เปิดประวัติของ โชเฮ โอทานิ นักเบสบอลสตาร์ดังญี่ปุ่น หลังสร้างสถิติเป็นนักกีฬาที่ได้รับค่าเหนื่อยสูงที่สุดในโลก จากการย้ายทีมครั้งล่าสุด
กลายเป็นข่าวฮือฮาไปทั่วโลก ไม่ใช่แค่วงการกีฬา เพราะล่าสุดมีข่าวว่า โชเฮ โอทานิ เจ้าของฉายา “โชไทม์” นักกีฬาเบสบอลคนดังของทีมชาติญี่ปุ่น ได้ย้ายออกจากทีม แอลเอ แอลเจิลส์ ไปอยู่กับ แอลเอ ด็อดเจอร์ส ด้วยสัญญายาว 10 ปี พร้อมรับค่าเหนื่อยสูงถึง 700 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือตกที่ราวๆ 25,000 ล้านบาท ส่งให้เขากลายเป็นนักกีฬาที่ได้รับค่าเหนื่อยสูงที่สุดในโลกทันที
วันนี้ Thaiger ขอพาเพื่อนๆ มารู้จัก โชเฮ โอทานิ ว่ากว่าที่เขาจะมาอยู่จุดนี้ได้ ต้องผ่านอะไรมาบ้าง
โอทานิ เกิดเมื่อวันที่ 5 กรกฎาคม 1994 (ปัจจุบันอายุ 29 ปี) เกิดที่เมืองโอชู จังหวัดอิวาเตะ ทางตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศญี่ปุ่น คุณแม่เป็นนักแบดมินตัน แต่ดูเหมือนว่าเจ้าตัวจะได้รับพรสวรรค์ในการเล่นเบสบอลมาจากคุณพ่อ ที่นอกจากจะทำงานในอุตสาหกรรมรถยนต์แล้ว เขายังเป็นนักเบสบอลสมัครเล่นในศึก Japanese Industrial League เช่นเดียวกับพี่ชาวของโชเฮอย่าง เรียวตะ ที่ก็เป็นนักเบสบอลสมัครเล่นเช่นกัน
โชเฮ ได้ลงเล่นในตำแหน่งพิตเชอร์ในศึกเบสบอลฤดูร้อนที่บ้านเกิดในวัย 18 ปี ก่อนที่เจ้าตัวจะสร้างชื่อด้วยทำสถิติขว้าบอลได้เร็วถึง 160 กิโลเมตรต่อชั่วโมง จนทำให้หลังจบมัธยมปลาย โชเฮ ตั้งเป้าหมายอย่างชัดเจนว่าต้องการไปเล่นในเมเจอร์ลีกเบสบอล หรือ MLB ของสหรัฐอเมริกา ซึ่งในตอนนี้เจ้าตัวได้รับความสนใจจากหลายทีม ทั้ง เท็กซัส เรนเจอร์ส, บอสตัน เร้ด ซอกซ์, นิวยอร์ก แยงกี้ส์ และ แอลเอ ด็อดเจอร์ส
ก่อนที่สุดท้ายเขาจะเลือกที่จะสั่งสมประสบการณ์กับการเล่นให้กับ ฮอกไกโด นิปปอน-แฮม ไฟเตอร์ ทีมอาชีพในญี่ปุ่น ในปี 2013
หลังจากนั้น โชเฮ ก็ทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมในสีเสื้อของ ฮอกไกโด นิปปอน-แฮม ไฟเตอร์ หลังจากที่พาทีมคว้าแชมป์ลีกได้ในปี 2016 พร้อมคว้าตำแหน่ง MVP ในปีนั้นไปครอง รวไมปถึงมีชื่อติดทีมยอดเยี่ยมของลีกญี่ปุ่นได้ถึง 5 ปีติดต่อกัน ตั้งแต่ปี 2013 จนถึงปี 2017 หรือว่าง่ายๆ ก็คอตัวของ โชเฮ ติดทีมยอดเยี่ยมทุกปีนับตั้งแต่ที่เดบิวต์จนถึงปีสุดท้ายของเขา
ก่อนที่ในช่วงธันวาคม ปี 2017 โชเฮ ในวัย 23 ปี โชเฮ จะเซ็นสัญญาย้ายไปเล่นกับ แอลเอ แองเจิลส์ ทีมจากศึก MLB ตามความฝันของเขา
อย่างไรก็ตาม หลังจากที่เซ็นสัญญากับ แอลเอ แองเจิลส์ ได้เพียงแค่ไม่กี่วัน โชเฮ ถุกตรวจพบว่ามีอาการบาดเจ็บที่เอ็นข้อศอกขวา แต่นั้นก็ไม่สามารถขวางเส้นทางความฝันของเขาได้ เพราะสุดท้ายแล้ว โชเฮ จบซีซั่นด้วยการคว้าผู้เล่นหน้าใหม่ประจำปี หรือ AL Rookie og the Year 2018 ก่อนที่เจ้าตัวจะสถาปนาตัวเองขึ้นมาเป็นดาวเด่นของลีก อีกทั้งยังสามารถเล่นในตำแหน่งแบ็ตเตอร์ หรือตัวตีบอล ได้เป็นอย่างดีอีกด้วย
แม้ว่าตลอด 6 ซีซั่นกับ แอลเอ แองเจิลส์ โชเฮ จะไม่สามารถคว้าแชมป์ใดๆ ติดมือมาได้ แต่เจ้าตัวก็ยังได้รับรางวัลส่วนตัวอย่าง MVP ของศึก MLB ในปี 2021, 2022 และ 2023 พร้อมกับมีชื่อติดทีม All-Star 3 ครั้ง ก่อนที่สุดท้ายเขาจะหมดสัญญากับต้นสังกัด และย้ายไปอยู่กับ แอลเอ ด็อดเจอร์ส พร้อมกับสร้างสถิติใหม่ให้กับวงการกีฬาโลก
