เตือนภัย ผสมน้ำยาล้างห้องน้ำ-ฟอกผ้าขาว ก่อก๊าซพิษ อันตรายถึงตายได้
ผู้เชี่ยวชาญโพสต์เตือน ห้ามนำ “น้ำยาล้างห้องน้ำ” ผสมกับ “น้ำยาฟอกผ้าขาว” เหตุเพราะก่อให้เกิดก๊าซคลอรีน ส่งผลเสียต่อสุขภาพและอันตรายถึงชีวิต
ก่อนหน้านี้มีชาวเน็ตรายหนึ่งออกมาแชร์อุทาหรณ์ หลังเจ้าตัวเท น้ำยาล้างห้องน้ำ ลงในอ่างล้างหน้า เพื่อขัดทำความสะอาด โดยลืมไปว่าก่อนหน้านี้ได้เท น้ำยาฟอกผ้าขาว ลงไปในอ่างล้างหน้า จากนั้นในบ้านจึงมีแต่กลิ่นเหม็นคละคลุ้ง อีกทั้งยังทำให้แสบจมูก แสบคอ และหายใจติดขัด หลังเข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาลพบออกซิเจนในเลือดต่ำ และผลการเอกซเรย์พบว่ามีของเหลวอยู่ในปอด
จากกรณีดังกล่าว ดร.เจษฎา เด่นดวงบริพันธ์ อาจารย์ประจำภาควิชาชีววิทยา คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ให้ได้ออกโพสต์ให้ความรู้ผ่านทางเฟซบุ๊ก Jessada Denduangboripant เกี่ยวกับอันตรายของการนำน้ำยาล้างห้องน้ำผสมกับน้ำยาฟอกผ้าขาว ซึ่งจะก่อให้เกิดก๊าซคลอรีนที่ส่งผลอันตรายต่อสุขภาพ ทั้งการระคายเคือง หายใจติดขัด ของเหลวคั่งในปอด บางเคสอาจอันตรายถึงชีวิต
“เตือนแล้วเตือนอีกว่า อย่าเอา “น้ำยาล้างห้องน้ำ” ผสมกับ “น้ำยาฟอกผ้าขาว” (เช่น ยี่ห้อไฮเตอร์) อันตรายมาก จะเกิด “ก๊าซคลอรีน” ขึ้น และเป็นอันตรายต่อสุขภาพจนอาจถึงชีวิตได้ครับ
จากโพสต์นี้ เค้าบอกว่าได้แช่ถุงเท้าในน้ำยาฟอกผ้าขาว (ไฮเตอร์) แล้วเทน้ำยาลงอ่างล้างหน้า จากนั้น ได้ใช้น้ำยาล้างห้องน้ำ (เป็ดโปร) ไปราดทำความสะอาดอ่างล้างหน้า กะจะทิ้งไว้แล้วค่อยลงมือขัด แต่สักพักเริ่มมีกลิ่นอะไรแปลก ๆ เหม็น ตลบอบอวลในห้องน้ำ กลิ่นแรงมาก
ทีแรกก็ขัดห้องน้ำตามปกติ สักพักเริ่มไม่ไหว แสบคอแสบจมูกไปหมด รีบออกจากบ้าน มาสูดอากาศบริสุทธิ์ ผ่านไป 30 นาที อาการแย่ลง รู้สึกหายใจติดขัด หายใจเข้าได้ไม่สุด รู้สึกเหนื่อยเหมือนกำลังจะตาย เลยไปโรงพยาบาล เข้าห้อง ER ออกซิเจนในเลือดต่ำ เอกซเรย์ปอดออกมามีของเหลวอยู่ในปอด !!
ที่เป็นเช่นนั้น ก็เพราะ น้ำยาซักผ้าขาว (bleach) มักจะมีส่วนผสมของสารเคมีที่ชื่อ โซเดียมไฮโปคลอไรต์ (sodium hypochlorite NaClO) ขณะที่ น้ำยาล้างห้องน้ำ ซึ่งแม้ว่าจะมีหลายสูตร แต่สูตรที่นิยมใช้กันเพราะกำจัดคราบหินปูนได้ดี มักจะมีกรดไฮโดรคลอริก (hydrochloric acid HCl)
สารทั้งสองตัวนี้เมื่อผสมกัน ก็จะเกิดก๊าซคลอรีนขึ้น ตามสมการ NaClO + HCl >> Cl2 (ก๊าซคลอรีน) + NaCl + H2O ก๊าซคลอรีนมีอันตรายต่อร่างกายมนุษย์ ตั้งแต่ระดับ
1. ถ้าก๊าซคลอรีนมาสัมผัสโดนใบหน้า มันจะก่อให้เกิดการระคายเคืองต่อตา จมูก ปาก หลอดลม และผิวหนัง เพราะก๊าซคลอรีนจะทำลายเนื้อเยื่อต่าง ๆ ได้
2. เมื่อหายใจเข้าไป มันจะเข้าไปสู่ปอด ทำให้หายใจติดขัด และทำให้เกิดของเหลวคั่งในปอด เป็นอันตรายได้ ยิ่งถ้าใครเป็นโรคหอบหืดอยู่ ก็จะยิ่งเป็นอันตรายหนักขึ้น
3. ถ้าหายใจเข้าไปมากๆ หรือมีความเข้มข้นสูง ก็จะถึงกับตายได้ เพราะก๊าซคลอรีนเป็นก๊าซพิษ ขนาดที่เคยใช้ในสงครามโลกครั้งที่ 1 มาแล้ว (ระดับความเป็นพิษเมื่อสูดดม คือ LD50 = 293ppm ในหนูที่ให้ดม 1 ชั่วโมง)”
นอกจากนี้ ทางดร.เจษฎา เด่นดวงบริพันธ์ ยังได้ระบุเพิ่มเติมด้วยว่า ไม่เพียงแต่การนำน้ำยาล้างห้องน้ำกับน้ำยาซักผ้าขาวเท่านั้นที่ก่อให้เกิดสารอันตราย แต่บรรดาผลิตภัณฑ์อีกมากมายในครัวเรือนก็มีสารเคมีที่หากนำมาผสมกับอาจก่อให้เกิดเป็นสารอันตรายอื่น ๆ อีก
ทั้งนี้ จึงไม่ควรเอาน้ำยาใด ๆ มาผสมกันเอง และหากเผลอทำหกหรือเทผิด ก็ควรล้างออกด้วยน้ำเปล่า ก่อนจะเทน้ำยาชนิดอื่น ๆ ตามลงไป
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
- ผู้เชี่ยวชาญ ชี้ นั่งอยู่ในห้องแอร์ ปลอดภัยจากฝุ่น PM 2.5 จริงไหม
- ผู้เชี่ยวชาญเผย “อีกัวน่าเขียว” กับ “ตะกอง” ต่างกัน ช่วงแพร่ระบาดต้องเช็กให้ชัวร์
- สาวจีนซื้อปลาตุ๋นจากท่าเรือ ตกดึกปลาเรืองแสงได้ ผู้เชี่ยวชาญชี้ไม่อันตรายแต่ไม่ควรกิน