พล.ต.ท.เรวัช กลิ่นเกษร เอาจริง ดำเนินคดี แฟนคลับลุงพล ด่าสาดเสียเทเสีย กล่าวหาว่าซื้อตำแหน่ง งานนี้ไม่ต้องขอขมา ไม่ได้ต้องการเงิน
พล.ต.ท.เรวัช กลิ่นเกษร อดีตผู้บัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด ได้เปิดเผยว่าตนจะฟ้องแฟนคลับลุงพล หลังจากที่ก่อนหน้านี้ตนเคยไลฟ์เฟซบุ๊กแสดงความเห็นถึงคดีน้องชมพู่ โดยในตอนนั้น พล.ต.ท.เรวัช กล่าวว่า ลุงพลเป็นผู้ต้องหาในคดีดังกล่าว แต่สื่อให้ความสนใจ และมีเอฟซีคอยซัพพอร์ตเนื่องจากสงสาร ซึ่งกระแสสังคมในขณะนั้นได้มุ่งเป้าไปที่แม่ของเด็ก ผมจึงออกมาให้ความเห็นว่าสังคมมันแย่แล้ว ไปเชียร์คนร้ายให้เป็นฮีโร่ เป็นเซเลป จนถูกแฟนคลับลุงพลออกมาด่าว่า ซื้อตำแหน่งมานั้น
โดย พล.ต.ท.เรวัช กล่าวว่า ปกติผมไม่ซีเรียส แต่ยูทูบเบอร์คนนี้ด่าไปถึงองค์กร โดยกล่าวหาผมว่าผมซื้อตำแหน่ง โดยชีวิตผมที่ผ่านมาไม่เคยถูกดำเนินคดี มีแต่ตามจับคนร้ายที่สร้างความเดือดร้อนให้กับชาวบ้านมาตลอดชีวิต แต่เขามากล่าวหาว่าผมถูกดำเนินคดี เป็นคนเลว องค์กรเลว
ผมในฐานะที่เป็นอดีตข้าราชการตำรวจมองว่าเป็นเรื่องเสียหาย จึงเดินทางไปแจ้งความต่อพนักงานสอบสวน สภ.เมืองกาญจนบุรี ให้ดำเนินคดีกับนายอนุชิต ในความผิดฐานหมิ่นประมาทผู้อื่นโดยการโฆษณา และนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ เนื่องจากนายอนุชิต ไปออกรายการมาดามจัดให้ ทางช่องยูทูป และได้พูดถึงตนในทางเสียหาย
พล.ต.ท.เรวัช ย้ำว่า นี่เป็นครั้งแรกในชีวิตที่ได้มีการแจ้งความดำเนินคดี งานนี้ไม่ต้องการการขอขมา ไม่ต้องการเงิน โดยขณะนี้รอให้ทุกอย่างเข้าสู่กระบวนการตามกฎหมาย และเมื่อถึงวันนั้นตนจะถือหมายจับไปหานายอนุชิต และนายอนุชิตไปที่ไหน ตนก็จะได้ติดตามไป โดยไปด้วยอำนาจของกฎหมาย
“ทำอะไรให้มีความยั้งคิดบ้าง ว่าอะไรถูก อะไรผิด ผมไม่ใช่เพื่อนเล่นคุณนะ ผมไม่ได้วิพากษ์วิจารณ์ด้วยอคติ ผมไม่ได้ไปว่าใครดี ใครเลว จะได้รู้บ้างไอ้หนู อย่าทะลึ่ง อย่าไปกล่าวหาใคร อย่ามาคิดว่าจะอโหสิ ไม่คือไม่” พล.ต.ท.เรวัช กล่าว
ในเวลาต่อมา มีคลิปวิดีโอของ พล.ต.ท.เรวัช พูดถึงประเด็นดังกล่าวเพิ่มเติมว่า นายอนุชิตได้ติดต่อมาหาแล้วชี้แจงว่าในคลิปเต็มเขาไม่ได้ว่าอะไรตนเลย ฝ่ายตรงข้ามเอาไปตัดต่อ ซึ่งตนไม่รู้หรอก ว่าตัดต่อหรือไม่เอาความจริงไปปรากฏกันที่ศาล ตนถ้าเดินหน้าแล้วให้ไปจบในขั้นตอนที่ศาลจะพิจารณาว่าคุณถูกผิดยังไง ไม่รับการขอขมาขออภัยและไม่เรียกร้องเงิน ถ้าศาลพิพากษาจำคุกก็อยากให้คุณได้รับโทษจำคุก ถ้าศาลให้ชดใช้ก็สุดแท้แต่ เพื่อให้จบไป คดีจบแต่ความขุ่นเคืองใจของตนจะจบหรือไม่เป็นอีกเรื่องหนึ่ง
ผมไม่ชอบตรงที่คนรุ่นลูกมาเรียกว่ามึง อันนี้ไม่ผิดกฎหมาย แต่ผิดใจ เรียกลุงก็ได้ ผมไม่ได้ถือยศถือศักดิ์แต่ถืออายุ ผมอายุรุ่นพ่อเขา เขาไม่เหมาะจะมาเรียกผมว่าไอ้
พล.ต.ท.เรวัช ยังบอกอีกว่า ขอให้นายอนุชิตไปพบพนักงานสอบสวนไม่ต้องมาเจอหน้าผม เพราะเดี๋ยวผมอารมณ์ขึ้นแล้ววู่วามไปผมก็จะเป็นฝ่ายกระทำความผิดเอง ขอให้ไปเจอกันในชั้นศาล ซึ่งถือว่าโชคดีของนายอนุชิตแล้วที่ผมไม่ได้ตัดสินใจโกรธแต่ตัดสินใจดำเนินคดี
