‘วิน ดีเซล’ ถูกอดีตผู้ช่วยสาวฟ้อง คดีล่วงละเมิดทางเพศ
อดีตผู้ช่วยหญิงนักแสดงดังยื่นฟ้องศาล หลังถูก วิน ดีเซล ล่วงละเมิดทางเพศ เมื่อปี 2010 และถูกไล่ออกจากงานโดยมิชอบ
เมื่อวันที่ 21 ธันวาคม 2023 ที่ผ่านมา มีรายงานข่าวคดีล่วงละเมิดทางเพศจากเว็บไซต์ Vanity Fair ระบุว่านักแสดงชื่อดัง วิน ดีเซล (Vin Diesel) เจ้าของบทนำในภาพยนตร์แฟรนไชส์ Fast & Furious ถูกอดีตผู้ช่วยหญิงของตัวเองฟ้องร้องในข้อหาล่วงละเมิดทางเพศ เมื่อปี 2010 ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่กำลังถ่ายทกภาพยนตร์ Fast & Furious ภาคที่ 5
ไบรอัน ฟรีดแมน (Bryan Freedman) ทนายความของวิน ดีเซล กล่าวว่าดาราชายคนดังปฏิเสธข้อกล่าวหานี้อย่างชัดเจน ด้านเหยื่อที่เข้าฟ้องร้องในนครลอสแอนเจลิส แอสตา โจนาสสัน (Asta Jonasson) ระบุในคำฟ้องว่าเธอได้รับการว่าจ้างจากบริษัท One Race ให้ทำงานเป็นผู้ช่วยของวิน ดีเซล
แอสตามีหน้าที่จัดงานปาร์ตี้ตามความต้องการของนักแสดง และดูแลวิน ดีเซล ขณะที่ออกงานโดยไม่ได้พาแฟนสาวไปด้วย เผื่อในกรณีที่เกิดการถ่ายรูปร่วมกับผู้หญิงคนอื่นซึ่งอาจทำให้เข้าใจผิดในภายหลังได้
ในรายละเอียดของคดีนี้เปิดเผยว่า แอสตาถูกเรียกตัวไปยังห้องสวีทของโรงแรมเซนต์รีจิส ก่อนจะพบว่าวิน ดีเซล ก็อยู่ในห้องพักด้วย คำให้การในคดีระบุว่าแอสตาถูกวินล่วงละเมิดทางเพศและขืนใจ แม้ว่าจะพยายามขอร้องให้นักแสดงชายหยุดการกระทำดังกล่าวแล้วก็ตาม
ภายหลังจากที่แอสตาถูกนักแสดงชายล่วงละเมิดทางเพศสำเร็จ ในไม่กี่ชั่วโมงต่อมา ซาแมนธา วินเซนต์ (Samantha Vincent) น้องสาวของวิน ดีเซล และประธานของบริษัท One Race ที่ว่าจ้างแอสตา ก็ได้โทรศัพท์มาแจ้งอดีตผู้ช่วยหญิงรายนี้ว่าเธอถูกไล่ออก หลังจากที่แอสตาเพิ่งเข้ามาทำงานนี้ได้ไม่ถึง 2 สัปดาห์ด้วยซ้ำ
ตามคำฟ้องระบุว่า สิ่งที่แอสตาต้องเผชิญ ทำลายความภาคภูมิใจในตัวตนของเธอจนหมดสิ้น อีกทั้งยังทำให้เธอวิตกกังวลและตั้งคำถามกับตัวเองว่าการที่จะประสบความสำเร็จในสายอาชีพนี้ เธอจำเป็นต้องแลกร่างกายเพื่อความก้าวหน้า แทนการใช้ทักษะความสามารถหรือไม่
นอกจาประเด็นการล่วงละเมิดทางเพศ และการเลิกจ้างงานโดยมิชอบแล้ว ในคำฟ้องร้องยังกล่าวรวมไปถึงเรื่องสภาพแวดล้อมการทำงานที่ไม่เป็นมิตรอีกด้วย และจากการปกปิดเรื่องราวที่เกิดจากทางยริษัทและตัวนักแสดงเอง ทำให้เหยื่ออย่างอดีตผู้ช่วยสาวต้องทนทุกข์ทรมานทางอารมณ์ และเกิดความเจ็บปวดทั้งกายและใจอยู่นาน
แอสตาเลือกที่จะเงียบมาโดยตลอด แต่เนื่องจากแรงขับเคลื่อนทางสังคมเกี่ยวกับกระแส #MeToo จึงทใำห้เธอกล้าลุกขึ้นมาเรียกร้องความยุติธรรมให้ตัวเอง ก็คงต้องจับตาดูกันต่อไปว่าทางฝั่งวิน ดีเซล และบริษัท One Race จะตอบโต้ข้อกล่าวที่ร้ายแรงนี้ว่าอย่างไร หากมีความเคลื่อนไหวเพิ่มเติมจะนำมารายงานให้ทราบกันอีกครั้ง