โพสต์สุดท้าย ‘หมอเชอรี่’ ผอ.รพ.สต. ถูกอดีตสามีทหารยิงดับ เผยปมเศร้าก่อนเหตุสลด
แห่ไว้อาลัย หมอเชอรี่ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล เสียชีวิต เหตุจ่าทหารอดีตสามีลั่นไกอำมหิต เผยชีวิตเศร้าโพสต์ตัดพ้อโดนตามรังควาน ระบุชัดถ้าตายใครทำ
กรณีข่าวสะเทือนขวัญที่ จ.ส.อ.อัครพงษ์ อายุ 30 ปี ทหารสังกัด พล.ร.4 ค่ายสมเด็จพระนเรศวรมหาราช กองทัพภาคที่ 3 ก่อเหตุใช้อาวุธปืนจ่อยิง น.ส.ชลธิชา (สงวนนามสกุล) อายุ 34 ปี อดีตภรรยา ผู้อำนวยการโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลบ้านแหลมครก ที่เพิ่งหย่าร้างกันได้ 3 เดือน จนเสียชีวิต
ล่าสุด ได้มีการตรวจสอบบัญชีเฟซบุ๊กส่วนตัวของหมอเชอรี่ก็พบเรื่องราวที่น่าหดหู่เพิ่มเติม เนื่องจากผู้ตายมักพิมพ์ข้อความเปิดเผยเรื่องราวปัญหาที่ชีวิตระบายผ่านบัญชีโซเชียลของตัวเองเมื่อ 4 วันที่ผ่านมา โดยเป็นการโพสต์ภาพโทรศัพท์มือถือหน้าจอแตก พร้อมแคปชั่นที่เขียนว่า “หากตายไป รู้ไว้เลยนะบอลเป็นคนทำ”
นอกจากนี้ยังแคปชั่นจอดำพร้อมกับขึ้นข้อความว่า “เคยบอกว่าไหวนะ แต่ตอนนี้ไม่สู้แล้วนะการจากตายน่าจะดีที่สุด”
ขณะที่ นายเชาวพัน (สงวนนามสกุล) อายุ 80 ปี พ่อหมอเชอรี่ เผยว่า ปกติตนเองพักอยู่ที่บ้านหลังเกิดเหตุกับลูกสาว แต่เนื่องจากทั้งสองคนมีปัญหาทะเลาะมีปากเสียงกันบ่อยครั้ง ทำให้ต่อมาฝั่งบิดาฝ่ายหญิงจึงตัดสินใจย้ายไปเช่าบ้านอยู่ใกล้ ๆ คนละฝั่งของถนน โดยย้ายไปได้ประมาณ 5-6 วัน ซึ่งทุกวันนี้ก็ยังจัดข้าวของอะไรไม่เสร็จด้วยซ้ำก็มาเกิดเหตุสลดขึ้น
บิดาผู้ตาย เล่าต่อว่าหมอเชอรี่เป็นลูกสาวคนเล็กจากลูกทั้งหมด 2 คน ส่วนความสัมพันธ์ของผู้ตายและจ่าทหาร ทั้งสองคบหากันนานกว่า 10 ปี ตั้งแต่สมัยเรียน จนแต่งงานมีลูกด้วยกัน 2 คน
ตอนเกิดเหตุ ตัวของบิดากล่าว่าไม่ทราบเรื่อง มารู้เรื่องตอนประมาณ 5 ทุ่ม รีบมาดูที่เกิดเหตุแต่ไม่เห็นศพของลูกสาวแล้ว โดยทางตำรวจเป็นคนแจ้งให้ทราบรู้สึกเสียใจมากที่สุด
สำหรับร่างหมอเชอรี่ จะมีการนำไปตั้งบำเพ็ญกุศลสวดอภิธรรมศพที่วัดคูหาสวรรค์ ต.ในเมือง อ.เมืองพิษณุโลก เพียงศพเดียวเท่านั้น ส่วนหลาน 2 คนของลูกสาว ทางครอบครัวผู้เสียชีวิตยืนยันจะเป็นคนเลี้ยงดูกันเอง โดยหลานคนโตเรียนอยู่ชั้น ม.2 และคนเล็กเรียนอยู่ชั้นอนุบาล 2 ตามลำดับ.