GISTDA รายงานสถานการณ์ฝุ่น PM 2.5 กรุงเทพมหานคร เกินมาตรฐาน 28 เขต หนักสุดที่บางกอกใหญ่ ภาพรวมทั้งประเทศเกินมาตรฐาน 42 จังหวัด พบจุดความร้อนทั้งประเทศ 90 จุด
มลพิษที่เกิดจากฝุ่นละอองส่งผลกระทบต่อประชาชนอย่างต่อเนื่อง วันเสาร์ที่ 16 ธันวาคม 2566 สำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ (องค์การมหาชน) หรือ GISTDA โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก GISTDA รายงานสถานการณ์ฝุ่น PM 2.5 แบบรายชั่วโมง พบค่าฝุ่นเกินมาตรฐานในกรุงเทพมหานครหลายพื้นที่ ระบุว่า
อว. โดย GISTDA เกาะติดสถานการณ์ฝุ่น PM 2.5 แบบรายชั่วโมง ด้วยข้อมูลจากดาวเทียมผ่านแอปพลิเคชัน “เช็คฝุ่น” เมื่อเวลา 09.00 น. พบทุกพื้นที่ กทม. มีค่าฝุ่นเกินมาตรฐาน โดยมี 28 เขตที่ส่งผลกระทบต่อสุขภาพระดับสีแดง
สูงสุดที่บางกอกใหญ่ ตามด้วยธนบุรี หนองแขม คลองสาน ภาษีเจริญ สัมพันธวงศ์ บางกอกน้อย เป็นต้น ขณะที่อีก 22 เขตที่เกินค่ามาตรฐานระดับสีส้มที่เริ่มส่งผลต่อสุขภาพ ส่วนภาพรวมทั้งประเทศยังเกินมาตรฐาน 42 จังหวัด โดยมี 4 จังหวัดสูงระดับแดง ได้แก่ สมุทรสาคร นนทบุรี อ่างทอง และอยุธยา
แอปพลิเคชันเช็คฝุ่น ยังคาดการณ์ปริมาณฝุ่น PM2.5 ในอีก 3 ชั่วโมงข้างหน้าพบว่า หลายพื้นที่ยังคงมีค่าคุณภาพอากาศที่เกินค่ามาตรฐานในระดับสีส้มถึงแดง
สำหรับข้อมูลบนแอปพลิเคชันเช็คฝุ่น ใช้เทคโนโลยีดาวเทียมร่วมกับ AI (Artificial intelligence) ในการวิเคราะห์ค่าฝุ่น PM 2.5 แบบรายชั่วโมงในทุกพื้นที่ทั่วประเทศ ร่วมกับการใช้ข้อมูลการตรวจวัด PM 2.5 จากกรมควบคุมมลพิษ, ข้อมูลสภาพอากาศ จากกรมอุตุนิยมวิทยา รวมถึงข้อมูลของแหล่งกำเนิดฝุ่น เช่น จุดความร้อน และข้อมูลที่เกี่ยวข้องอีกจำนวนมาก มานำเสนอให้ในรูปแบบข้อมูลตัวเลขและค่าสีในระดับต่าง ๆ เพื่อให้ผู้ใช้งานสามารถเข้าใจสถานการณ์ได้ง่ายยิ่งขึ้น
ข้อมูลจุดความร้อนที่รายงานโดย GISTDA เมื่อวันที่ 14 ธันวาคม 2566 พบจุดความร้อนทั้งประเทศ 90 จุด ส่วนใหญ่พบในพื้นที่การเกษตร 49 จุด ตามด้วยพื้นที่สปก. 21 จุด ชุมชนและอื่น ๆ 13 จุด ป่าสงวนแห่งชาติ 4 จุด พื้นที่ริมทางหลวง 2 จุด และป่าอนุรักษ์ 1 จุด จังหวัดที่พบจำนวนจุดความร้อนสูงสุด 3 อันดับแรก คือ สระบุรี 12 จุด อุตรดิตถ์ 7 จุด และขอนแก่น 5 จุด
นอกจากนี้ ประเทศเพื่อนบ้านที่พบจุดความร้อน 3 อันดับแรกได้แก่ พม่า 154 จุด ตามด้วย กัมพูชา 107 จุด และเวียดนาม 104 จุด ส่วนประเทศไทยอยู่อันดับ 4 พบ 90 จุด
ประชาชนที่ต้องออกไปทำงานหรือทำกิจกรรมนอกอาคาร ควรสวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลา เพื่อป้องมลพิษและโรคทางเดินหายใจที่เกิดจากฝุ่นละออง โดยทุกท่านสามารถติดตามสถานการณ์ฝุ่นและข้อมูล PM 2.5 แบบรายชั่วโมงเพิ่มเติมผ่านแอปพลิเคชันเช็คฝุ่นได้
