หลังจากในวันที่ 2 ธันวาคม 2566 ที่ผ่านมา สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) ได้ประกาศรายชื่อแต่งตั้งโยกย้ายตำรวจในตำแหน่งต่าง ๆ ซึ่งมีรายชื่อ พ.ต.อ.พัดธงทิว ดามาพงศ์ หลานชายของ คุณหญิงพจมาน ดามาพงศ์ และ พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ ดามาพงศ์ อดีต ผบ.ตร. ที่ได้รับโยกย้ายจากตำแหน่ง ผู้กำกับการ ฝ่ายอำนวยการ 2 กองบังคับการอำนวยการ สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (ส่วนกลาง) มาประจำตำแหน่งเป็น ผู้กำกับด่านตรวจคนเข้าเมือง ท่าอากาศยานภูเก็ต วันนี้ Thaiger จะพาทุกคนไปทำความรู้จักกับผู้กำกับหนุ่มสุดหล่อคนนี้กัน
ประวัติ พ.ต.อ.พัดธงทิว ดามาพงศ์ หลานคุณหญิงพจมาน
พ.ต.อ.พัดธงทิว ดามาพงศ์ ชื่อเล่น ปืน เป็นบุตรชายของ นายพงษ์เพชร ดามาพงศ์ พี่ชายของคุณหญิงพจมาน ดามาพงศ์ เกิดและใช้ชีวิตวัยเด็กที่ลอสแองเจลิส สหรัฐอเมริกา สำหรับชื่อ พัดธงทิว ที่แปลว่า ธงที่กำลังพัดทิวปลิวไสว นั้น คุณย่าพจนีย์เป็นคนตั้งให้เพื่อให้คล้องจองกับ พานทองแท้, พินทองทา, แพทองธาร แม้แต่น้องสาวของผู้กำกับปืน คุณย่าพจนีย์ก็ตั้งชื่อให้ว่า พริ้งเพ็ญพักตร์ เพื่อให้ชื่อจริงของทั้งครอบครัวขึ้นต้นด้วย พ. พาน นั่นเอง
เมื่ออายุได้ 10 ขวบ ผู้กำกับปืนได้ย้ายมาศึกษาต่อระดับมัธยมศึกษาในประเทศไทย ที่โรงเรียนกรุงเทพคริสเตียน จนกระทั่งจบการศึกษาระดับปริญญาตรี คณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ จากนั้นจึงเดินทางไปเรียนต่อระดับปริญญาโท ด้านนโยบายสาธารณะและการจัดการ (รัฐประศาสนศาสตร์) มหาวิทยาลัยเซาธ์เทิร์นแคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกา
ด้านชีวิตส่วนตัวของผู้กำกับปืน ปัจจุบันมีคู่สมรส และมีลูกด้วยกันถึง 4 คน เป็นลูกชาย 3 คน และลูกสาวอีก 1 คน
เส้นทางนายตำรวจของ พ.ต.อ.พัดธงทิว ดามาพงศ์
หลังเรียนจบปริญญาโท ผู้กำกับปืน จึงได้สอบเข้ารับราชการตำรวจ โดยตำแหน่งแรกได้บรรจุในหน่วยงานตำรวจปราบปรามยาเสพติด ต่อมาได้โยกย้ายสังกัดตำรวจท่องเที่ยว ในตำแหน่ง รองสารวัตรงานสืบสวน กก.4 บก.ทท.จ.เชียงใหม่ ณ ที่แห่งนี้เอง ที่ทำให้ชื่อของ พ.ต.อ. พัดธงทิว เริ่มเป็นที่พูดถึงจากการที่ได้ Cover Dance เพลง Sorry Sorry ของวง Super Junior บอยแบนด์เกาหลีที่โด่งดังในขณะนั้น
สำหรับวิดีโอดังกล่าว เป็นการแนะนำตำรวจท่องเที่ยวเชียงใหม่ ประกอบกับการเต้น Cover หลังจากถูกเผยแพร่ลง Youtube ก็เกิดกระแสไวรัลโด่งดังขึ้นมา ด้วยเนื้อหา ท่าเต้น และความหล่อใสของผู้กำกับปืน ทำให้ถูกใจชาวเน็ตทั่วบ้านทั่วเมือง จนได้รับฉายาว่า “ผู้กำกับ Sorry”
ด้านประสบการณ์การทำงาน เรียกได้ว่าคร่ำหวอดในวงการสีกากีอย่างยาวนาน มีผลงานจับกุมสำคัญมากมาย ทั้งสมัยเป็นสารวัตรสายงานตรวจ 191 สารวัตรตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดสมุทรสาคร ก่อนจะย้ายมาเป็นสารวัตรตรวจคนเข้าเมือง ที่สำคัญเคยเป็นนายตำรวจติดตามของ พล.ต.ท.ธนิตศักดิ์ ธีระสวัสดิ์ ผู้ช่วย ผบ.ตร. ในขณะนั้นด้วย
อีกทั้งเคยฝึกภารกิจอบรมตำรวจสากลที่สำนักงานสอบสวนกลางแห่งสหรัฐอเมริกา (FBI) เป็นเวลา 20 วัน ทำให้เกิดแรงบันดาลใจที่อยากขึ้นเป็น ผบ.ตร. ตามรอย พล.ต.อ.วิเชียร พจน์โพธิ์ศรี ที่ดำรงตำแหน่ง ผบ.ตร. ในขณะนั้น อีกทั้งยังเคยตัดสินใจจะลงเล่นการเมืองตามรอย พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อาเขยของตน แต่สุดท้ายก็ปักหลักทำอาชีพตำรวจต่อไป
นอกจากการเป็นตำรวจแล้ว ผู้กำกับปืนยังพัฒนาตนเองอยู่เสมอ โดยเฉพาะด้านภาษาที่สามารถสื่อสารได้ถึง 3 ภาษา ได้แก่ ไทย อังกฤษ และจีน รวมถึงเคยคลุกคลีด้านกีฬา ด้วยการเป็นผู้จัดการทีมฟุตวอลเลย์ทีมชาติไทย อีกด้วย
