า – โทรออก ราคาไม่แพง โดยบันทึกเบอร์โทรของผู้ปกครองเอาไว้ เพื่อให้สะดวกต่อการติดต่อกัน หรือในกรณีเด็กเล็ก ให้มอบสมาร์ทวอชให้เด็กใส่เอาไว้ เนื่องจากในปัจจุบันในสมาร์ทวอชมี จีพีเอส ที่สามารถติดตามตัวได้ไม่ยากเย็น
5. พกน้ำดื่มและอาหารติดตัวเสมอ
สาเหตุสำคัญที่ทำให้พ่อแม่ต้องผลัดหลงกับลูกหลาน คือ การที่ลูก ๆ งอแงหิวข้าว หิวขนม หิวน้ำ เลยรีบวิ่งฝ่าฝูงชนไปยังร้านอาหารที่ตนอยากกิน ดังนั้นแล้วต้องเตรียมอาหาร ขนม น้ำดื่มให้พร้อม หากเด็ก ๆ เกิดหิวขึ้นมา จะได้ไม่งอแง และอยู่ภายใต้การควบคุมของเราภายในงานวันเด็กอย่างง่ายดาย ทั้งยังลดอัตราการผลัดหลงของเด็กอีกด้วย
6. แนะนำสถานที่นัดพบให้แก่เด็ก หากเกิดการผลัดหลง
การพูดคุยตกลงสถานที่ในการนัดพบกับเด็ก ถือว่าเป็นอีกหนึ่งวิธีในการลดโอกาสการผลัดหลงง่ายขึ้น หากผู้ปกครองและบุตรหลานเกิดผลัดกัน ก็สามารถมาพบเจอในจุดนัดพบที่สังเกตได้ง่าย เช่น จุดประชาสัมพันธ์ หน้าร้านค้า บริเวณหน้าเวทีกิจกรรมวันเด็ก เป็นต้น ทั้งยังเป็นจุดที่เด็กสามารถขอความช่วยเหลือคนแปลกหน้าที่สามารถไว้วางใจได้ อาทิ พิธีกรประจำงาน เจ้าหน้าที่บริเวณใกล้เคียง เป็นต้น
7. สอนให้เด็กขอความช่วยเหลือจากผู้อื่น
การสอนให้เด็กขอความช่วยเหลือจากคนแปลกหน้า อาจจำเป็นในการไปเที่ยวงานวันเด็ก เนื่องจากหากเด็กผลัดหลงกับพ่อแม่ขึ้นมา จะสามารถเอาตัวรอดด้วยตัวเองได้ โดยการที่เราสอนให้เด็กจดจำชุดยูนิฟอร์มของคนที่สามารถขอความช่วยเหลือได้ เช่น ตำรวจ ทหาร พยาบาล เจ้าหน้าที่ภายในงาน เป็นต้น เพื่อป้องกันเด็กไปขอความช่วยเหลือจากคนที่ไม่หวังดีได้
8. รีบแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจบริเวณใกล้เคียง หากเด็กผลัดหลง
เมื่อเด็กเกิดการผลัดหลง ให้ผู้ปกครองรีบแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจในพื้นที่โดยทันที เพื่อให้ช่วยออกค้นหาในเบื้องต้น หากในพื้นที่ไม่พบเจอตัวเด็ก ให้รีบไปแจ้งความที่สถานีตำรวจในท้องที่นั้น โดยไม่ต้องรอให้เด็กหายครบ 24 ชั่วโมง เพื่อเพิ่มโอกาสในการพบเจอบุตรหลานของท่านโดยเร็ว
สืบนครบาล แนะนำพ่อแม่
นอกจากนี้ เฟซบุ๊ก สืบนครบาล IDMB ยังได้ให้ข้อแนะนำพ่อแม่เตรียมตัวกรณีเด็กหายไว้ว่า ให้ถ่ายรูปของลูกเก็บไว้ ใส่เสื้อผ้าสีสดใสเพื่อให้มองสังเกตได้ง่าย เขียนชื่อเบอร์โทรติดไว้ในกระเป๋าของเด็ก สวมหน้ากากอนามัย สอนให้เด็กจดจำข้อมูลติดต่อของผู้ปกครอง และให้แจ้งเจ้าหน้าที่ทันทีหากพลัดหลงกัน
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง