“ทนายเดชา” ชี้ ผู้บุกรุกห้อง นิสิต ป.เอก ตกตึกเสียชีวิต เข้าข่ายฆ่าคนตายโดยเจตนา
ทนายเดชา เปิดคำพิพากษาศาลฎีกาจากคดีเก่า เทียบคดีนิสิต ป.เอก ตกตึกเสียชีวิต ชายบุกรุกห้อง เข้าข่ายฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา ฝากพนักงานสอบสวนดูแลญาติผู้ตาย
สืบเนื่องจากคดี น.ส.อาภาพร สีชำนาญ หรือ น้องเฟิร์น อายุ 27 ปี นิสิตปริญญาเอก ภาควิชาฟิสิกส์ คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยดังย่านบางเขน ตกตึกเสียชีวิต จากห้องพักชั้น 6 ภายในแมนชั่นแห่งหนึ่ง ซอยลาดปลาเค้า 3 ย่านลาดพร้าววังหิน หลังถูกชายเมาสุราคุกคาม เคาะห้อง และพยายามบุกรุกห้อง
ทางด้านผู้ดูแลหอพักออกมาชี้แจงว่า ผู้ก่อเหตุคือ นายสมมาตร ไม่ใช่สามีผู้ดูแลหอพัก เป็นเพียงผู้เช่าเท่านั้น ภายหลังก่อเหตุได้สั่งให้นายสมมาตรย้ายออก ยืนยันไม่ได้เป็นการช่วยเหลือให้คนร้ายหลบหนี ภายหลังเจ้าหน้าตำรวจสถานีตำรวจภูธรโชคชัย แจ้ง 3 ข้อหาต่อชายผู้ก่อเหตุคดีนิสิต ป.เอก ตกตึกเสียชีวิต คือ พยายามบุกรุก ทำให้เกิดเหตุอึกทึกครึกโครม และทำให้ผู้อื่นตกใจกลัว
ล่าสุด วันอาทิตย์ที่ 17 ธันวาคม ทนายเดชา กิตติวิทยานันท์ ทนายความอาวุโส เจ้าของเพจเฟซบุ๊ก ทนายคลายทุกข์ ได้โพสต์คลิปวิดีโอเกี่ยวกับกรณีดังกล่าว โดยระบุหัวข้อคลิปว่า มีคนมาเคาะห้อง สาวตกใจตกตึกตาย ใครต้องรับผิดชอบผิด ข้อหาอะไรบ้าง ซึ่งภายในคลิปวิดีโอ ทนายเดชาให้รายละเอียดว่า
กรณีชายบุกรุกพยายามเคาะห้องของนิสิต ป.เอก โดยอ้างว่าต้องการให้เลื่อนรถในช่วงเวลาดึก เป็นเหตุให้นิสิตสาวตกใจ เกิดความกลัว และพลัดตกตึกจนเสียชีวิตนั้น ตนได้ไปอ่านคำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4563/2543 ตอนนั้นศาลฎีกาตัดสินว่า จำเลยจะเข้าไปข่มขืนผู้ตาย โดยผู้ตายยืนพิงระเบียงอยู่ จำเลยย่อมเล็งเห็นว่า หากผู้ตายขัดขืนอาจพลัดตกจากระเบียงอาคารสูงได้ เป็นเหตุให้ผู้ตายถึงแก่ความตายได้
คดีที่ยกมานั้น ผู้ตายกลัวโดนข่มขืนเหมือนกัน ได้หลบหนีแล้วพลัดตกจากระเบียง และถึงแก่ความตาย ศาลฎีกาตัดสินว่าเป็นการฆ่าคนตายโดยเจตนา เล็งเห็นผล คดีนี้จึงฝากพนักงานสอบสวนดูแลญาติคนตายด้วย
จากคดีที่ทนายเดชายกมา กล่าวได้ว่า ชายผู้ก่อเหตุมีความผิด และต้องได้รับโทษตามกฎหมาย เนื่องจากส่งผลให้นักศึกษาสาวถึงแก่ความตาย
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง