รวบ ‘เบนซ์ สโนเบล’ ลวงสั่งสินค้าผ่านแอปฯ หลอกเติมเงินวอลเล็ตกว่า 200 ครั้ง
สืบนครบาล และ PCT5 จับกุม เบนซ์ สโนเบล ร่วมมือแฟนสาว ตระเวนเข้าแอปเดลิเวอรี่ ลวงสั่งสินค้า หลอกพนักงานเติมเงินค่าโทรศัพท์กว่า 200 ครั้ง เสียหายกว่า 2 ล้านบาท
จากรณี ร้องเรียนจากพนักงานจัดส่งเดลิเวอรี่ ให้ช่วยทำการสืบสวนติดตามจับกุมตัวคนร้ายใช้แอปพลิเคชั่นสั่งสินค้าผ่านระบบเดลิเวอรี่ โดยคนร้ายจะทำทีแจ้งข้อมูลพิกัดสถานที่จัดส่งและเบอร์โทรศัพท์ให้พนักงานทราบเพื่อจัดส่งและติดต่อ เมื่อพนักงานจัดส่งเดลิเวอรี่ใกล้จะเดินทางไปจัดส่งสินค้าตามคำสั่งซื้อ คนร้ายจะทำทีโทรศัพท์ติดต่อหาพนักงานส่งเดลิเวอรี่เพื่อหลอกให้พนักงานจัดส่ง เดลิเวอรี่เติมเงินทวอลเล็ต
หรือบางครั้งคนร้ายจะออกอุบายให้เติมเงินค่าโทรศัพท์มือถือให้เพิ่มเติม เมื่อพนักงานเดลิเวอรี่หลงเชื่อเติมเงินให้เรียบร้อย ก็ไม่สามารถติดต่อคนร้ายได้ เป็นเหตุให้ได้รับความเสียหาย ที่ผ่านมามีพนักงานเดลิเวอรี่ถูกก่อเหตุมาแล้วทั่วประเทศกว่า 200 ราย มูลค่าความเสียหายกว่า 2 ล้านบาท
ล่าสุด ต่อมาวันที่ 3 มกราคม 2567 เวลาประมาณ 16.30 น. เจ้าหน้าที่สืบนครบาลและชุด PCT5 ได้จับกุม น.ส.ภัณฑิลา อายุ 26 ปี หรือ “เบนซ์” ตามหมายจับศาลจังหวัด แม่ฮ่องสอน ที่ จ.44/2566 ลงวันที่ 28 สิงหาคม 2566 โดยจับกุมตัวได้บริเวณปากซอย แขวงวัดท่าพระ เขตบางกอกใหญ่ กรุงเทพฯ
ในชั้นจับกุม ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา โดยให้การว่าตนเรียนจบ กศน. ระดับ ม.3 ปัจจุบันทำอาชีพวีเจออนไลน์ ผ่านแอปหนึ่ง เกี่ยวกับข้อกล่าวหาตามหมายจับตนขอยอมรับว่าตนกับแฟนชื่อ น.ส.สุพัตรา ร่วมกันก่อเหตุ โดย น.ส.สุพัตรา ทำหน้าที่เข้าแอปพลิเคชั่นเดลิเวอรี่เพื่อหลอกสั่งสินค้า ให้ข้อมูลพิกัดสถานที่จัดส่งซึ่งปักพิกัดหลอกไว้ พร้อมเบอร์โทรศัพท์สำหรับติดต่อ
เมื่อคำนวนเวลาว่าพนักงานเดลิเวอรี่ใกล้ที่จะเดินทางมาถึง ผู้ต้องหาจะโทรติดต่อหาพนักงานส่งเดลิเวอรี่ เพื่อหลอกให้พนักงานเดลิเวอรี่เติมเงินวอลเล็ต หรือบางครั้งก็ให้เติมเงินค่าโทรศัพท์มือถือให้เพิ่มเติม เมื่อได้รับเงินวอเล็ต หรือเงินค่าโทรศัพท์เสร็จเรียบร้อย ตนก็จะทำนิ่งเฉย ไม่รับสาย ถ้าโทรบ่อยก็จะบล็อกเบอร์ของพนักงานเดลิเวอรี่
เมื่อได้เงินวอเล็ตเข้ามาในบัญชีแล้ว ก็จะทำการโอนต่อไปยังบัญชีธนาคารของตัวเองและแบ่งเงินให้แฟนที่ร่วมกันก่อเหตุคนละครึ่ง
ส่วนกรณีเงินค่าโทรศัพท์ ผู้ต้องหาให้การว่าเมื่อหลอกพนักงานส่งเดลิเวอรี่สำเร็จ ส่วนหนึ่งจะเข้าไปที่กลุ่มเฟซบุ๊กแลกค่าโทรเป็นเงินสด ซึ่งในกลุ่มจะมีการรับแลกเงินในอัตราค่าโทรศัพท์ 500 บาท แลกกับเงินสดโอนเข้าบัญชีธนาคาร 300 บาท ซึ่งในหนึ่งวันจะสามารถแลกได้ 500 บาท ส่วนเงินค่าโทรศัพท์ที่เหลือนำไปเล่นพนันออนไลน์ ซึ่งเข้าเล่นและเติมเงินผ่านเว็บพนันออนไลน์ โดยจะหักเงินจากยอดเงินค่าโทรศัพท์ที่ได้มาจากการหลอกผู้เสียหาย
นอกจากนี้ ในส่วนของเบอร์โทรศัพท์ที่นำมาเปิดบัญชีวอเล็ต และเบอร์โทรสำหรับผูกบัญชีแอปพลิเคชั่นเดลิเวอรี่ ผู้ต้องหาเป็นผู้ว่าจ้างให้คนอื่นมาเปิดใช้งานให้โดยให้ค่าจ้างเปิดซิมพร้อมกับสแกนใบหน้าเพื่อสมัครวอเล็ต รายละ 500 บาท ต่อคน โดยใช้วิธีการหาคนมาเปิดเบอร์พร้อมบัญชีวอเล็ต หรือเบอร์โทรศัพท์สำหรับผูกบัญชีแอปพลิเคชั่นเดลิเวอรี่ จากการโพสต์เฟสบุ๊กหาคนเปิดในกลุ่ม “จ้างเปิดบัญชีวอเล็ต”
ทั้งนี้ ที่ผ่านมา มีการก่อเหตุมาตั้งแต่ปี 2564 ร่วมกันก่อเหตุมาแล้วกว่า 200 ครั้ง เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้นำตัวผู้ต้องหาตามหมายจับ นำส่งพนักงานสอบสวน สภ.ปางมะผ้า ภ.จว.แม่ฮ่องสอน เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย.