เทรซีย์ เอมิน สุดปลื้ม โรงพยาบาล-โรงแรมไทยดูแลดี ร่ายยาวขอบคุณ ชูเป็นความโชคดีในชีวิต
ศิลปินชื่อดังชาวอังกฤษ เทรซีย์ เอมิน โพสต์ขอบคุณโรงพยาบาล-โรมแรมไทยในเกาะภูเก็ต ซึ้งใจดูแลอย่างดี ชุบชีวิตวันที่ป่วยลำไส้เล็กอักเสบรุนแรง จากภาวะแทรกซ้อนหลังการผ่าตัด
วันที่ 17 ธันวาคม 2566 เทรซีย์ เอมิน ศิลปินหญิงชื่อดังชาวอังกฤษ วัย 60 ปี ป่วยด้วยโรคมะเร็งและเพิ่งเข้ารับการผ่าตัดใหญ่ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ไม่กี่วันก่อนขณะที่ เอมิน อยู่ในประเทศไทย จู่ ๆ เธอเกิดอาการป่วยกะทันหันด้วยอาการปวดท้อง จึงต้องเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลกรุงเทพภูเก็ตอย่างเร่งด่วน
ขณะรักษาตัว เอมิน สัมผัสได้ถึงความอบอุ่นใจดีของคนไทย เมื่ออาการเธอเริ่มดีขึ้นจึงโพสต์ข้อความสุดซึ้ง ขอบคุณโรงพยาบาลกรุงเทพภูเก็ต และโรงแรมอมันปุรี ที่ทำให้เธอรู้สึกโชคดีเหมือนกับได้ใช้ “อีกหนึ่งในเก้าชีวิต” ระบุความว่า
แปลได้ว่า “นี่เป็นโพสต์แรกของฉันในรอบหลายเดือน ฉันไปเที่ยว และฉันรู้สึกไม่สบายมาก ไม่ใช่มะเร็ง แต่เป็นภาวะแทรกซ้อนที่น่ากลัวกับลำไส้ของฉันที่เกิดจากการติดเชื้อ เป็นเนื้อเยื่อแผลเป็น และทำให้แย่ลงนับล้านเท่าโดยการบิน ลำไส้เล็กของฉันเกือบจะระเบิด
โชคดีสำหรับฉันที่กลับมาเมืองไทยระหว่างเดินทางกลับจากออสเตรเลีย ฉันจึงใช้เวลาสองสามวันในโรงพยาบาลที่ดีมาก .. และตอนนี้ก็กำลังฟื้นตัวอย่างหรูหรา
นอกเหนือจากการใช้ชีวิตจาก 1 ใน 9 ชีวิตของฉันแล้ว ฉันว่าฉันโชคดีมาก ตอนนี้ฉันกำลังควบคุมอาหารเป็นพิเศษ และจะออกเดินทางเมื่อฉันแข็งแรงพอ ในขณะเดียวกัน มันวิเศษมากที่ได้มีความรัก ไม่ต้องเจ็บปวดและรู้ว่าฉันโชคดีแค่ไหน
ขอบคุณ @bangkokhospitalphuket และ @amanpuri ที่คอยดูแลฉัน”
อย่างไรก็ตามนี่นับเป็นความภาคภูมิใจของคนไทย ที่ได้รับการชื่นชมและทำให้ชาวต่างชาติได้รับความประทับใจกลับไป นั่นหมายความว่าความเป็นสยามเมืองยิ้มของเรา อาจผลักดันเป็นซอฟต์พาวเวอร์ได้จริง
เทรซีย์ เอมิน เป็นอาร์ตติสหญิงคนดังจากขบวนการศิลปินอังกฤษรุ่นใหม่ ช่วงปลายทศวรรษ 1980-1990 สร้างผลงานแนวแหกกฎกุลสตรีอังกฤษมากมาย แต่แฝงไปด้วยความทรงพลัง
เธอเป็นหนึ่งในบุคคลสำคัญในขบวนการ Young British Artists สร้างชื่อให้กับเธอด้วยผลงานที่เปิดหูเปิดตาและมักยั่วยุทางเพศ ควบคู่ไปกับการแสดงตัวตนในที่สาธารณะอย่างเปิดเผยและตรงไปตรงมา ทำให้เธอกลายเป็นบุคคลที่มีชื่อเสียงโด่งดังไปทั่วโลก
ขอบคุณข้อมูลและภาพจาก : traceyeminstudio , theguardian
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้องเพิ่มเติม :