‘เรวัช’ แนะ ‘ลุงพล’ ยิ่งพูดยิ่งมัดตัว เอาเวลาปรึกษาทนายร่างอุทธรณ์ดีกว่า
โหนกระแสวันนี้ ท่านเรวัช บอกจะ 70 ปีแล้ว ยังไม่มีใครกล้ามาพูดต่อหน้าเลย แนะลุงพลอยู่เงียบ ๆ เอาเวลาปรึกษาทนายเรื่องอุทธรณ์ดีกว่า ก่อน ทนายแก้ว ร่ายยาวข้อกฎหมายหมิ่นประมาท พูดเพราะก็หมิ่นได้ อะไรคือพื้นฐานวิญญูชนพึงกระทำ
รายการโหนกระแสวันนี้ (26 ธ.ค.66) เรียกได้ว่าหากได้รับชมจนจบจะเข้าใจทันใดเลยว่า จากนี้ไปจะพิมพ์จะวิจารณ์อะไรบนโลกโซเชียลต้องระวัง ! เพราะอาจต้องเจอกับความเดือดร้อน ตกระกำลำบากเหมือนเช่นเคสล่าสุด นายอนุชิต (สงวนนามสกุล) ยูทูบเบอร์ FC ลุงพล ที่ตอนนี้ถูก 2 อดีตนายตำรวจชั้นผู้ใหญ่ทั้ง พลตำรวจโท เรวัช กลิ่นเกษร และพล.ต.ต.วิชัย สังข์ประไพ หรือ “รองแต้ม” แจ้งความเอาผิดพร้อมกับำเนินคดีตามกฎหมาย ประเด็นข้อหาหมิ่นประมาท
ช่วงหนึ่งในรายการซึ่งเริ่มมาก็เปิดเทปเมื่อวันที่ 20 ธ.ค.66 ที่เป็นสารตั้งต้นให้เกิดดราม่านอกศาล จน พล.ต.ท.เรวัช ควง รองแต้ม และอาจจะรวม หนุ่ม กรรชัย กำเนิดพลอย ผู้ดำเนินรายการคนดัง ฟ้องเอาผิดนายอนุชิตยูทูบเบอร์ปากแจ๋ว
รองแต้ม กล่าวว่า สิ่งที่ตนเองพูดในเทปรายการโหนกระแสก่อนหน้านี้ พูดเพราะให้ความรู้กับคน เพื่อกระตุกสังคม ไม่ให้ไปหลงไหลได้ปลื้ม นายตำรวจ วัย 68 ปี ยังกล่าวอีกว่า กลุ่มคนแบบนี้เรียกว่า “อีแอบ” เอาไปหากิน ใช้ความเด่นดัง อ่อนด้อยความนับถือเชื่ออะไรต่าง ๆ แล้วเอามาหากิน
“ถ้าด่าองค์กรชั่ว ผมอยู่องค์กรนี้ก็รับไม่ได้” พล.ต.ต.วิชัย ระบุ จากนั้น “กรรชัย” ขออนุญาตแทรกด้วยการเปิดเทปที่ “ท่านเรวัช” ก็ได้ให้สัมภาษณ์ไว้ในเทปรายการโหนกระแสวันที่ 20 ธันวาคม ด้วย จนต่อมาอดีตผู้บัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด กล่าวชี้แจงถัดมา คลายข้อสงสัย ชีวิตเรวัชรับราชการ 42 ปี ไม่เคยแจ้งดำเนินคดีใครและไม่เคยโดนใครฟ้อง กระทั่งนายอนุชิตเป็นคนแรก
พล.ต.ท. เรวัช กล่าวว่า คลิปนายอนุชิตมีคนมาเปิดให้ฟังภายหลัง โดยตนยังไม่ได้แจ้งความในวันนั้น แต่มีการให้ลูกน้องไปเช็กประวัติก่อน เพราะสมัยตนถ้าจะแจ้งความใคร ต้องเกาะเป้าหมายก่อน พอไปถึงเห็นสถานการณ์ไม่เข้าท่าจึงตัดสินใจไแจ้งความ
ช่วงหนึ่ง ท่านเรวัช เผยสาเหตุที่อโหสิให้ยูทูบบเบอร์ นายอนุชิต หนึ่งในเหตุผล คือ ถ้าไม่อโหสิอาจมีสิทธิถึงขั้นพระครูไม่ทำการบวชให้
“เขาพิมพ์ SMS ถ้าเขาสำนึกผิด ในเมื่อคุณเป็นยูทูบเบอร์ คุณต้องมาอัดกราบขอโทษท่านนะครับ ด่าต่อหน้าคนอื่น คนเห็นไปทั่วประเทศ แต่ดันมาพิมพ์เอสเอ็มเอสขอขมา ถามว่าถ้ามไม่อโหสิ พระครูท่านไม่บวชให้ ผมหงุดหงิดเต็มที่บอกไปบวชเสียไปก่อนพระอาทิตย์ตกดิน” พล.ต.ท.เรวัช ระบุ “ก็ถ้าหลังพระอาทิตย์ตกดินไปแล้วผมด็ไม่รับทราบอะไรแล้ว มีพยานหลักฐานก็จับกุมกัน”
กรรชัย ฝากถึงแฟนคลับลุงพล พล.ต.ท.เรวัช แนะเก็บตัว หาเวลาร่างอุทธรณ์
หลังการร่ายยาวชี้แจงที่มาที่ไปตลอดจนสาเหตุที่ทำให้ต้องออกมาเคลื่อนไหวจ่อขึ้นโรงขึ้นศาลฟ้องร้องเอาผิดกันไม่จบโดยง่าย ทางทนายแก้ว มนต์ชัย จงไกรรัตนกุล ก็พูดถึงประเด็นจข้อกฎหมายโดยยืนยันการออกมาฟ้องเอาผิดครั้งนี้ของ 2 นายตำรวจสามารถทำได้ เพราะคู่กรณีเข้าข่ายกระทำผิดข้อหาหมิ่นประมาท
ทนายแก้ว ยืนยันชัดเจนว่า การวิพากษ์วิจารณ์ใครผ่านสื่อโซเชียลนั้น จะกระทำโดยการด่ากราดไม่ได้ เคสนี้ถือว่าผิดกรณีหมิ่นประมาทคนอื่นโดยการโฆษณา จำคุก 2 ปี ปรับไม่เกิน 200,000 บาท รวมถึงกรณีนำเข้าข้อมูลอันเป็นเท็จเข้าสู่ระบบ เป็นการผิด พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ ตรงนี้ก็มีโทษจำคุกอีก 5 ปี
นอกจากนี้ มือกฎหมายในฐานะแขกรับเชิญยังอ้างถึงประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 329 จะวิพากษ์วิจารณ์ต้องมีข้อมูลไปเปรียบเทียบด้วย ดังนั้นเคสของกลุ่มยูทูบเบอร์ที่กำลังถูกแจ้งความนั้นนับว่ารุนแรงและผิดในตัวเองอยู่แล้ว
ต่อมา หนุ่ม กรรชัย ถือโอกาสอธิบายเพื่อเคลียร์ข้อสงสัยทำไมไม่เชิญ ลุงพล มาสัมภาษณ์ในรายการ โดยให้เหตุผล คือ ข้อแรกตนให้ทีมงานติดต่อไแล้ว แต่ลุงพลไม่ขอมาออก ประเด็นถัดมาซึ่งเป็นข้อสำคัญเลย คือ เพราะตนมีชื่อเป็นหนึ่งในพยานโจทก์ในสำนวน จะดูไม่เหมาะสม ตำรวจให้ตนเซ็นชื่อพยานในคดี ตนก็เซ็นให้ วันหนึ่งจะให้จำเลยมานั่ง ตนมองว่าทุเรศ ถามว่าสัมภาษณ์ได้หรือไม่ บอกเลยว่าทำได้แต่ไม่สง่างาม
ด้าน พล.ต.ท. เรวัช เสริมประเด็นลุงพล ผู้ต้องหาในคดีน้องชมพู่เที่ยวล่าสุดนีเด้วย โดยเป็นการแนะนำลุงพลว่า จากนี้ไปอย่าพูดอะไร ให้เก็บเนื้อเก็บตัวเงียบ ๆ ถือศีลเจริญภาวนาและก็ปรึกษาทนายความว่าถึงการจะร่างอุทธรณ์อย่งไรดีกว่า เพราะหากยิ่งพูด เดี๋ยวจะกลยเป็นโดนถอนประกันเอา
“หมาเที่ยวไปกัดคนนู้นคนนี้ มีศัตรูเพิ่มขึ้น อย่างน้อยมี เรวัช มีทนายแก้ว มีคุณหนุ่มอีกคน ดีกับชีวิตคุณเหรอ ? ” ท่านเรวัช อายุ 67 ปี กล่าว
“แล้วก็เวลาขึ้นเอฟซี (FC.) เยอะอย่าไปเหลิง เวลาลงอย่าไปท้อตั้งจิตเข้าไว้ ถ้าติดคุก ทำมาหากินกันยังไง จะทำมาหากินกันยังไง แบบนั้นจะดีกว่า หาวิธีอุทธรณ์ ยิ่งพูดยิ่งมัดตัว ศาลท่านก็ดูทีวี ศาลท่านก็ดูสื่ออนไลน์นะครับ ผมว่าเดี๋ยวชีวิตจะเศร้ายิ่งกว่านี้”
ด้าน ทนายแก้ว มนต์ชัย ก็กล่าวสั้น ๆ ถึงประเด็นนี้ด้วยว่า เมื่อศาลชั้นต้นพิพากษาไปแล้ว จำเลยก็ต้องใช้สิทธิอุทธรณ์ตามกฎหมายอยู่แล้ว แต่หากจำเลยมาพูดนอกรอบ มาปฏิเสธ พยายามหาเวทีมาอธิบายแบบนี้ อาจจะเข้าข่ายเป็นการละเมิดอำนาจศาลเอาได้.
ดูคลิปรายการโหนกระแสวันนี้ (คลิก).