บก.ลายจุด โพสต์เล่าเรื่อง ดร.เค็ง ตอนที่ 2 หลังช่วงเช้าไปออกกรรมกรข่าวกับสรยุทธ
บก.ลายจุด โพสต์เฟซบุ๊ก เผยต่อเคส ดร.เค็ง นักเรียนทุนปริญญาเอกที่มีประด็นอาการป่วยจิตเวช ขอมหาลัยกเว้นเรื่องชดใช้ทุน แต่ผู้บริหารให้ลาออกแถมฟ้องเรียกค่าเสียหาย 10 ล้าน
หลังจากที่วันนี้ไปออกรายการกรรมกรข่าวคุยนอกจอกับสรยุทธ สุทัศนะจินดา โดยเป็นคนพา “ดร.เค็ง” นักเรียนทุนปริญญาเอกที่กำลังเป็นข่าว ไปเล่าถึงที่มาที่ไปประเด็นถูกหมาวิทยาลัยฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายนับ 10 ล้านบาท ล่าสุด สมบัติ บุญงามอนงค์ หรือ “บก.ลายจุด” นักเคลื่อนไหวทางการเมือง ในฐานะเป็นหนึ่งในผู้นำเรื่องราวของดร.เค็ง มาเปิดเผยต่อสาธรณะเพื่อเรียกร้องความเป็นธรรมให้กับอดีตอาจารย์มหาวิทยาลัยที่มีเหตุจำเป็นจากอาการป่วยจิตเวชจนไม่สามารถทำการสอนเพื่อชดใช้ทุนปริญญาเอกได้ แต่ต่อมาปรากฏเธอต้องขึ้นโรงขึ้นศาล อันเนื่องมาจากถูกมหาวิยาลัยฟ้อง โดยมองว่า
เนื้อหาที่ บก.ลายจุด ออกมาเปิดเผยนั้นเป็น ตอนที่ 2 หลังจากก่อนหน้า ออกมาเล่าที่มาที่ไปของเรื่องที่ป่วยตอนไปเรียนทุนอังกฤษ ก่อนอาการสงบกลับมาสอนที่มหาลัยในไทยต่อมาเกิดเรื่องขึ้น
กรณี ดร เค็ง #2 (เพิ่มเติม) รูปภาพและเรื่องราวที่ผมนำมาเสนอก่อนหน้านี้ทั้งหมดได้รับความเห็นชอบจาก ดร.เค็ง โดยผมเป็นผู้เขียน เรียบเเรียงโดยลำพัง และผมเห็นว่าไม่จำเป็นต้องเบลอภาพ ในมุมมองของผมยิ่งทำให้ลดทอนเจ้าตัว
เค็งมีอาการเครียดจากการปรับตัวเข้าสู่สังคมในอังกฤษโดยเริ่มพบจิตแพทย์ตั้งแต่ปี 51 อยุ่หลายครั้ง และอาการหนักยิ่งขึ้นอย่างเห็นได้ชัดในช่วง พค 53 เนื่องจากมีสถานการณ์ทางการเมืองในไทย พีสาวคนโตของเธออยู่ในเหตุการณ์เสื้อแดงวัดปทุมและนี่ทำให้เธอเป็นห่วงพี่สาวและติดตามการเมืองไทยอย่างเข้มข้น ไม่กี่เดือนต่อมาเธอเดินทางกลับมาเยี่ยมพี่สาวที่เมืองไทย และเมื่อกลับไปเรียนต่อที่อังกฤษสุขภาพจิตของเธอก็เข้าสู่วิกฤติในปี 54 เธอมีอาการหูแว่วและจิตเวชเต็มรูปแบบ จนต้องมี จนท บุกเข้าไปที่ห้องพักเพื่อนำตัวเธอไปรักษาตัวในโรงพยาบาลจิตเวชเกือบเดือน่(มีเอกสารเป็นภาษาอังกฤษรับรองอาการป่วยจาก รพ.จิตเวช) จนสามารถรักษาและกลับมาเรียนหนังสือจนจบ ป.เอก ในที่สุด
หลังสำเร็จการศึกษาเค็งได้กลับมาทำงานเป็น อ.คณะเศรษฐศาสตร์ ม.แม่ฟ้าหลวง ต่อมาอาการเริ่มกำเริบอีกครั้ง เธอเริ่มเขียน email ถึงผู้บริหารมหาวิทยาลัย วิพากษ์วิจารณ์การบริหารงาน และวิพากษ์วิจารณ์การเมืองเนื่องจากอาการหูแว่ว จดหมายถูกเขียนและส่งออกไปนับร้อยฉบับ จนวันหนึ่งเธอวิตกกังวลว่าตนเองจะเป็นอันตรายและอาจเป็นภัยต่อคนอื่นเธอจึงแจ้งต่อผุ้บริหารว่าจะขอลาออก แต่ช่วยตรวจสอบเงื่อนไขการลาออกด้วยว่าจะสามารถยกเว้นการใช้ทุนได้หรือไม่ ซึ่งการเขียนใบลาออกไม่ได้เกี่ยวข้องกับผู้บริหารของมหาวิทยาลัยอย่างที่ผมเข้าใจในทีแรกแต่ประการใด ผมขอกราบอภัยในความผิดพลาดด้านข้อเท็จจริงนี้
ต่อมาทางมหาวิทยาลัยได้ขอให้เค็งเซ็นใบลาออก แต่เค็งไม่ได้เซ็นเนื่องจากยังไม่ทราบเงื่อนไขเรื่องการชดใช้ทุน แต่สุดท้ายมหาวิทยาลัยก็ได้ทำหนังสือแจ้งสิ้นสภาพการทำงาน ต่อจากนั้นเค็งก็อยู่ในสภาพป่วยจิตเวชเต็มตัวใช้ชีวิตลำพังที่เชียงราย(เธอไม่มีญาติที่นี่)
หลังจากเรื่องราวของเค็งปรากฎขึ้นในสื่อต่างๆตลอดทั้งวันนี้ ช่อง3 ได้มาสัมภาษณ์และมีสื่ออีกหลายแห่งติดต่อไปออกรายการ กรรมมาธิการ อว ก็เสนอให้เค็งและผู้บริหาร ม.แม่ฟ้าหลวงเข้าชี้แจงที่สภาในวันที่ 14 ธค นี้
ผมได้คุย Twitter กับ คุณสุวิทย์ สรรวิทศิริ ผช.ผอ.สถาบันวิจัยนโยบายเศรษฐกิจการคลัง ซึ่งเป็นหัวหน้างานของเค็งในปัจจุบัน หมายความว่าที่ทำงานใหม่ของเค็งรับทราบเรื่องนี้แล้ว
ปัญหาจะอยู่ตรงที่ผลกระทบจากเรื่องราวในอดีตของเค็งที่สื่อและสังคมให้ความสำคัญจะกระทบต่อการทำงานแห่งใหม่ ผมภาวนาว่าขอให้ทุกอย่างผ่านพ้นไปด้วยดีโดยที่เธอยังรักษางานใหม่ไว้ได้และยังมีเวลาในการต่อสู้กับปมชีวิตที่ผ่านมาในช่วงเวลานี้
ขอบคุณมิตรสหายหลายท่านที่หลังไมค์มาเสนอความช่วยเหลือหลากหลายรูปแบบ โดยเฉพาะคุณสุวิทย์ สรรวิทศิริหัวหน้างานของเค็งที่เมตตารับเธอเข้าทำงานและเข้าใจข้อจำกัดของเธอ และขออภัยต่อความเข้าใจผิดเรื่องการลาออกในกรณีผู้บริหารมหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง ผมยินดีรับผิดชอบต่อสิ่งที่ผิดพลาดไปในทุกรูปแบบ และขอเรียกร้องให้ผู้บริหาร ม.แม่ฟ้าหลวงคนใหม่ และกระทรวงวิทยาศาสตร์ฯ ได้กรุณาเปิดพืิ้นที่การพูดคุยและร่วมกันหาทางออก.