อดีตลูกศิษย์แฉ “อ.น้องไนซ์” แอบเปิดรับเงินบริจาค บังหน้าโชว์อภินิหาร
หนึ่งในลูกศิษย์และผู้เคยศรัทธาต่อ อาจารย์ น้องไนซ์ ออกมาเปิดเผยว่า เบื้องหลังการแสดงธรรมคือการนำเด็กมาหลอกลวงให้หลงเชื่อ แอปซุกเปิดรับเงินบริจาค ล่าสุดเตรียมยื่นเรื่องการตรวจสอบต่อกองบังคับการปราบปราม
ภายหลังที่ “อาจารย์ น้องไนซ์” หรือ “อาจารย์น้องไนซ์เชื่อมจิต” ได้กลายเป็นกระแสสังคมและเริ่มเป็นที่จับตาเฝ้าระวังจากสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติและเจ้าหน้าที่ตำรวจ เกี่ยวกับเรื่องการหลอกลวงความเชื่องมงาย กระทั่งล่าสุด เมื่อวันที่ 14 ธันวาคม 2566 หนึ่งในสมาชิกอดีตลูกศิษย์ น้องไนซ์ ได้เปิดเผยว่า ทั้งหมดนี้เป็นการหลอกลวงประชาชนให้หลงศรัทธา ด้วยการนำเด็กมาแสดงธรรมหาผลประโยชน์บังหน้า โดยมีผู้ใหญ่ที่มีอิทธิพลชักใยอยู่เบื้องหลัง นอกจากนี้ในการจัดกิจกรรมแต่ละครั้ง จะมีการเรียกเก็บเงินจากสมาชิกจำนวนมาก
เนื่องจากตนเองได้เห็น น้องไนซ์ ทำคลิปวิดีโอว่าเป็นพระพุทธเจ้ากลับมาเกิด จึงได้เข้าไปติดตามโดยหวังว่าจะเข้าไปร่วมปฏิบัติธรรม จากตอนแรกสมาชิกในกลุ่มมีไม่กี่ร้อยคน จนเมื่อล่าสุดช่วงประมาณต้นเดือนธันวาคม 2566 มีสมาชิกอยู่ในกลุ่มไลน์สูงสุดมากกว่า 6,000 คน และตนค้นพบว่า ภายในกลุ่มมีการเปิดรับบริจาค ร่วมสร้างสถานปฏิบัติธรรมโดยที่ไม่ได้แจ้งรายละเอียดอะไรเลย ระบุเพียงแค่รูปภาพสถานที่ประกอบ และมีเลขที่บัญชีเป็นชื่อของ “นายคเณศ” แปะอยู่ในกลุ่ม
ต่อมาแอดมินกลุ่มน้องไนซ์ ได้แจ้งเปิดคอร์สค้างคืนเข้าปฏิบัติธรรม มีค่าใช้จ่ายโดยเริ่มต้นที่ 1,900 บาท รายละเอียดบอกแค่ว่ามี Coffee Break แต่หากอยากได้ความสะดวกเพิ่มเติม จะมีค่าใช้จ่ายเพิ่ม สูงสุดอยู่ที่ 4,000 บาท จนเมื่อหนึ่งในสมาชิกได้สอบถามรายละเอียดด้วยความสงสัย ก็ถูกแอดมินกลุ่มเตะออกจากกรุ๊ปทันที ทั้งยังกล่าวหาว่าเป็นคนชั่วที่คอยขัดขวางผู้แสวงบุญ
จากนั้น นางสาวชลิดา ได้เปิดเผยว่า เมื่อเสร็จธุระการยื่นเรื่องต่อสำนักนายกรัฐมนตรี ทีมงานจะนำเรื่องดังกล่าวไปยื่นต่อกองบังคับการปราบปราม เพื่อเตรียมดำเนินการเข้าตรวจสอบเรื่องการเปิดรับบริจาคเงิน โดยใช้เด็กหาผลประโยชน์
ไม่ว่าเรื่องดังกล่าวจะตัดสินเช่นไร ก็ขึ้นอยู่กับเจ้าหน้าที่และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการหาข้อเท็จจริง ซึ่งเรื่องดังกล่าวการนำเด็กมาหาผลประโยชน์แบบนี้เป็นการกระทำที่ไม่ถูกต้อง
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง