หลอกกันได้ สะใภ้ติดพนันหนัก หนี้สินล้นตัว หลอกพ่อผัวว่าท้อง พ่อผัวจึงขายบ้าน 3 หลัง นำเงินมาใช้หนี้ให้ แต่ต้องผงะเมื่อความจริงถูกเปิดเผย ครอบครัวฝ่ายชายรีบแจ้งตำรวจทันควัน
เว็บไซต์ต่างประเทศ รายงาน ลูกสะใภ้หัวใส หลอกพ่อตาว่าตั้งครรภ์ จึงขอเงินเพื่อไปเลี้ยงลูก พ่อตาจึงตัดสินใจขายบ้าน 3 หลัง เพื่อนำเงินมามอบให้เธอกว่า 10 ล้านบาท แต่แท้ที่จริงเธอนำเงินไปใช้หนี้การพนัน ซ้ำยังไม่ได้ตั้งครรภ์ หลังจากรู้ความจริง จึงแจ้งตำรวจจับลูกสะใภ้ ด้วยข้อหาฉ้อโกงและยักยอกทรัพย์สิน
เหตุการณ์เกิดขึ้นที่ เมืองผู่ตง มณฑลเซี่ยงไฮ้ ประเทศจีน ครอบครัวของนายจิน ซึ่งพวกเขามีบ้านของตนเองถึง 3 หลัง แต่ทุกอย่างก็ต้องเปลี่ยนไปเมื่อการเข้ามาของ นางดัน ภรรยาคนที่สองของนายจิน ซึ่งพวกเขาตัดสินใจแต่งงานร่วมหอลงโรงกัน เมื่อ 4 ปีที่แล้ว
หลายปีก่อน นายจิน ได้หย่ากับภรรยาคนแรก และได้อาศัยอยู่กับพ่อ แม่ และลูกสาว วันหนึ่งที่เขาได้ไปเล่นไพ่นกกระจอก จึงได้พบกับ นางดัน เป็นครั้งแรก ทำให้เขาตกหลุมรักเธอเข้าอย่างจัง ด้วยความงดงามของผู้หญิงคนนี้ จึงได้ขอเธอแต่งงานในที่สุด แม้ว่าเขาจะรู้ดีว่าเธอไม่ได้รักเขาเลย และมองเขาเป็นเพียงธนาคารเคลื่อนที่เท่านั้น แต่เขาก็ยังคงจะแต่งงานกับเธอ ด้วยความเชื่อที่ว่าความรู้สึกของเขาจะส่งไปถึงใจเธอได้ในสักวัน
พื้นเพของ นางดัน เป็นคนที่ติดการพนันมาก ๆ จนเป็นหนี้สินล้นพ้นตัว ถึงกระนั้น นายจิน ก็ได้ขายบ้านของเขา และนำเงิน 2 ล้านหยวน (ประมาณ 9.7 ล้านบาท) จาก 6 ล้านหยวน (ประมาณ 29.3 ล้านบาท) ไปล้างหนี้ให้คนที่เขารักสุดหัวใจ ในวันแต่งงาน เธอได้สัญญากับพ่อและแม่ของฝ่ายชายว่า จะไม่ยุ่งเกี่ยวกับการพนันอีกต่อไป แต่หลังจากนั้นเธอก็ยังคงติดการพนันเหมือนเดิม ซ้ำยังมีหนี้เพิ่มพูนขึ้นทุกวัน เจ้าหนี้มักมาคอยรังควาญครอบครัวฝั่งสามีอยู่เสมอ
เมื่อไม่รู้จะหาทางออกเรื่องนี้ยังไง นางดัง จึงตัดสินใจที่จะหลอกลวงพ่อสามี โดยการทำทีว่าตนเองตั้งครรภ์ และขอร้องพ่อตาให้ขายบ้าน 3 หลังที่มีอยู่ เพื่อนำเงินมาเลี้ยงดูหลานที่กำลังจะลืมตามาดูโลก ซ้ำยังร้องไห้และสาบานต่อหน้าพ่อสามีว่าจะเลิกเล่นการพนันแบบถาวร หลังจากได้ยินแบบนั้น พ่อสามีจึงได้ขายบ้านในราคามากกว่า 6 ล้านหยวน (ประมาณ 29.3 ล้านบาท) เพื่อนำเงินกว่า 2 ล้านหยวน (ประมาณ 9.7 ล้านบาท) มาใช้หนี้ให้ลูกสะใภ้อีกครั้ง
ทั้งยังมอบเงินกว่า 3 ล้านหยวน (ประมาณ 14.6 ล้านบาท) เพื่อให้เธอไปซื้อบ้านหลังใหญ่ให้ลูกหลานทั้ง 3 รุ่นได้ร่วมชายคาเดียวกัน เธอได้ซื้อใจพ่อสามีด้วยการมอบเอกสารส่วนตัวให้ทั้งหมด อาทิ บัตรประชาชน บัตรกดเงินสด และสมุดทะเบียนบ้าน ให้กับพ่อสามี ทั้งนี้พ่อสามีก็เชื่อว่า การที่ลูกสะใภ้ทำแบบนี้ จะทำให้เขาสามารถควบคุมเธอไม่ให้นำเงินไปเล่นการพนันอีก
หลังจากนั้น นางดัน ได้บอกกับครอบครัวฝ่ายชายว่าจะกลับไปคลอดลูกที่บ้าน เวลาผ่านไปครึ่งปี เธอได้นำสูจิบัตรของลูกไปให้ครอบครัวของฝ่ายชายดู แต่ไม่ได้พาลูกมาด้วย เธออ้างว่าลูกของเธอกำลังป่วยจึงมาหาแค่คนเดียว ทางครอบครัวฝ่ายชายเริ่มจับพิรุธได้ นายจิน จึงนำสูจิบัตรดังกล่าวไปตรวจสอบที่โรงพยาบาล จึงได้คำตอบว่าเป็นสูจิบัตรปลอม
คำตอบดังกล่าว ทำให้ครอบครัวของนายจินช็อกกับสิ่งที่เกิดขึ้น และเชื่อว่า นางดัน ได้ต้มตุ๋นพวกเขาเสียแล้ว เมื่ออยากรู้คำตอบจากปากเจ้าตัว นายจิน จึงได้โทรหา นางดัน โดยเธอได้บอกว่า เธอใช้เงิน 3 ล้านหยวน (ประมาณ 14.6 ล้านบาท) ที่พ่อสามีให้มาเพื่อซื้อบ้านหลังใหม่หมดแล้ว แต่ไม่ได้ให้ข้อมูลเกี่ยวกับลูกแต่อย่างได้ ซ้ำยังวางสายใส่ เมื่อติดต่อไปอีกครั้งเธอก็ไม่ยอมรับสาย
วันที่ 16 พฤศจิกายน 2566 ครอบครัวของนายจิน และทนายความ ได้เข้าแจ้งความที่สถานีตำรวจ เนื่องจากสงสัยว่า นางดัน อาจเข้าข่ายฉ้อโกงและยักยอกทรัพย์สิน ต่อมา นางดัน ได้ถูกตำรวจเรียกมาให้ปากคำที่โรงพัก เธอยอมรับว่า เงิน 3 ล้านหยวน (ประมาณ 14.6 ล้านบาท) ได้โอนเข้าบัญชีของเธอแล้ว เพื่อนำไปใช้หนี้การพนัน ซ้ำยังกล่าวหาสามีว่าได้นำเงินดังกล่าวมาแบ่งกันเรียบร้อย ในประเด็นของลูก เธอได้คลอดก่อนกำหนด ทำให้เด็กขาดออกซิเจนจึงเสียชีวิต ส่วนสูจิบัตรปลอมทำโดยสามีของเธอ เพื่อยุยงให้เธอหลอกพ่อแม่สามี
ด้าน นายจิน ได้ปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา เนื่องจากเชื่อว่าสูจิบัตรมีตราประทับของโรงพยาบาลอันฮุย จึงเป็นไปไม่ได้ที่เขาจะเป็นคนปลอมแปลงเอกสารนี้ ทำให้คู่สามีภรรยาทะเลากันอย่างดุเดือดกลางโรงพัก ในที่สุดทางเจ้าหน้าที่ตรวจจึงต้องสอบสวนเพิ่มเติม ทางทนายของครอบครัวฝ่ายชาย กล่าวว่า สิ่งที่ นางดัน กล่าวมาเป็นเท็จทั้งหมด ซึ่งอาจถูกตัดสินว่ามีความผิดฐานฉ้อโกงและยักยอกทรัพย์สิน อย่างไรก็ตาม ความคืบหน้าของคดียังคงรอการพิจารณาจากทางตำรวจต่อไป
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
- หญิงถูกข่มขืน 16 ครั้ง ใน 2 ปี ลำไส้แตก พิการตลอดชีวิต วอนศาล ประหารคนในครอบครัว
- หนุ่มเมียทิ้ง กอดลูกนอนฟูมฟายกลางถนน แต่ผู้คนต่างสมเพช หลังรู้สาเหตุถูกทิ้ง
- สาวลองชุดหน้ากล้อง เผลอปล่อยมิติทะลักล้น ชาวเน็ตจับสังเกตหนักมาก
ที่มา Doisongphapluat
