เน็ตไอดอล ยื่นหนังสือถึง สธ. หลังคลินิกจุดไฟเผายาหน้าท้อง ถูกไฟคลอก
กัน จอมพลัง พา เน็ตไอดอล ยื่นหนังสือถึง หมอชลน่าน หลังคลินิกจุดไฟ เผายาหน้าท้อง สุดท้ายไฟคลอกเป็นแผล หมอหนีกระเจิง
นายกัณฐัศว์ พงศ์ไพบูลย์เวชย์ หรือ กัน จอมพลัง พาผู้เสียหาย น.ส.เอ (นามสมมุติ) เน็ตไอดอลมาร้องต่อกระทรวงสาธารณสุข และยื่นหนังสือถึง นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว รมว.สาธารณสุข ร้องทุกข์กรณีคลินิกเสริมความงามชื่อดังย่านรามอินทรา ที่เปิดให้บริการเผายาหน้าท้อง เพื่อลดอาการโรคระบบทางเดินอาหาร แต่เกิดความผิดพลาดขณะให้บริการ ทำให้ผู้เสียหายเกิดแผลไฟไหม้บริเวณหน้าท้องและแผ่นหลัง โดยมีนพ.รุ่งเรือง กิจผาติ หัวหน้าที่ปรึกษาระดับกระทรวง นายแพทย์ทรงคุณวุฒิ (ระดับ 11) ผู้อำนวยการศูนย์บริหารจัดการเรื่องราวร้องทุกข์ กระทรวงสาธารณสุข เป็นตัวแทบรับเรื่องและประสานต่อไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
กัน จอมพลัง กล่าวว่าตนได้ประสานไปยังท่านรมว.สธ. เพื่อขอความช่วยเหลือให้กับผู้เสียหายที่เข้ารับบริการในคลินิกแห่งหนึ่ง ซึ่งโฆษณาว่ารักษาด้วยการเผายาหน้าท้อง เพื่อทำให้ระบบไหลเวียนเลือดดีขึ้น แต่เมื่อผู้เสียหายเข้ารับบริการ ก็เกิดอุบัติเหตุขึ้นจากการที่แพทย์ได้ใช้แอลกอฮอล์ 95 % ฉีดลงบนผ้าที่ปิดช่วงหน้าท้องไว้เพื่อเผายา โดยผู้เสียหายแจ้งกับแพทย์ทันทีว่า ตนรู้สึกว่ามีแอลกอฮอล์ไหลลงไปที่บริเวณแผ่นหลัง แต่แพทย์ก็ไม่ได้ตรวจสอบอะไร จากนั้นจุดไฟลงบนผ้าที่หน้าท้อง ทำให้ไฟลุกท่วมตัวผู้เสียหาย
ในทางคดีนั้นผู้เสียหายได้แจ้งความไปทาง สน.บางเขน มา 1 ปีแล้ว เรื่องก็ยังอยู่ที่ สน. ตนจึงประสานไปยังรองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล เพื่อช่วยเหลือเรื่องนี้ด้วย โดยบ่ายวันนี้ตนจะพาผู้เสียหายไปรักษาแผลที่โรงพยาบาลศัลยกรรม ซึ่งโรงพยาบาลจะรักษาให้ฟรี
“ได้เห็นในคลิปแล้วน้องเขาร้องทุรนทุราย น่าสงสารมาก แทนที่คุณหมอจะช่วยดับไฟ แต่กลับวิ่งหนี ปล่อยให้น้องกับแฟนช่วยกันดับไฟเอง แล้วที่คลินิกก็ไม่มีอุปกรณ์ดับเพลิง หรืออุปกรณ์รองรับอะไรในกรณีนี้เลย ทำให้น้องกับแฟนบาดเจ็บสาหัส หลังจากเกิดเรื่องน้องก็ทำการรักษาแผลด้วยการจ่ายเงินเองมา 3 แสนกว่าบาท เพราะคุณหมอที่ทำหัตถการและคลินิกก็โยนกันไปกันมา ผู้เสียหายขอไกล่เกลี่ยหลายครั้ง เพื่อให้ทางคลินิกช่วยเยียวยาแต่ก็เงียบ นอกจากนั้นแล้วคุณหมอก็ไปต่างประเทศ ทางคลินิกก็เบลออยู่ วันนี้จึงมาขอความเมตตาจากทางกระทรวงฯ และขอให้มีการตรวจสอบว่าคลินิกนี้มีการรักษาอย่างถูกต้องหรือไม่ และมีอุปกรณ์การช่วยเหลือเหตุฉุกเฉินหรือไม่” กัน จอมพลัง กล่าว
ขณะที่ผู้เสียหายเล่าว่า สำหรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เริ่มจากตนเข้าไปใช้บริการในคลินิกดังกล่าวในการจัดกระดูก เมื่อวันที่ 10 ธ.ค.65 หลังจากนั้นพนักงานของทางคลินิกมาเสนอว่า อยากให้ตนช่วยโปรโมทคลินิกให้ จึงมอบบัตรกำนัลฟรีในบริการครอบแก้ว ฝังเข็มใบหน้า และการเผายาหน้าท้อง ซึ่งจะช่วยให้ระบบไหลเวียนเลือดดี ซึ่งตอนนั้นตนอยากครอบแก้วและฝังเข็มใบหน้า แต่ตอนนั้นไม่สะดวก จึงเลือกแค่การทำเผายาหน้าท้อง หวยก็เลยมาออกที่ตน
ตนคุยกับแพทย์ถึงขั้นตอนการเผายา เมื่อถึงขั้นตอนการทำ แพทย์นำแอลกอฮอล์ 95% ฉีดลงบนผ้าที่หน้าท้อง โดยตนแจ้งแพทย์ว่าแอลกอฮอล์ไหลมาที่หลังแล้ว แต่จากนั้นแพทย์จุดไฟแล้วก็เกิดเหตุไฟลุก แพทย์ได้วิ่งออกไป ทำให้ตนกับแฟนช่วยกันดับไฟเอง จากนั้นเมื่อไฟดับแล้วทางคลินิกบอกว่าจะรับผิดชอบให้ทุกอย่างกลับเป็นเหมือนเดิม ภายหลังตนไปรักษาแผลไฟไห้มที่รพ.อื่นโดยการจ่ายเงินค่ารักษาเอง แพทย์ระบุว่าเป็นแผลไฟไหม้ระดับ 3 แต่มีโอกาสเสียชีวิตได้ ในช่วง 2 เดือนแรกที่ตนรักษาอยู่ในรพ. ทางคลินิกเยียวยาเรื่องค่ารักษาให้ ส่วนตนก็ได้ใช้ประกันส่วนตัวด้วย ซึ่งแพทย์ผู้ที่ทำหัตถการให้ตนในครั้งแรกบอกว่าจะเป็นคนรับผิดชอบค่าใช้เองทั้งหมด หลังออกจากรพ. ที่ต้องมีการรักษาต่อเนื่องเป็นปีๆ นั้นก็ไม่ได้รับการดูแลเยียวยาใดๆ อีก ซึ่งตนได้รับผลกระทบทั้งร่างกาย สูญเสียรายได้และส่งผลกับจิตใจมากถึงขั้นเคยคิดว่าไม่อยากอยู่ต่อไปแล้ว
“อาชีพหมอเป็นอาชีพที่มีคุณค่าและมีเกียรติของสังคม แต่หนูไม่ได้จะมาทำลายอาชีพหมอ เพียงแต่อยากให้คุณหมอที่อยู่ในเหตุการณ์ ได้เห็นคุณค่าของเราในฐานะคนไข้ที่ไว้ใจให้เขาดูแล ตั้งแต่เกิดเรื่องคุณหมอก็ลาออกจากคลินิก และไปต่างประเทศแล้ว ทางคลินิกเองก็เอาการรักษาโดยการเผายาออกไปแล้วด้วย เขาคลีนตัวเอง แต่เขาไม่คลีนเรา ไม่ดูแลเรา” น.ส.เอ กล่าว
ตนขอพูดถึงเรื่องคดีอาญาที่เป็นหน้าที่ของตำรวจ ซึ่งเป็น สน.บางเขน ตลอด 1 ปีที่ผ่านมาตนให้ความร่วมมือทางคดีทุกอย่าง แต่ก็ไม่มีความคืบหน้า ถูกดองคดีไว้นานถึง 4 เดือน จึงขอให้มีการเปลี่ยนตำรวจที่ดำเนินการคดีของตน
นพ.รุ่งเรือง กล่าวว่า ทาง นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว รมว.สาธารณสุข กำชับให้ดูแลเรื่องนี้อย่างเต็มที่ ซึ่งท่านติดภารกิจ ครม.สัญจร โดยเรื่องนี้จะส่งทีมเจ้าหน้าที่ลงไปตรวจสอบคลินิกดังกล่าวภายในช่วงบ่ายวันนี้ ทั้งมาตรฐานการรักษา การจดทะเบียน การขออนุญาต รวมถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เบื้องต้นจากภาพเหตุการณ์ก็ส่อให้เห็นถึงความผิดหลายประการของวิชาชีพ ขณะเดียวกันกระทรวงสาธารณสุขจะประสานไปยังแพทยสภา เพราะกำกับดูแลแพทย์ทั้งประเทศว่า การดำเนินการดังกล่าวเข้าข่ายผิดอะไรอย่างไรบ้าง และในเรื่องคลินิกนั้น ทางกรมสนับสนุนบริการสุขภาพจะตรวจสอบเรื่องนี้ต่อไป