เปิดประวัติ บุดดา บอย หรือ ลามะปาเดนโดรเจ แห่งเนปาล ที่ผู้คนมากมายต่างเรียกกันว่า พระพุทธเจ้ากลับชาติมาเกิดผู้นำแห่งจิตวิญญาณ พลิกผันสู่ผู้ต้องหาคดีข่มขืน ลักพาตัว
บุดดา บอย หรือที่คนไทยต่างรู้จักกันในนาม ลามะเนปาล เด็กหนุ่มเนปาลคนหนึ่งที่มีหลายคนบอกกันมาว่าเขาสามารถนั่งสมาธิ โดยที่อดข้าวอดน้ำเพื่อนั่งบำเพ็ญเพียรสมาธิตลอดโดยไม่ได้ขยับตัวไม่ยอมลุกไปไหนนานถึง 6 ปี ตั้งแต่ปี 2548 ทำให้เป็นที่สนใจอย่างของเหล่าประชาชนทั่วโลกหลาย ๆ คนเกิดความศัทธาเดินทางมากราบไว้เพราะมีความเชื่อว่าเขาเป็นพระพุทธเจ้ากลับชาติมาเกิด ึงได้ตั้งฉายาให้ว่า บุดดา บอย
ประวัติ บุดา บอย ลามะเนปาล
บุดา บอย มีชื่อจริงว่า ราม บาฮาดูร์ บอมจอน หรือ ปาลเด็น ดอร์เจ กิดเมื่อวันที่ 9 เมษายน พ.ศ. 2533 ในปัจจุบันอายุ 33 ปี เป็นนักพรตจากเมืองรัตนปุรี เขตบารา ที่ประเทศเนปาล บุดา ได้รับความสนใจและเป็นที่นิยมของสื่อต่าง ๆ เพราะมีความคล้ายคลึงพระพุทธเจ้าที่ได้อ้างว่าเป็นการกลับชาติมาเกิดของพระพุทธเจ้าโคตมะ
ในปี พ.ศ. 2548 ของเดือนพฤษภาคม บุดา บอย หรือ บอมจอน วัย 15 ปี ได้ออกจากบ้านทีใกล้กับชายแดนอินเดีย เพราะเขาได้ฝันว่ามัพระเจ้าองค์หนึ่งปรากฎต่อหน้าเขาและบอกให้เขาออกจากบ้านไปนั่งสมาธิที่โคนต้นของต้นพิพัล เป็นเวลา 10 เดือน โดยเขาไม่พูด ไม่กิน ไม่ดื่ม หรือขยับตัวเลย ทำให้มีผู้คนนับพันเดินทางมาเยี่ยมเยียนเพื่อดู บอมจอน ไม่เคลื่อนไหวเป็นเวลาหลายชั่วโมง เป็นวันถึงเดือน จากคำบอกเล่า
เหล่าผู้นับถือของ บุดดา บอย มีความเชื่อว่าเขาเป็นอวตารของพระพุทธเจ้า โคตมะ แต่ บอนจอนก็ได้ปฏิเสธ และได้บอกกล่าวว่า “บอกประชาชนอย่าเรียกเราว่าพระพุทธเจ้า ขณะนี้เราไม่มีพลังแห่งพุทธะ เราอยู่ในระดับรินโปเช ” และประธานสภาพุทธศาสนาเนปาลก็ได้ออกมากล่าวเหมือนกันว่า “เราไม่เชื่อว่าเขาคือพุทธะ เขาไม่มีคุณสมบัติของพระพุทธเจ้า”
ซึ่งต่อมา บอนจอน ได้หายตัวไปในนที่ 11 มีนาคม พ.ศ. 2549 และในวันที่ 19 มีนาคม พ.ศ. 2549 เบด บาฮาดูร์ ลามะ แห่งพระโอมนะโมพุทธะ ตปสวี เซวา สมิตี ได้ออกมาแถลงการว่าเห็น บอนจอน ในเขตบาราแล้วยังได้สนทนากันเป็นเวลาครึ่งชั่วโมง พร้อมทั้งมีรายงานว่า บอมจอนให้คำรับรองว่าจะกลับมาในอีกหกปี และในเดือนสิงหาคม พ.ศ. 2550 ก็มีคนพบ บอนจอนเทศนาให้แก่ฝูงชนในป่าฮัลโลรีของเนปาล
บุดา บอย ลามะเนปาล สู่นักโทษคดีลักพาตัว ข่มขืน
บุดดา บอย ได้ถูกตำรวจเนปาลเข้าจับกุมตัวในข้อหาล่วงละเมิดทางเพศเด็กสาวอายุ 14 ปี และเกี่ยวข้องกับการหายตัวไปของสาวกอ 4 คน ที่ได้มีครอบครัวของเหยื่อเขาไปแจ้งความไว้
ในช่วงต้นปี พ.ศ.2562 ได้มีครอบครัวของสาวก บุดดา บอย 4 คน เข้าแจ้งความว่าคนในครอบครัวหายไป หลังจากเข้าอาศรมของ บอนจอน ลามะปัลเดน แต่ตำราจก็ได้แต่ระบุว่ายังอยู่ในการตรวจสอบเท่านั้น ซึ่งในก่อนหน้านี้ บอนจอน ก็ได้เคยตกเป็นผู้ต้องหาลวงละเมิดทางเพศมาแล้ว
โดยมีแม่ชีวัย 18 ปีเข้าแจ้งความว่าถูกลามะปัลเดนข่มขืนในอาศรม ตั้งแต่อายุ 15 แต่ด้วยกฎหมายที่อายุเธอยังไม่สามารถฟ้องเขาได้ ทางตำรวจจึงยังไม่ได้ตั้งของหา แล้วสุดท้ายเรื่องก็เงียบไป แถมยังมีการร้องเรียนนับสิบครั้งในข้อหาทำร้ายร่างกาย แต่บอนจอนก็ได้อ้างว่าคนเหล่านี้มาก่อกวนเขาในเวลากำลังทำสมาธิ
นอกจากนี้สำนักงานสืบสวนกลางของเนปาล ได้เผยว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำการขุดค้นหาหลักฐานในป่าใกล้อาศรมหลังจากได้รับเบาะแสมาว่า สาวกที่หายตัวไปอาจกลายเป็นศพไปแล้วแต่ก็ยังไม่พบหลักฐานอะไร
ต่อมา เมื่อวันที่ 10 มกราคม 2567 ตำรวจเนปาลได้ออกมาแถลงว่าได้จับกุมตัว ราม บาฮาดูร์ บอมจอน ในเมื่อวันที่ 9 มกราคม 2567 ในอาศรมของเขา ที่ชานกรุงกาฐมาณฑุ ในข้อหาล่วงละเมิดทางเพศสาวก และหลบซ่อนตัวอยู่หลายปี โดยหลังจากการเข้าจับกุม ตำรวจได้นำตัวบอนจอนมายืนต่อสื่อในสภาพถูกใส่กุญแจมือเอาไว้
ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจเผยว่า ราม บาฮาดูร์ บอมจอน พยายามที่จะกระโดดหลบหนีลงจากอาคารที่พัก ขณะที่เจ้าหน้าได้บุกเข้าไปจับกุมตัว แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจก็สามารถจับกุมควบคุมตัวไว้ได้ และในตอนที่จับกุมตำรวจยังได้นำธนบัตรเนปาล ที่ระบุว่า เป็นเงินมูลค่า 227,000 ดอลลาร์สหรัฐ ประมาณ 8 แสนบาท จากบ้านของจอนบอนอีกด้วย โดยจากการแถลงการณ์ของเจ้าหน้าที่ตำรวจเนปาล บอนจอน จะถูกนำตัวไปขึ้นศาลที่ตอนใต้ของเนปาล
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้องที่นี่
- งามไส้ ‘บุดด้าบอย’ ถูกยกเป็น ‘พระพุทธเจ้า’ กลับชาติมาเกิด โดนจับข้อหาข่มขืน
- ประวัติ วัดพระธรรมกาย พระธัมมชโย วัดที่รุ่งเรืองที่สุดในการเผยแผ่ศาสนา
- ‘พระพยอม’ ยืนยันไม่รู้เรื่องปีชง ไม่ใช่ศาสตร์ทางพุทธ ชี้ เวรกรรม น่าเชื่อถือสุด
