“อนุทิน” บุกจับผับเถื่อน Sonic Club Bangkok ยาเสพติดเกลื่อน เจอฉี่ม่วง 122 คน
มท.1 บุกจับผับ Sonic Club Bangkok ย่านลาดพร้าว พบทั้งยาอี ยาบ้า ยาเค และแฮปปี้วอเตอร์ เกลื่อนร้าน ตรวจฉี่นักเที่ยวรวมพนักงานร้าน ไม่มีใบอนุญาตตั้งร้าน พร้อมสั่งปิด 5 ปี
วันอาทิตย์ที่ 10 ธันวาคม 2566 เมื่อเวลา 02.20 น. นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย พร้อมด้วยนายอรรษิษฐ์ สัมพันธุรัตน์ อธิบดีกรมการปกครอง นำทีมชุดปฏิบัติการพิเศษกรมการปกครอง บุกจับผับ Sonic Club Bangkok ย่านลาดพร้าว
นางสาวไตรศุลี ไตรสรณกุล เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยและโฆษกกระทรวงมหาดไทย เปิดเผยว่า นายอนุทิน นำทีมชุดปฏิบัติการพิเศษกรมการปกครอง สนธิกำลังร่วมกับสำนักงาน ป.ป.ส. กทม. พร้อมสมาชิกกองอาสารักษาดินแดน 30 นาย และตำรวจนครบาลโชคชัย บูรณาการเข้าจับกุมผับ Sonic Club Bangkok ซึ่งเป็นสถานบันเทิงเถื่อน ไม่มีใบอนุญาต บริเวณถนนประดิษฐ์มนูธรรม แขวงลาดพร้าว เขตลาดพร้าว
จากการบุกค้นพบนักเที่ยวมั่วสุมเสพยาเสพติดนับร้อย แหล่งปล่อยของเอเยนต์รายใหญ่ ย่านเลียบด่วน รามอินทรา ซึ่งนางสาวไตรศุลีกล่าวอีกด้วยว่า สถานบันเทิง Sonic Club Bangkok กระทำการท้าทายกฎหมาย ทั้งการเปิดโดยไม่มีใบอนุญาตตั้งสถานบริการ ขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เกินเวลา ปล่อยปละละเลยให้มีผู้นำยาเสพติดเข้ามากระจายและเสพภายในร้าน
นอกจากนี้สถานบันเทิงยังเปิดถึงเกือบถึงรุ่งเช้า ถือเป็นการจงใจฝ่าฝืนกฎหมายอย่างชัดแจ้ง โดยหลังจากนี้ เจ้าหน้าที่ผู้เกี่ยวข้อง จะออกคำสั่งคำสั่งปิดสถานที่แห่งนี้ มีกำหนด 5 ปี ตามคำสั่ง หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ 22/2558 ต่อไป
สำหรับปฏิบัติการตรวจค้นและจับกุมผับในย่านเลียบด่วน รามอินทรา ครั้งนี้ สืบเนื่องจากการสืบสวนข้อมูลสถานประกอบการและสถานบันเทิงผิดกฎหมายทั่วทั้งกรุงเทพ และต่างจังหวัด ตามนโยบายการจัดระเบียบสังคม ของมท.1 โดยปฏิบัติการในครั้งนี้ อาศัยช่วงวันหยุดยาว สแกนเป้าหมายเพื่อจัดระเบียบสถานบันเทิง ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร ให้ปลอดจากยาเสพติด
สายลับชุดปฏิบัติการพิเศษกรมการปกครองได้เข้าสืบสวนข้อเท็จจริง เพื่อรวบรวมพยานหลักฐานพิสูจน์ความผิดอีกครั้ง ในคืนวันที่ 9 ธ.ค. 2566 ต่อเนื่องคืนวันที่ 10 ธ.ค. 2566 เมื่อพบว่าสถานประกอบการ Sonic Club Bangkok มีการกระทำผิดจริง จึงได้แจ้งไปยังชุดจับกุม
เวลา 02.05 น. จึงเปิดปฏิบัติการจู่โจมจับกุมสถานบันเทิงละเมิดกฎหมายทันที เมื่อชุดจับกุมเข้าไปถึงภายในผับ มีผู้ที่คาดว่าเป็นเอเยนต์ยาเสพติดได้วิ่งกรูออกมาจากร้าน พยายามพุ่งชนเจ้าหน้าที่ จนเกิดการต่อสู้และจับกุมได้จำนวน 3 คน จากการค้นตัวพบยาเสพติดหลายชนิด คาดว่านำไว้จำหน่าย
นอกจากนี้ ภายในร้านมีนักเที่ยวจำนวนกว่า 200 คน เมื่อเห็นเจ้าหน้าที่ต่างแตกฮือ โยนยาเสพติดทิ้งลงพื้นเกลื่อน และพยายามหลบหนีออกทางประตูหน้าร้าน แต่ชุดจับกุมได้ปิดล้อมประตูไว้ทุกด้าน จึงทำให้นักเที่ยวไม่สามารถหนีออกไปได้ จากนั้นพนักงานฝ่ายปกครองได้ประกาศให้ทุกคนอยู่ในความสงบ
จากการเข้าตรวจสอบ Sonic Club Bangkok พบว่า เป็นสถานประกอบการที่เปิดทำการค้าให้ลักษณะสถานบริการ มีการค้าขายอาหาร เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ แสดงดนตรี และให้นักเที่ยวดื่มกิน เต้นรำ อย่างสนุกสนาน แต่ไม่พบว่ามีใบอนุญาตให้ตั้งสถานบริการแต่อย่างใด
นางสาวไตรศุลีกล่าวต่อว่า ที่สำคัญคือ สถานบริการแห่งนี้ปล่อยปละละเลยให้ใช้สารเสพติดภายในร้าน ตรวจสอบพบยาเสพติดตกกระจายเกลื่อนพื้นหลายชนิด ทั้งยาอี ยาเค ยาบ้า และยาแฮปปี้วอเตอร์ ซึ่งเป็นยาเสพติดชนิดใหม่ที่กำลังแพร่ระบาดในสถานบันเทิง
จากการบุกค้นพบนักเที่ยวจำนวน 214 คน เป็นผู้มีอายุต่ำกว่า 20 ปี จำนวน 1 คน พบนักเที่ยวไม่พกบัตรประจำตัวประชาชน จำนวน 7 คน จากการนำตัวนักเที่ยวทั้งหมดตรวจปัสสาวะเพื่อหาสารเสพติดในร่างกายในเบื้องต้น เจ้าพนักงานปปส.พบว่า มีนักเที่ยวปัสสาวะสีม่วง จำนวน 122 คน แยกเป็นชาย 76 คน หญิง 46 คน หากผู้เสพสมัครใจเข้ารับการบำบัดจะให้เข้าสู่กระบวนการบำบัดฟื้นฟู หากไม่ยอมเข้ารับการบำบัดจะดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
ด้านเจ้าของร้าน ผู้ดูแล และผู้ที่เกี่ยวข้อง พนักงานฝ่ายปกครองได้ทำการจับกุมตัวแล้ว ร้องทุกข์กล่าวโทษในฐานความผิด 1. เปิดสถานบริการโดยไม่ได้รับอนุญาต 2. ขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์แก่ผู้มีอายุต่ำกว่า 20 ปีบริบูรณ์ 3. ขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในเวลาห้ามขาย และ 4. มีการปล่อยปละละเลยให้มีการใช้สารเสพติดภายในบริเวณสถานประกอบการ ซึ่งเป็นเหตุผลประกอบการทำคำสั่งปิดสถานประกอบการเป็นเวลา 5 ปี
นางสาวไตรศุลียังได้กล่าวอีกว่า รัฐบาลโดยกระทรวงมหาดไทย มีนโยบายจัดระเบียบสังคม เพื่อให้ประชาชนได้อยู่ในสังคมที่ความสงบสุขปลอดภัย ด้วยการสุ่มตรวจสถานบริการ เพื่อให้ผู้ประกอบการสถานบริการดำเนินกิจการอยู่ภายใต้กรอบของกฎหมาย ให้สถานบริการเป็นสถานที่ปลอดภัยสำหรับผู้ใช้บริการ โดยเฉพาะอย่างยิ่งให้ปลอดจากยาเสพติด
ปฏิบัติการนี้ไม่ใช่ทำแค่ในกรุงเทพมหานคร แต่ทำในทุกจังหวัด โดยมีท่านผู้ว่าราชการจังหวัด ท่านนายอำเภอ เป็นผู้นำการบูรณาการทีมชุดปฏิบัติการพิเศษฝ่ายปกครองของจังหวัดและอำเภอ ตามที่ปรากฏผ่านสื่อสารมวลชนในแทบทุกวันอยู่แล้ว
กระทรวงมหาดไทยมีนโยบายที่ชัดเจนในการจัดระเบียบสังคม การปราบปรามผู้มีอิทธิพล การป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ การปราบปรามยาเสพติด การปราบปรามอาวุธปืนผิดกฎหมาย การปราบปรามบ่อนการพนัน และสถานบริการสถานบันเทิงผิดกฎหมาย
กระทรวงมหาดไทยจึงขอให้พี่น้องประชาชนเชื่อมั่นว่า จะดำเนินการในเรื่องนี้อย่างจริงจังต่อเนื่อง โดยมีจุดมุ่งหมายเพื่อให้สังคมเกิดความสงบสุข บ้านเมืองเป็นระเบียบเรียบร้อย ปลอดอบายมุข ปลอดยาเสพติด ประชาชนมีความมั่นคงปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน ท้ายที่สุดบ้านเมืองเราก็จะมีแต่ความผาสุก