ข่าว

‘ลุงพล’ ร้องไห้เปิดใจสั้นๆ หลังได้รับประกันตัว เตรียมเดินหน้ายื่นอุทธรณ์

ลุงพล ร้องไห้ เปิดใจสั้นๆ ยอมรับคำตัดสิน หลังได้รับประกันตัว ทีมทนายเตรียมเดินหน้ายื่นอุทธรณ์ ขณะที่แฟนคลับแห่ยื่นดอกไม้ให้หกช่อ

จากที่ศาลมุกดาหารพิพากษาจำคุก นายไชย์พล วิภา หรือ ลุงพล มีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 291, 317 วรรคแรก ฐานกระทำโดยประมาท เป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย จำคุก 10 ปี, ฐานพรากเด็กอายุยังไม่เกินสิบห้าปีไปเสียจากบิดามารดา โดยปราศจากเหตุอันสมควร จำคุก 10 ปี รวม 20 ปี ก่อนที่ศาลจะให้ประกันตัวในระยะเวลาต่อมานั้น

ลุงพลและทีมทนายได้ตั้งโต๊ะแถลง ซึ่งก่อนจะเริ่มแถลงก็มีแฟนคลับมามอบช่อดอกไม้ รวมแล้ว 6 ช่อด้วยกัน โดยลุงพล น้อมรับคำตัดสินของศาลชั้นต้น วันนี้ก็ได้รับคำสั่งศาลออกมาเรียบร้อย ต่อไปคงเป็นหน้าที่ของทีมทนาย ให้สื่อมวลชนรับทราบต่อไป ยอมรับว่าการฟังคำแถลง ตนไม่รู้เรื่องเพราะฟังไม่ทัน แต่พอทราบบ้าง พร้อมขอบคุณผู้ใหญ่ใจดีและแฟนคลับ

ส่วนป้าแต๋น ที่ศาลตัดสินยกฟ้องนั้น ขอบคุณเอฟซีที่คอยติดตาม และกำลังใจลุงพลและป้าแต๋น ยอมรับทุกคำตัดสินและต่อสู้ในชั้นอุทธรณ์ต่อไป ขอบคุณทุกท่านและทุกคนให้กำลังใจต่อไป

ขณะที่ทีมทนายของลุงพลระบุว่า จำเลยเคารพคำพิพากษาของศาลชั้นมุกดาหารและขอบคุณในความเมตตาในการปล่อยตัวชั่วคราวลุงพล ซึ่งโทษจำคุกรวม 20 ปี โดยหลักแล้ว การจะได้รับการปล่อยตัวชั่วคราว ขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของศาล

ศาลชั้นต้นฟังข้อเท็จจริงว่าน้องชมพู่ไม่ขึ้นเขาภูเหล็กไฟด้วยตนเอง เป็นดุลยพินิจของศาลชั้นต้น ด้วยรายงานการสืบสวนชั้นต้น เด็กในวัยนั้นเคลื่อนไหวร่างกายได้ไม่เกิน 6 ชั่วโมง เมื่อศาลไม่เชื่อ ก็จะต้องลงมาสู่ว่าใครพาไป ตามรายงานการสืบสวนมองว่าคนที่จะเข้าสู่หาผู้ตายว่าต้องเป็นเครือญาติเท่านั้น ขีดเส้นเครือญาติ 14 คน มีลุงพลคนเดียวมีข้อพิรุธ

ช่วงเวลา 9.11 – 9.49 น. ลุงพลไม่สามารถอธิบายชัดเจน แต่ทางหักล้างของจำเลย เรามีพยานหักล้างว่าลุงพลอยู่ที่ไหนกับใคร และนำไปเบิกความ โดยศาลเชื่อภาคอากาศ ส่วนเราภาคพื้นดิน และเอาพยานแวดล้อมเข้ามาเชื่อมโยงบวกกับเส้นผม 1 เส้นบนรถยนต์ ซึ่งพบอยู่ข้างศพ และนำสู่กระบวนพิสูจน์หลักฐาน เชื่อมโยงกันมา ท่านเลยมีดุลยพินิจฟังว่าไม่มีคนอื่นพาไปนอกจากลุงพล

ส่วนข้อหาฆ่าคนตาย โดยเจตนา ท่านมองว่า เชื่อพยานหลักฐานว่า ลุงพลไม่มีเจตนาฆ่าเด็ก แต่ระหว่างพาเด็กออกจากบ้าน อาจจะต้องใช้ความระมัดระวัง อัยการฟ้องว่าเจตนาฆ่า แต่ศาลมองว่าเด็กตายเพราะความประมาท เพราะลุงพลคนเดียว ศาลจึงวางโทษ 10 ปี รวมแล้ว 20 ปี

ส่วนอำพรางซ่อนเร้นศพยกฟ้องจำเลยทั้งสองคน ก็เป็นที่สิ้นสุด ใครพาเด็กไป แม้จะไม่มีประจักษ์พยาน แต่ดุลยพินิจของท่านมองว่าเป็นจำเลยที่ 1 (ลุงพล)

ส่วนเรื่องจ่ายเงินสินไหม จำเลยที่ 1 จ่าย 150,000 บาท ส่วนค่าเลี้ยงดู ให้ชดใช้ 1 ล้าน 2 หมื่นบาท ในส่วนแพ่ง โดยสรุปก็คือกระบวนการของศาลชั้นต้นจบลงวันนี้ ต่อไปจะเป็นหน้าที่ของคณะทนายความที่จะเขียนคำอุทธรณ์โต้แย้งให้เห็นเป็นเหตุเป็นผล พยานมีพิรุธสงสัย มีน้ำหนักรับความไม่ได้ โดยจะยื่นภายใน 30 วันนับจากนี้

หลังจากนี้จะไม่ได้พบกันอีก จนกระทั้งวันยื่นอุทธรณ์ ซึ่งหลังศาลสูงพิจารณาแล้ว ก็จะแจ้งมาให้นัดฟังคำพิพากษาอีกครั้งหนึ่ง คาดว่าศาลอุทธรณ์น่าจะใช้เวลาอีกประมาณ 1-2 ปี ซึ่งผลอาจจะออกมาได้ทั้งบวกบวกและลบลบ อาจจะถูกตัดสินให้ผิดทุกข้อหา และโดนโทษประหารชีวิตได้ หรืออาจจะยกฟ้องก็เป็นได้

พร้อมเปรียบเทียบว่าศาลชั้นต้นเหมือนการชกมวย โดยระบุว่าเป็นการชกยกแรก และไม่ได้แพ้น็อค แต่ตัดสินให้นายไชยพล วิภา แพ้คะแนน ดังนั้นทีมทนายความยังอยู่ในขั้นตอนเดิม อยู่ในองค์ประกอบทุกอย่าง ทั้งข้อเท็จจริงและกฎหมาย ซึ่งจะรวบรวมบรรยายพยานแต่ละปากเป็นเช่นนั้น เพื่อแสดงว่าลุงพลไม่ใช่คนใจร้าย

ในขณะที่ทนายกำลังแถลง ลุงพล ก็ได้ร้องไห้ และเช็ดน้ำตาไปด้วย พร้อมก้มหน้าก้มตาบ่อยครั้ง

Nateetorn S.

ผู้สื่อข่าว ทำงานกับ Thaiger มาตั้งแต่ปี 2020 จบการศึกษาจากคณะวารสารศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสคร์ เคยทำงานกับสถานีโทรทัศน์อันดับ 1 ของประเทศ ทำให้มประสบการณ์ความเชี่ยวชาญ เจาะประเด็นข่าวการเมืองอาชญากรรม ข่าวแปลกๆ เรื่องน่าสนใจจากต่างประเทศ ช่องทางติดต่อ tee@thethaiger.com

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ใส่ความเห็น

Back to top button