หญิงมะกันถูกยิงก้น ได้รับบาดเจ็บ หลังพกปืนติดตัว ขณะกำลังสแกน MRI
หญิงมะกันถูกยิงก้น ได้รับบาดเจ็บ หลังพกปืนติดตัว ขณะกำลังสแกน MRI เจ้าหน้าที่คาดเป็นเพราะแม่เหล็ก แพทย์ยืนยันก่อนตรวจถามแล้วว่าพกอาวุธหรือไม่
เมื่อวันที่ 8 ธันวาคม เว็บไซต์ เดลี่เมลล์ รายงานเรื่องราวสุดแปลกที่เกิดขึ้นในประเทศสหรัฐอเมริกา หลังจากที่มีหญิงเอาปืนที่บรรจุกระสุนเข้าไปด้วย ขณะเข้าทำการสแกน MRI ก่อนที่ปืนจะลั่นใส่ก้นของเธอ ทำให้เธอได้รับบาดเจ็บ
โดยหญิงที่ไม่ประสงค์จะเปิดเผยนามวัย 57 ปี จากวิสคอนซิน ประเทศสหรัฐอเมริกา แอบเอาปืนเข้าไป ขณะที่เข้าสแกน MRI ก่อนที่จะเกิดเหตุดังกล่าวขึ้น โดยคาดว่าแม่เหล็กจากเครื่อง MRI นั้นน่าจะทำให้ปืนลั่น ทำให้เธอได้รับบาดเจ็บถูกยิงที่ก้น กระสุนเจาะเข้าไปที่ชั้นไขมัน เคราะห์ดีเธอไม่ได้รับบาดเจ็บสาหัส และหายดี โดยไม่มีอาการแทรกซ้อนแต่อย่างใด
แพทย์ที่เกี่ยวข้องได้เข้าให้การกับคณะกรรมการอาหารและยาของสหรัฐฯ (FDA) ซึ่งแพทย์ยืนยันว่าหญิงคนดังกล่าวได้ผ่านกระบวนการตรวจสอบ และแพทย์ได้ถามว่าเธอได้พกวัตถุอันตรายหรือไม่ ซึ่งเธอยืนกรานกับแพทย์ว่าเธอไม่มีของอันตรายติดตัว
ทั้งนี้ตามปกติแล้ว ผู้ที่เข้าสแกน MRI จะต้องถอดเสื้อผ้าและใส่ผ้าคลุม ซึ่งในรายงานไม่ได้ระบุว่าหญิงคนดังกล่าวได้ถอดเสื้อผ้าหรือไม่ และซ่อนอาวุธปืนของเธออย่างไร
สำหรับการตรวจ MRI คือ การตรวจร่างกายโดยใช้สนามแม่เหล็กความเข้มสูงและคลื่นวิทยุความถี่จำเพาะร่วมกับการคำนวณด้วยเครื่องคอมพิวเตอร์ ทำให้ได้ภาพอวัยวะ เนื้อเยื่อ กระดูกและภาพเสมือนของส่วนต่างๆ ภายในร่างกายโดยไม่ต้องใช้รังสี และถือเป็นการตรวจที่มีความแม่นยำและถูกต้องสูง
พยาบาลมะกันเกือบขิต ถูกเครื่อง MRI ดูด โดนอัดก็อปปี้อยู่ตรงกลาง ได้รับบาดเจ็บ