สั่งปิด คลินิกเผายาหน้าท้องเน็ตไอดอล 15 วัน พร้อมแจ้ง 2 ข้อหา
เซ่นพิษ เผายาหน้าทอง กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ กระทรวงสาธารณสุข สั่งปิด 15 วัน คลินิกแพทย์แผนจีน ย่านบางเขน หลังอุบัติเหตุไฟคลอกเน็ตไอดอล พร้อมแจ้งเอาผิด 2 ข้อหา
จากกรณี น้องหมวย เน็ตไอดอลสาวประสบเหตุถูกไฟเผาบริเวณหน้าท้อง หลังจากไปช่วยถ่ายโปรโมตให้กับ คลินิกชื่อดังแห่งหนึ่งย่านบางเขน ซึ่งระหว่างรักษาหมอเกิดพลาด ทำไฟลุมลามไปทั่วตัวคนไข้ โดยหลังเกิดเหตุ คู่กรณีไม่มีการเยี่ยวยาผู้บาดเจ็บจนเรื่องราวบานปลาย หลัง กัน จอมพลัง หรือ นายกัณฐัศว์ พงศ์ไพบูลย์เวชย์ พาผู้เสียหายออกมาเคลื่อนไหวให้ข้อมูลกับรายการโหนกระแสของหนุ่ม กรรชัย กำเนิดพลอย รวมถึงรายการเปิด “ปากกับภาคภูมิ” ทางช่องไทยรัฐ
ล่าสุด กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ กระทรวงสาธารณสุข ก็ได้มีคำสั่งปิดคลินิกแพทย์แผนจีน ย่านบางเขน หลังอุบัติเหตุไฟคลอกเน็ตไอดอล เป็นเวลา 15 วันเรียบร้อยแล้ว พร้อมกับตั้ง 2 ข้อหา ได้แก่ ไม่มีผู้ดำเนินการสถานพยาบาลและโฆษณาไม่ได้รับอนุญาต โดยวันนี้ (6 ธ.ค.66) นายแพทย์สุระ วิเศษศักดิ์ อธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ (สบส.) ออกมากล่าวถึงความคืบหน้าในส่วนของกระทรวงสาธารณสุขว่า หลังจากได้รับเรื่องร้องเรียนจาก “กัน จอมพลัง” ก็ได้มีการสั่งการให้พนักงานเจ้าหน้าที่กองกฎหมายและกองสถานพยาบาลและการประกอบโรคศิลปะ เข้าร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจสถานีตำรวจนครบาลบางเขน และสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) เข้าตรวจสอบข้อเท็จจริง
เบื้องต้น พบว่าคลินิกมีการขออนุญาตประกอบกิจการในลักษณะสหคลินิกอย่างถูกต้องตามกฎหมาย ให้บริการการแพทย์แผนไทย และแพทย์แผนจีน เช่น นวดประคบสมุนไพร ฝังเข็ม ครอบแก้ว กัวซา ในการลงพื้นที่เมื่อ 4 ธ.ค. ไม่พบแพทย์ผู้ดำเนินการสถานพยาบาล แต่พบแพทย์ผู้ให้บริการ และเจ้าหน้าที่ประจำคลินิก พนักงานเจ้าหน้าที่
ขณะเดียวกันยังได้มีการแจ้งข้อหาการกระทำผิดในเบื้องต้น ตามพ.ร.บ.สถานพยาบาล พ.ศ.2541 ต่อคลินิก คือ ประกอบกิจการสถานพยาบาลโดยมิได้จัดให้มีผู้ดำเนินการสถานพยาบาล ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือปรับไม่เกิน 40,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และอีกข้อหา คิอ การโฆษณาโดยมิได้ขออนุมัติ ข้อความ เสียง หรือภาพที่ใช้ในการโฆษณาหรือประกาศจากผู้อนุญาต ต้องระวางโทษปรับไม่เกิน 20,000 บาท และให้ปรับอีกวันละไม่เกิน 10,000 บาท นับแต่วันที่ฝ่าฝืนคำสั่งที่ให้ระงับการโฆษณาหรือประกาศ.
ส่วนเรื่องของมาตรฐานการให้บริการของแพทย์ทางกรม สบส.จะส่งเรื่องให้สภาวิชาชีพตรวจสอบความถูกต้อง พร้อมจะมีการเรียกตัวผู้ประกอบกิจการ และผู้ดำเนินการสถานพยาบาล มาให้ถ้อยคำเพิ่มเติมกับสบส.
ที่มา : กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ สบส. กระทรวงสาธารณสุข