ข่าวดาราบันเทิง

‘ต้อม รัชนีกร’ ร่ำไห้กลางรายการ เคยถูกบูลลี่จนจิตตก หลังทำศัลยกรรม

ถึงกับกลั้นน้ำตาต่อไปไม่ไหว ‘ต้อม รัชนีกร’ เปิดอกเล่าความในใจ หลังทำศัลยกรรม ร้องไห้หนัก จิตตกไปพักใหญ่จากคำบูลลี่ของชาวเน็ต ผ่านมาได้เพราะกำลังใจจากแฟนหนุ่มและลูก

นักแสดงเลื่องชื่อ ต้อม รัชนีกร พันธุ์มณี เป็นอีกหนึ่งคนบันเทิงที่ต้องต่อสู้กับเสียงวิพากษ์วิจารณ์จากชาวโซเซียล หลังเธอตัดสินใจทุ่มเงินอัพความสวยในวัย 52 ปี ทำศัลยกรรม ทั้งตัดกราม และดึงหน้า แต่อาจเป็นเพราะผลลัพธ์ไม่เป็นดั่งใจ หลาย ๆ คนติติงหน้าตาของเธออย่างหนักจนทำให้สาวนักแสดงถึงกับจิตตกไปพักใหญ่กับคำบูลลี่เหล่านั้น

เมื่อวันที่ 20 ธันวาคม 2566 ที่ผ่านมา ‘ต้อม รัชนีกร’ ได้ให้สัมภาษณ์เป็นครั้งแรกถึงเรื่องราวดราม่าที่เกิดขึ้น ผ่านรายการ คุยแซ่บ Show ออกอากาศทางช่องวัน31 โดยมี เป็กกี้ ศรีธัญญา และ ซินแสเป็นหนึ่ง เป็นพิธีกรดำเนินรายการ ซึ่งเธอได้เล่าประสบการณ์การทำศัลยกรรม อีกทั้งเผยความรู้สึกหลังโดนบูลลี่จากชาวเน็ต เหตุมีบุคคลปริศนปล่อยภาพหลังศัลยกรรมของเธอบนอินเทอร์เน็ต พร้อมทิ้งท้ายแย้มถึงแฟนหนุ่ม ผู้เป็นที่มาของกำลังใจ

'ต้อม รัชกร' ร่ำไห้กลางรายการ เปิดใจที่แรก เคยจิตตก โดนบูลลี่ หลังทำศัลยกรรม
ภาพจาก : คุยแซ่บSHOW

‘ต้อม รัชนีกร’ เล่าประสบการณ์ทำศัลยกรรมครั้งใหญ่

เริ่มต้นรายการทางซินแสเป็นหนึ่งได้สอบถามว่า พี่ต้อมไปทำอะไรมาบ้าง

“ตัดกราม แล้วก็ดึงหน้า แต่ก็ไม่ได้อย่างที่ออกข่าวมานะว่าไปทำจมูก ไปทำตาเพิ่ม ไม่ได้ทำ”

ต่อมาจึงได้ถามต่อถึงเหตุผล ทำไมถึงตัดสินใจทำศัลยกรรมในครั้งนี้

“จริง ๆ แล้วติดต่อจากโรงพยาบาลมาแล้วเกือบ 3 ปี แต่เราก็ยังก่อน ๆ ยังไม่พร้อม ยังกลัวอยู่ ยังไม่อยากทำ แต่เห็นเพื่อน ๆ พี่ ๆ ก็ไปทำกันมาเยอะแยะ และที่สำคัญด้วยวัย เรามีความรู้สึกว่าถ้าเราเก็บไว้สัก 10 ปี 60 กว่าเนี่ย เราจะไหวไหมกับการไปดมยา ผ่าตัด

นับเป็นครั้งแรกในการทำศัลยกรรม

“ถ้าถือว่าเป็นผ่าตัดใหญ่ ก็ใช่ค่ะ นอกนั้นก็เป็นผ่าตัดเล็ก ๆ น้อย ๆ ทำจมูกก็ไม่ได้หนักหนา แต่อันนี้คือผ่าตัดใหญ่”

เห็นบอกว่าเดิมทีการตัดกรามเป็นสิ่งที่เราไม่ได้อยากจะตัด

“ไม่เลย ไม่มีในหัวสมอง เพราะกรามน้อยของเรามันดูเซ็กซี่ออก เราชอบ แต่ว่ามันต้องย้อนไปตอนที่เราเป็นวัยรุ่น ที่เราไปฉีดสารเหลวตอนอายุ 20 กว่าที่เรารู้ไม่ทัน แต่ก็ได้เลาะออกไปแล้ว แต่พอเราอายุมากขึ้นมันก็หย่อนคล้อยตาม คุณหมอบอกว่าไม่อยากทำอะไรที่มันเกี่ยวกับสารเหลวที่เหลือ จะเลาะก็กลัวเป็นรอย คุณหมอเลยดีไซน์ว่าขอเป็นการตัดกราม แล้วเอากรามมาต่อคางได้ไหม เพราะถ้าดึงไปเลย โดยที่ยังมีสารเหลวอยู่ หน้ามันจะแบน เราก็เลยโอเค ทำก็ทำ”

ตอนผ่าออกมาเห็นว่าพูดลำบาก

“ก็พูดได้นะคะ พอฟื้นคืนชีพมาก็ขอกินน้ำเลย”

'ต้อม รัชกร' ร่ำไห้กลางรายการ เปิดใจที่แรก เคยจิตตก โดนบูลลี่ หลังทำศัลยกรรม
ภาพจาก : คุยแซ่บSHOW

การพูดระหว่างที่เราทำกรามอยู่มันชัดไหม

“มันจะมีอยู่ช่วงนึงที่มันมีเอฟเฟคต์ เราเพิ่งมารู้หลังจากที่เราทำซึ่งทุกคนจะขำ ๆ มันเป็นเรื่องธรรมดา พูดมันต้องมีปากเบี้ยวบ้าง เราก็อ้าว..เหรอ ฉันต้องถ่ายละคร ฉันต้องปากเบี้ยวทำไง”

ตอนนั้นทุกคนเห็นแล้วทักเราไหม ทำไมมันเบี้ยวไป หรือเราเห็นด้วยตัวเราเอง

“มันเห็นด้วยตัวเราเอง ซึ่งมันแก้ไม่ได้ เพราะมันคือเอฟเฟกต์อยู่แล้ว ซึ่งคุณหมอบอกแล้วว่ามันจะมีนะ แต่มันจะมีอยู่แค่ประมาณเดือนนึง ณ ตอนนั้นรู้ก็ตกใจเหมือนกัน เราต้องใช้ชีวิตประจำวันยังไง กังวลใจ เพราะว่ามีช่วงนึงที่มีคลิปหลุดไปว่า เนี่ยเป็นพิษศัลยกรรมที่ทำมา มันเอาภาพอันนั้นไป จริงๆ แล้วมันไม่ใช่ มันคือเอฟเฟคต์ตรงนี้ มันมีหลายกระแสมากที่ทำให้เรา แบบอะไรเนี่ย”

หลังจากนั้นอีกนานไหมกว่าจะไปดึงหน้า

“ประมาณ 4-5 เดือน เพราะเราต้องถ่ายละครให้จบก่อน แล้วได้พักฟื้นประมาณ 2-3 วัน ถึงได้ไปดึงหน้า”

แบกความกลัวและความหวังไว้ด้วยว่ามันจะดีขึ้นกว่าเดิม?

“ใช่ค่ะ ทุกคนทำศัลยกรรม ทุกคนหวังหมดแหละ เราต้องสะกดจิตตัวเองว่ามันต้องสวยนะ ถามว่าเรามั่นใจในฝีมือคุณหมอไหม เรามั่นใจนะคะ ก่อนที่จะตัดสินใจทำ เรารู้อยู่แล้วคุณหมอต้องเก่ง แต่ทุกอย่างมันต้องรอเวลา”

จุดเริ่มต้นของดราม่าศัลยกรรม

ทำออกมาแล้วพอเข้าที่มันสวย แต่ดันมีเรื่อง มีราวก่อน ระหว่างผ่าตัดดึงหน้ามันเกิดเหตุการณ์ขึ้น อย่างที่เราเห็น คือมีการถ่ายคลิป ณ ตอนที่เราทำเสร็จแล้ว?

“เอาจริง ๆ ถ่ายคลิป ถ้าถ่ายไว้เผื่อเอาไว้ดูกันในโรงพยาบาล มันเป็นปกติอยู่แล้วที่เขาจะต้องเอาไว้ดู เราก็ไม่ได้คิดว่ามันจะมีภาพหลุด ตัวพี่เองไม่รู้เลย จนกระทั่งนอนได้สัก 4 วันแล้วมีเจ้าของผลิตภัณฑ์ที่พี่เป็นพรีเซ็นเตอร์อยู่โทรมา เราก็รับเขาพูดว่า เจ๊เนี่ยหนูเห็นคลิปแล้วนะ เราก็ตกใจ คลิปอะไร เราไม่รู้เรื่อง ผู้จัดการก็ไม่บอก แฟนก็ไม่บอก โทรศัพท์เราก็ไม่ได้รับใด ๆ อยู่แล้ว

จนกระทั่งน้องคนนี้โทรเข้ามา มันจะมีปัญหาไหมเจ๊กับผลิตภัณฑ์ที่เราจะนู้นนี่นั่น ทำไมเขาจะต้องแต่งหน้าขนาดนั้นด้วย หนูไม่เข้าใจเลย คือเจ๊ไม่มีฝ้า ไม่มีกระใด ๆ เลย แล้วอย่างนี้มันจะกระทบกับครีมของน้องไหม เราก็เอาแล้วมันเกิดอะไรขึ้น เราก็บอกโอเค ขอเจ๊ดูก่อนนะ เดี๋ยวเจ๊จะบอกให้ พอวางสายเสร็จ คุยกับผู้จัดการว่ามันเกิดอะไรขึ้น เขาบอกมันมีคลิปออกไปตั้งนานแล้

การใช้ชีวิตลำบากสำหรับเรามาก ที่เขาเอาภาพพวกนี้ไปออกก่อนที่เราจะสวย ถ้ามันสวยแล้วเอาภาพพวกนี้มาประกบ เราจะไม่ใช้ชีวิตลำบากเลย ตอนนี้เราจะไปไหน คือเป็นจุดที่คนพร้อมจะมองแล้วแบบบูลลี่ตลอดเวลา”

'ต้อม รัชกร' ร่ำไห้กลางรายการ เปิดใจที่แรก เคยจิตตก โดนบูลลี่ หลังทำศัลยกรรม
ภาพจาก : คุยแซ่บSHOW

จากนั้นสองพิธีกรก็ได้ถามถึงสภาพจิตใจในขณะนั้น ซึ่งเธอต้องโดนวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก จิตใจย่ำแย่แค่ไหน

ทางนักแสดงสาวถึงกับตอบคำถามทั้งน้้ำตาว่า “จิตตกค่ะ ไม่ว่าจะเป็นเพื่อนดารา ทุกคนจะบอกว่า ทำไมเธอไปออกอย่างนี้ ฉันไม่ได้เป็นคนออก ฉันไม่รู้ด้วยซ้ำ คือภาพที่นอนเป็นผัก นั่นคือเป็นอะไรที่เราช็อกมากนะว่าแบบมันออกไปได้ยังไง คือมันเหมือนศพ เราเข้าใจแล้วว่าทำไม fc (แฟนคลับ) เราถึงได้โทรมาปรี๊ดกับทางผู้จัดการ

ซึ่งจุดนี้คือพูดนะคะ ไม่ใช่ไม่พูด ว่าแบบขอตอนที่เราสวยเลยได้ไหม เพราะว่าเราก็มี fc เราอยู่ แล้วบอกเลยว่า fc เราทุกคนอยากเห็น ไม่ว่าเราจะอยู่ในสภาพอะไรก็แล้วแต่ เขาอยากเห็นเราสวย เพราะเราอยู่ในใจเขาที่เป็นแบบนั้น แต่พอเขามาเห็นสภาพเราเป็นแบบนี้ ทุกคนจะบอกว่า จะหน้าเหมือนเดิมไหม หน้าเก่าก็ดีอยู่แล้ว ทำไมไปทำ คือมาแบบกระหน่ำมาก”

‘ต้อม รัชนีกร’ เผยความรู้สึกจากการโดนบูลลี่

เวลาเห็นคอมเมนต์ไม่ดี มันมีผลต่อจิตใจเราขนาดไหน

“มันก็แย่นะ เราเข้าใจ มีทั้งคนรักและคนเกลียด ไม่ต้องบูลลี่ขนาดนี้ก็ได้ แค่นี้ก็ช้ำพอแล้ว แต่เราก็ไม่ตอบโต้ ไม่อ่านด้วย”

ถ้าจะบอกคนที่คอมเมนต์ อยากบอกว่าอะไร

“เท่าที่เห็นก็คือทุกคนให้กำลังใจนะคะ แต่ทุกคนอยากให้กลับไปเหมือนเดิมมากกว่า อย่างที่บอกว่าสวยตกใจ ก็โอเคเข้าใจแหละ คุณอาจจะตกใจช่วงแรก ซึ่งไม่ใช่แค่คุณหรอกที่ตกใจ พี่ก็ตกใจเหมือนกัน พี่ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าพี่จะได้กลับไปอยู่ในสภาพเดิมเมื่อไหร่ แต่ทุกคนจะบอกให้กำลังใจว่าจะอยู่ที่ประมาณ 3 เดือน เราก็หวังเหมือนกัน”

ตอนนี้มันมีผลกระทบกับการใช้ชีวิตเรายังไงบ้าง

“ไม่ว่าจะเป็นลูก เพื่อนลูกก็ถาม อย่างลูกก็ถาม รู้ว่านางแกล้ง หน้าตาตื่นตกใจนะแม่นะ สักพักก็จะตบหัวแล้วลูบหลัง แม่หนูดูด้านข้างแล้วเนี่ย ถ้าแม่หาย แม่ปั๊วะมากเลยนะ ส่วนลูกชายกอดแม่ได้หรือยัง กอดแล้วแม่จะเจ็บไหม แต่ถ้าใช้ชีวิตลำบากก็เนี่ยเป็นช่วงนี้ที่เราต้องมีการแปลงร่างบ้าง แอบบ้าง ปกปิดบ้าง เวลาออกไปไหนก็ลำบากที่จะออกไปนั่งกินแล้วปิด”

พอลูก ๆ ให้กำลังใจเราแบบนี้เรารู้สึกยังไงบ้าง

“เราก็รู้แหละ ไม่ว่าเราจะหน้าดี หรือหน้ายังไง คนที่อยู่ข้างเรา ก็มีลูก ผู้จัดการ แฟนอยู่แล้ว เราก็รู้แหละ ทุกคนให้กำลังใจ อยากให้มันดีขึ้น”

'ต้อม รัชกร' ร่ำไห้กลางรายการ เปิดใจที่แรก เคยจิตตก โดนบูลลี่ หลังทำศัลยกรรม
ภาพจาก : คุยแซ่บSHOW

ตอนออกไปข้างนอกต้องปิด ต้องบังตัวเอง มีความรู้สึกไหมว่าไม่อยากออกไปเลย กลัวคนมองเรา

“มี มีมากถึงมากที่สุด คือจะลงจากรถต้องถามแล้วว่า ใส่แมสก์อันนี้ดีไหม ใส่แว่นอันนี้ดีไหม ใส่หมวกอันนี้ปิดไปถึงไหน แม้กระทั่งผมที่ไม่เคยตัดมา 20 กว่าปีก็ต้องตัด เพื่อเอามาปิดไว้”

แสดงว่า ณ วันนี้เวลานี้ กังวลใจไปทั้งหมดในการออกนอกบ้าน

“กังวลใจมาก แล้วไม่ใช่แค่ออกนอกบ้านนะ กังวลใจไปถึงงานอะไรใด ๆ ที่ ณ ตอนนี้มันกระทบ เพราะงานที่เราคุยกันไว้ ติดต่อกันไว้ ง่าย ๆ เลย มันจะมีงานพรีเซ็นเตอร์ที่คุยไว้ก่อนก็มี เดี๋ยวอะไรใด ๆ เสร็จแล้วเรามาเซ็น ก็หาย บายบ๊ายไปเลย 2 งาน ซึ่งแบบตรงนี้ใครรับผิดชอบ มันไม่ใช่น้อย ๆ ด้วยนะคะ แต่ก็ไม่รู้จะไปเรียกร้องใคร ถึงได้บอกว่ามันค่อนข้างจะกระทบพอสมควร”

ยากไหมที่จะฮีลใจ ปกป้องความเป็นเรา เอาหน้าให้คนทั้งประเทศเห็น

“บอกตรง ๆ ณ ตอนนี้ยังไม่พร้อมที่จะให้เห็นด้วยซ้ำ มันมีหลายกระแส เยอะมาก ณ ตอนนี้ก็เดือนนึงพอดี”

อยากบอกอะไรกับคนที่มาบูลลี่

“เข้าใจทุกคน มันก็นานาจิตตัง แต่ก็อยากให้เข้าใจเราด้วย เราก็ไม่อยากเป็นแบบนี้หรอก ไม่อยากให้ใครพูดถึงเราแบบนี้หรอก แล้วเราก็ไม่อยากให้ใครเห็นภาพเราเป็นผักแบบนั้นเหมือนกัน แม้แต่ตัวเราเองเราก็ไม่อยากเห็น ก็ต้องขอโทษทุกคนที่อาจจะเห็นภาพอะไรที่ตัวเองอาจจะไม่ปลื้ม แต่ก็ขอบคุณทุกๆ คนเหมือนกันที่ให้กำลังใจ”

นักแสดง ‘ต้อม รัชนีกร’ เล่าเรื่องรักที่ไม่เคยบอกใคร

เห็นบอกว่ามีอีกคนที่คอยดูแลประกบใกล้ชิดเลย นั่นคือแฟน เขาดูแลยังไงบ้าง

“ก็มียิงมุก เล่นอะไรประหลาด ๆ ไม่ให้เราหัวเสีย จิตตก ตอนที่นอนโรงพยาบาล ทานอะไรไม่ได้ นางก็เอาไซริ้งมาป้อนน้ำ ป้อนโจ๊ก เพราะเราอ้าปากไม่ได้ แล้วจะไปหาอะไรที่คิดว่าคุณแฟนทานได้ กินแล้วน่าจะกระชุ่มกระชวย ขับรถไปไกลขนาดไหนก็ต้องรีบไปซื้อแล้วมาป้อนที่โรงพยาบาล เขาช่วยทุกอย่าง”

รู้สึกไหมสิ่งที่เขาพยายามทำให้เรา เราก็รู้สึกเห็นใจเขา

“เคยถามว่าถ้าหน้ากลับมาไม่เหมือนเดิม แกจะยังรักฉันอยู่ไหม เขาบอกว่ามันไม่เกี่ยว ตรงนี้ไม่ต้องคิด ตรงนี้มันทำให้เราไม่โอเค มันอยู่ตรงที่ใจ ก็อยากบอกเขาว่าขอบคุณที่อยู่กันมา แล้วก็ตั้งแต่อยู่กันมา 5 ปีนี้เคยทะเลาะกันแค่ 2 ครั้ง เราชวนทะเลาะนะ ไม่ใช่เขา ขอบคุณค่ะที่เป็นคนดี แล้วเป็นคนที่น่ารักมาตลอด”

ทำไมไม่เปิดตัว

“เคยถามแล้วค่ะ เขาบอกว่าให้เห็นของสวย ๆ งาม ๆ คนหล่อ คนสวยในทีวีเถอะ อย่าเอาเขาเข้าไปเลย ไม่รู้จะงอนทำไม เพราะปกติเขาจะเป็นแนวติสท์ ๆ อยู่แล้ว ไม่ค่อยยุ่งกับใคร”

รู้สึกว่าอยากมีชีวิตส่วนตัวที่เงียบ ๆ ด้วยหรือเปล่า

“ก็ไม่นะ อยากโชว์อยู่ แต่เขาไม่มา”

ก่อนจบรายการ นักแสดงสาว ‘ต้อม รัชนีกร’ ก็ได้ทิ้งท้ายถึงเรื่องราวดราม่าทั้งหมดว่า เธอจะถือว่าเหตุการณ์นี้เป็นบทเรียน เพราะสังคมสมัยนี้ทุกอย่างหมุนเร็วไปหมด ไม่ว่าจะทำอะไรทุกสิ่งแพร่อยู่บนอินเทอร์เน็ต หลังจากนี้ไมว่าจะทำอะไรก็คงจะระมัดระวังมากขึ้น

สุดท้ายนี้ ทาง Thaiger ก็ขอส่งกำลังใจให้กับนักแสดงสาวมากฝีมือท่านนี้ และหวังว่าสภาพจิตใจของ ‘ต้อม รัชนกร’ จะกลับมาดีดังเดิมในเร็ววัน

Danita S.

นักเขียนบทความไลฟ์สไตล์ บันเทิง ประจำ Thaiger ติดตามทุกกระแส K-Pop และเท่าทันทุกเรื่องราวความบันเทิง ด้วยประสบการณ์มากกว่า 3 ปี จบการศึกษาจากมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ คณะศิลปศาสตร์ ช่องทางติดต่อ bell@thethaiger.com

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ใส่ความเห็น

Back to top button