โหนกระแส เปิดใจ “แม่น้องชมพู่” เคลียร์ปมไม่ร้องไห้ ก่อนเล่าเอะใจลุงพลตอนไหน
โหนกระแสวันนี้ แม่น้องชมพู่ เปิดใจครั้งแรกรอบ 3 ปี หลังศาลพิพากษาจำคุกลุงพล 20 ปี รับไม่เคยสงสัยญาติคนสนิทเลย กระทั่งเจอเรื่องสะดุดใจหลายอย่าง จุดเริ่มต้นตอนนำร่างน้องมาผ่าชันสูตรที่กรุงเทพ
วันที่ 21 ธ.ค.2566 นางสาวิตรี วงศ์ศรีชา แม่น้องชมพู่ กล่าวเปิดใจกลางรายการโหนกระแสวันนี้ เกี่ยวกับคดีน้องชมพู่ ลูกสาววัย 3 ขวบ ที่หายตัวปริศนาก่อนเสียชีวิตในเวลาต่อมา โดยหลังศาลชั้นต้นพิพากษาจำคุกนายไชย์พล วิภา หรือ ลุงพล 20 ปี จากความผิด 2 ข้อหา แม่สาวิตรี ก็ได้มาออกรายการของหนุ่ม กรรชัย โดยเผยความรู้สึกหลังทราบผลคำพิพากษาดังกล่าวที่แม้ตอนนี้ ผู้ต้องหาจะได้รับการประกันตัวออกมาสู้คดี ยอมรับไม่เคยเอะใจสงสัยตัวของลุงพลเลย จนกระทั่งมามีเรื่องให้สะดุดใจหลายอย่าง
“อะไรคือสิ่งที่แม่สงสัยตอนแรก” จบคำถามนี้ของกรรชัย คุณแม่สาวิตรรี ก็ระบุว่า เป็นวันที่ยืนเฝ้าตรงเผาศพ แล้วลุงให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับวิญญาณน้องอาฆาตอยู่หรือ “ไม่สบายใจ” ซึ่งฝั่งคุณแม่จำประโยคได้ไม่ละเอียด แต่เอะใจเพราะตอนนั้นครอบครัวยังไม่มีใครติดใจถึงขั้นที่ว่ามีคนร้ายมาทำร้ายน้อง
แม่สาวิตรี ยังให้ข้อมูลเกียวกับปมสงสัยในตัวลุงพล นอกจากประเด็นที่กล่าวในเบื้องต้นแล้ว ยังมีข้อมูลจากที่ค่อย ๆ เก็บรายละเอียดคลิปข่าวต่าง ๆ ที่นำเสนอ แต่ละข่าวที่ออกมาเรื่องหลักฐานที่อยู่ของลุงพล แม่ไล่เก็บไว้หมด เพราะแต่ละเรื่องที่ออกมา มันขัดแย้งกับสิ่งที่เรารู้สึกหลายเรื่อง
“ทำไมตำรวจถามแต่ละคนที่อุ้มน้องได้” หัวอกแม่วัย 42 ปี กล่าวต่อถึงปมสงสัยที่พอตัวเองเริ่มนำกลับมาพิจารณาถี่ถ้วน จึงเริ่มระแคะระคายคนใกล้ตัว
“บางสิ่งบางอย่างที่ตำรวจถามเราทำให้คิดแล้วก็ไปติดตาม อ่า เกี่ยวกับคนรอบตัวเรา”
คุณแม่ให้ข้อมูลว่า ตำรวมักจะถามประจำว่า ใครอุ้มน้องได้บ้าง แปลว่าตอนที่ถูกพาไปต้องเป็นคนที่คุ้นเคย เลยมานั่งไล่ดูว่า ใครบ้างที่อุ้มน้องได้ ซึ่งนอกจากคนในครอบครัวก็มีลุงพลและป้าแต๋นที่อุ้มน้องได้
ขณะที่ นายอนามัย วงศ์ศรีชา พ่อของน้องชมพู่ ก็กล่าวว่าตอนแรกตนเองไม่ได้สงสัยอะไร กระทั่งแม่สาวิตรีเริ่มมาพูดให้ฟังประกอบกับติดตามข่าวสารที่มีการนำเสนอ
แม่สาวิตรี รับผ่านมา 3 ปี กระแสวันนี้เปลี่ยนไปมากจากวันแรก
จบจากประเด็นข้อสสัยในตัวลุงพล ทางแม่สาวิตรี ก็กล่าวกับ กรรชัย ถึงกระแสข่าวในตอนนี้ซึ่งระยะเวลาที่ผ่านมา 3 ปี จนถึงปัจจุบัน เปลี่ยนไปมาก เพราะวันนี้ หลังจากที่ศาลชั้นต้นมีคำตัดสินออกมา ปรากฏมีคนส่งกำลังใจมาให้แม่เป็นจำนวนมาก
แขกรับเชิญที่เป็นผู้สุญเสีย ยังยอมรับต่อว่า ช่วงแรกพ่อกับแม่ถูกกล่าวหาเยอะมาก ว่าทำไมลูกหายไม่ไปตามหา ทั้งที่เราตามหาจนไม่รู้ว่าจะหายังไง เราตั้งใจหาเต็มที่ เพียงแต่ไม่ได้อัดคลิป ไม่ได้ไลฟ์สด เวลานักข่าวมาถาม ก็ไม่ได้ถามว่าเราไปหาที่ไหนมาบ้าง ตรงนี้หรือไม่ที่ทำให้คนเข้าใจเราผิดว่าเราไม่ตามหาลูก
แล้วที่มีคนตั้งคำถามว่า ทำไมลูกตายทั้งคนแม่ไม่ร้องไห้เลย แม่ก็อยากถามว่าทำไมเราต้องมาร้องไห้ออกสื่อตลอดเวลา เราร้องไห้ของเราเองทุกวัน แต่ละคอมเมนต์ที่เกิดขึ้นกับเรา ผ่านเวลามา เวลามีข่าวแบบนี้กับคนอื่น มันก็ยังมีคอนเมนต์ไปรุมถล่มเหมือนที่เราเคยเจอ เราก็รู้สึกว่ามันเกินไป ถ้าเราไม่ตั้งสติให้ดี เราคงจบชีวิตตัวเองไปแล้ว
ฟังมุมตำรวจเผยถึงหลักฐานสำคัญในคดี คือ “เส้นผม”
ด้าน พ.ต.อ.เผด็จ งามละม่อม รองผู้บังคับการปราบปราม หัวหน้าชุดสืบสวนคดีน้องชมพู่ เปิดเผยถึงหลักฐานสำคัญในคดี คือ “เส้นผม” ของน้องชมพู่ที่ตกอยู่ในจุดพบศพ โดยเป็นเส้นผมกระจุกหนึ่งประมาณ 40-50 เส้น ตรวจสอบแล้วเป็นรอยถูกตัดด้วยของมีคม วางเส้นผมบนพื้นดินแล้วใช้มีดสับ
เจ้าหน้าที่พยายามตามหาว่าเส้นผมนี้อยู่ที่อื่นอีกหรือไม่ ? จนมาพบในรถของนายไชย์พล นำไปเข้ากล้องจุลทรรศกำลังสูงจนพบว่าเป็นรอยตัดแบบเดียวกัน
ทั้งนี้ จากการสันนิษฐานของตำรวจ เชื่อว่านายไชย์พลมีนัดจะไปส่งพระต่างอำเภอ เข้าใจว่าอาจจะมีเจตนาที่ดี คือจะรับน้องชมพู่ไปเที่ยวด้วยกัน แต่อาจจะเกิดเหตุบางอย่าง เช่นเด็กอาจร้องงอแงหรืออะไรก็ตาม อาจจะทำให้น้องเอาน้องไปทิ้งในป่าก็เป็นไปได้
วันที่น้องชมพู่หายไป แล้วนายไชย์พลกลับมาจากส่งพระ คำแรกที่เขาถามคือ “ทำไมพ่อแม่น้องชมพู่ถึงทำให้เป็นเรื่องใหญ่ ทำไมถึงต้องพาคนมาตามหาขนาดนี้”
เรื่องนี้ตำรวจมองว่ามันอาจจะมีสาเหตุมาจากน้ำผึ้งหยดเดียว อาจจะพลั้งมือ หรืออาจจะไม่สามารถจัดการให้เด็กหยุดร้อง หรือไม่สามารถจัดการอารมณ์ตัวเองได้ จากเรื่องเล็ก ๆ แทนที่จะพาเด็กมาคืน กลับพาไปหลบ หรือพาไปซ่อนในป่า ในเขา ที่มันห่างไกลกว่าเดิม จนทำให้น้องเสียชีวิตจากการขาดอาหาร ขาดน้ำ
ส่วนเรื่องการถูกทำร้ายหรือไม่ จากบาดแผลมันไม่สามารถยืนยันการถูกทำร้ายได้
สำหรับข้อสรุปของเรื่องนี้ ทางทนายความของพ่อแม่น้องชมพู่ ยืนยัน ไม่กังวลในเรื่องการสู้คดีในชั้นอุทธรณ์ การนำสืบ พยานหลักฐานต่าง ๆ ครบถ้วนกระบวนความหมดแล้ว ไม่มีอะไรต้องกังวล
ขณะที่แม่น้องชมพู่ กล่าวถึงบรรยากาศที่บ้านกกกอกในปัจจุบันนั้น ตอนนี้เริ่มหันหน้าเข้ามาหากัน ยูทูบเบอร์ต่างถิ่น อะไรต่างๆ นานาได้พากันออกไปจากหมู่บ้านหมดแล้ว พญานาคก็ไปแล้ว ตอนนี้ชาวบ้านก็เริ่มกลับมาอยู่ด้วยกันแบบปกติสุขแล้ว.
รับชมเทปรายการโหนกระแส Live โหนกระแส ลุงพลบ่ยั่น!!! ลุยสู้อุทธรณ์ ด้านแม่น้องชมพู่อุทธรณ์สวนสู้คดีเช่นกัน
ขอบคุณคลิป : โหนกระแส [Hone-Krasae] official.
- โฆษกศาลยุติธรรมชี้ความเห็นแย้ง จากทีม ลุงพล ไม่มีผลต่อชั้นอุทธรณ์
- ภาพเทียบ เส้นผมน้องชมพู่ หลักฐานชิ้นสำคัญที่ถูกพบในรถลุงพล
- ทนายตั้ม ชี้คดีน้องชมพู่ ทนายลุงพลพลาดตรงไหน