กระเช้าขึ้นภูกระดึง กำลังเป็นประเด็นร้อนถกเถียงในหมู่นักท่องเที่ยวสายลุยป่าธรรมชาติอย่างมาก หลังจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องนำความคิดการสร้างสิ่งอำนวยความสะดวกขึ้นยอดภูนี้กลับมาอีกครั้ง ความเห็นแตกเป็นสองฝ่าย ฝั่งหนึ่งเห็นด้วยให้สร้าง เพราะจะทำให้คนทุกวัยเดินทางสะดวก ขณะที่อีกฝั่งค้าน มองว่าจะเป็นการทำลายระบบนิเวศน์ธรรมชาติ สูญเสียเสน่ห์ของการเดินขึ้นภูด้วยเท้าเปล่า
เดินเท้าขึ้นภูกระดึง บทพิสูจน์ความมานะ ที่มีลูกหาบคอยช่วย
ภูกระดึง ตั้งอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติภูกระดึง จังหวัดเลย เป็นยอดเขาที่สูงที่สุดในภาคอีสาน สูงจากระดับน้ำทะเลประมาณ 1,316 เมตร ภูกระดึงเป็นอุทยานแห่งชาติลำดับที่ 3 ของประเทศไทย ได้รับการประกาศเป็นอุทยานแห่งชาติเมื่อวันที่ 2 ตุลาคม พ.ศ. 2503
ภูกระดึงเป็นสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่มีชื่อเสียงแห่งหนึ่งของประเทศไทย มีชื่อเสียงในเรื่องของความอุดมสมบูรณ์ของธรรมชาติ และความงดงามของทิวทัศน์ บนภูกระดึงมีพืชพรรณนานาชนิด แบ่งออกได้เป็น 4 ชนิด คือ ป่าดิบแล้ง ป่าเต็งรัง ป่าสนเขา และป่าเบญจพรรณ นอกจากนี้ยังมีสัตว์ป่านานาชนิด เช่น กวาง หมูป่า เก้ง ลิง ค่าง เป็นต้น
ไฮไลท์ของภูกระดึงอยู่ที่ทุ่งหญ้าบนยอดเขา ที่เรียกว่า “ทุ่งกวาง” ซึ่งในช่วงฤดูฝนจะมีดอกไม้นานาชนิดบานสะพรั่ง นักท่องเที่ยวสามารถเดินชมทุ่งดอกไม้และชมพระอาทิตย์ขึ้นและพระอาทิตย์ตกที่สวยงาม
อีกไฮไลท์หนึ่งที่ไม่ควรพลาดคือ “ผาหล่มสัก” ซึ่งเป็นจุดชมวิวที่มองเห็นทิวทัศน์ของภูกระดึงและทิวเขาสลับซับซ้อนได้สวยงาม ช่วงเวลาที่เหมาะสำหรับการชมพระอาทิตย์ตกที่ผาหล่มสักคือช่วงเย็นๆ ของฤดูหนาว
การที่นักท่องเที่ยวจะไปถึงยอดภูได้อย่างสะดวกราบรื่น ไม่ต้องแบกสัมภาระทั้งหมดหลังแอ่นคนเดียว จะเลือกใช้บริการ ลูกหาบภูกระดึง
ลูกหาบภูกระดึง ส่วนใหญ่เป็นคนในพื้นที่จังหวัดเลย รับจ้างขนสัมภาระให้กับนักท่องเที่ยวที่เดินทางขึ้นเขา มีอุปกรณ์ในการทำงานหลักคือ “ไม้หาบ” ซึ่งทำจากไม้ไผ่ ไม้หาบจะมีขนาดและน้ำหนักที่แตกต่างกันไปตามปริมาณและน้ำหนักของสัมภาระที่ลูกหาบจะขน สัมภาระที่ลูกหาบภูกระดึงมักขนให้กับนักท่องเที่ยวได้แก่ กระเป๋าเดินทาง เป้ เต็นท์ อุปกรณ์แคมป์ปิ้ง อาหาร น้ำดื่ม ฯลฯ
รายได้ลูกหาบภูกระดึง มากน้อยขึ้นอยู่กับจำนวนนักท่องเที่ยว
ลูกหาบภูกระดึงจะให้บริการขนสัมภาระตั้งแต่บริเวณศูนย์บริการนักท่องเที่ยววังกวาง ไปจนถึงบริเวณจุดพักแรมต่างๆ บนยอดภูกระดึง ระยะทางประมาณ 5 กิโลเมตร
ราคาค่าบริการขนสัมภาระของลูกหาบภูกระดึงจะแบ่งเป็น 2 ประเภท คือ
- ขนสัมภาระให้กับนักท่องเที่ยว คิดราคา 30 บาทต่อกิโลกรัม
- ขนสัมภาระให้กับร้านค้า คิดราคา 15 บาทต่อกิโลกรัม
ลูกหาบภูกระดึงเป็นอาชีพที่ต้องใช้ความแข็งแรง ความอดทน และทักษะในการเดินป่าเป็นอย่างดี ลูกหาบภูกระดึงถือเป็นบุคคลสำคัญที่ช่วยอำนวยความสะดวกให้กับนักท่องเที่ยว
อ้างอิงข้อมูลของ ThaiPBS ที่สัมภาษณ์ลูกหาบ เล่าว่าในช่วงก่อนโควิดระบาด นักท่องเที่ยวช่วงที่เยอะๆ มีรายได้มากถึงวันละ 1,600 ถึง 1,700 บาทต่อวัน รายได้รวมทั้งเดือนเฉลี่ยเกือบ 30,000 บาท
การก่อสร้างกระเช้าขึ้นยอดภูกระดึงอาจมีผลกระทบที่สำคัญต่อชีวิตและการทำงานของลูกหาบในพื้นที่ เนื่องจากการที่นักท่องเที่ยวสามารถเดินทางขึ้นยอดเขาได้สะดวกยิ่งขึ้น อาจทำให้ความต้องการใช้บริการลูกหาบลดลงอย่างมาก
สิ่งนี้ไม่เพียงแต่ส่งผลต่อรายได้ของลูกหาบที่มีโอกาสลดลงอย่างมากเท่านั้น แต่ยังส่งผลต่อวิถีชีวิตและวัฒนธรรมของชุมชนที่มีการทำงานเป็นลูกหาบเป็นอาชีพหลัก
การสูญเสียงานอาจทำให้หลายครอบครัวต้องเผชิญกับความท้าทายในการหาแหล่งรายได้ใหม่ และอาจส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจของชุมชนท้องถิ่น
ดังนั้น การตัดสินใจเกี่ยวกับการสร้างกระเช้านี้ควรมีการพิจารณาอย่างรอบคอบ พร้อมกับการสำรวจทางเลือกในการช่วยเหลือและสนับสนุนผู้ที่อาจได้รับผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงนี้ เพื่อรักษาความสมดุลระหว่างการพัฒนาทางท่องเที่ยวกับการอนุรักษ์วัฒนธรรมและชุมชนท้องถิ่น.