ธ.ก.ส. เตรียมโอนเงินช่วยเหลือชาวนาไร่ละ 1,000 บาท โอนช่วยเหลือแล้ว 3.8 ล้านครัวเรือน ตกหล่นอีก 8 แสนครัวเรือน เช็กวิธีตรวจสอบสิทธิ และวิธีตรวจสอบผลโอนเงิน
วันอาทิตย์ที่ 3 ธันวาคม 2566 ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ได้โอนเงินช่วยเหลือเกษตรกรผู้ปลูกข้าวไร่ละ 1,000 บาท แล้ว โดยมีเกษตรกรที่ได้รับประโยชน์ทั้งหมด 4.68 ล้านครัวเรือน วงเงิน 54,336 ล้านบาท ครัวเรือนละไม่เกิน 20 ไร่ หรือ 20,000 บาท แต่ยังมีบางส่วนที่ยังไม่ได้รับเงิน ซึ่งขณะนี้กำลังเตรียมโอนเงินเข้าบัญชีเกษตรกรกลุ่มตกหล่นที่มีสิทธิ
โอนเงินช่วยเหลือชาวนาแล้ว 3.8 ล้านครัวเรือน
นายกษาปณ์ เงินรวง รองผู้จัดการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) เปิดเผยว่า กรณีที่เกษตรกรไปกดเงินตามโครงการสนับสนุนค่าบริหารจัดการและพัฒนาคุณภาพผลผลิตเกษตรกรผู้ปลูกข้าว ปีการผลิต 2566/67 หรือเงินช่วยเหลือเกษตรกรผู้ปลูกข้าวไร่ละ 1,000 บาท แต่ยังไม่มีเงินโอนเข้าบัญชีตามที่ได้รับแจ้งไว้
ธ.ก.ส. ตรวจสอบแล้วพบว่า ในพื้นที่ดังกล่าว มีแผนการจ่ายเงินในวันที่ 2 ธันวาคม 2566 แต่เกษตรกรไปกดเงินในวันที่ 1 ธันวาคม 2566 จึงไม่สามารถกดเงินได้ เนื่องจากการโอนเงินในรอบที่ 1 เริ่มตั้งแต่วันที่ 28 พฤศจิกายนถึง 2 ธันวาคม 2566 โดยวันแรกของการโอนเงินช่วยเหลือชาวนา ธ.ก.ส.ได้ประกาศโอนเงินไปยังจุดต่าง ๆ ทั่วประเทศทั้ง 77 จังหวัด ประกอบด้วยจังหวัดในเขตภาคกลาง ภาคตะวันออก ภาคตะวันตก และภาคใต้ทุกสาขา
สำหรับภาคอื่น ๆ โอนเฉพาะสาขาอำเภอเมืองหรือสาขาที่ร่วมกิจกรรมเปิดตัวโครงการช่วยเหลือเกษตรกร และได้ทยอยโอนเงินไปยังภาคต่าง ๆ ครบทุกภาค ตามรายชื่อเกษตรกรที่ ธ.ก.ส. ได้รับจากกรมส่งเสริมการเกษตร กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ 5 วันติดต่อกัน จำนวนยอดโอนทั้งสิ้น 3,817,901 ครัวเรือน จำนวนเงิน 44,433 ล้านบาท
การโอนเงินช่วยเหลือเกษตรกรสำเร็จ 3,817,640 ครัวเรือน จำนวนเงิน 44,430 ล้านบาท แต่มีรายชื่อที่โอนเงินไม่สำเร็จ 261 ครัวเรือน จำนวนเงินประมาณ 3 ล้านบาท สาเหตุที่โอนเงินไม่สำเร็จเนื่องจากบัญชีที่เกษตรกรแจ้งไว้ถูกปิดไปแล้ว บางบัญชีถูกอายัดและบางบัญชีไม่มีความเคลื่อนไหวมานาน จึงถูกยกเลิกไปแล้ว
เตรียมโอนให้กลุ่มตกหล่นอีก 8 แสนครัวเรือน
รองผู้จัดการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตรเปิดเผยด้วยว่า ขณะนี้ยังมีเกษตรกรอีกกว่า 8 แสนครัวเรือน ที่อยู่ในกระบวนการเตรียมโอนเงิน
สาเหตุเกิดจากธนาคารรอรับข้อมูลการลงทะเบียนของเกษตรกรผู้ปลูกข้าวจากกรมส่งเสริมการเกษตรเพิ่มเติม และในการตรวจสอบบางกรณีพบว่า ชื่อที่ขึ้นทะเบียนไม่ตรงกับชื่อบัญชี หรือบัญชีเงินฝากที่แจ้งไว้ไม่มีความเคลื่อนไหว บัญชีถูกปิดหรือถูกอายัด รวมถึงสถานะผู้ได้รับสิทธิ เมื่อตรวจสอบพบว่าเสียชีวิต ต้องปรับเปลี่ยนผู้รับประโยชน์แทน
อย่างไรก็ตาม เกษตรกรที่ได้ขึ้นทะเบียนกับกรมส่งเสริมการเกษตรแล้ว ทางธ.ก.ส. จะเร่งดำเนินการตรวจสอบข้อมูล และโอนเงินให้เกษตรกร โดยจะโอนเงินภายหลังจากที่ได้รับข้อมูลทะเบียนรายชื่อเกษตรกรผู้ปลูกข้าวภายใน 3 วันทำการ ตั้งแต่บัดนี้จนถึงเดือนกันยายน 2567
เช็กสิทธิก่อนกดเงิน และวิธีตรวจสอบผลโอนเงิน
นายกษาปณ์เสนอว่า เกษตรกรที่ขึ้นทะเบียนแล้ว ควรตรวจสอบข้อมูลในการรับสิทธิ เพื่อสร้างความมั่นใจในการรับเงินตามสิทธิ โดยสามารถตรวจสอบช้อมูลผ่านเว็บไซต์ chongkho.inbaac.com โดยมีวิธีตรวจสอบเงินช่วยเหลือชาวนา ไร่ละ 1,000 บาท ดังนี้
1. คลิกไปที่เว็บไซต์ chongkho.inbaac.com
2. กรอกเลขบัตรประจำตัวประชาชนจำนวน 13 หลัก จากนั้นคลิกปุ่ม ค้นหา
จากนั้นหน้าเว็บไซต์จะแสดงรายละเอียดจำนวนเงิน และโครงการช่วยเหลือที่ได้รับ นอกจากนี้สามารถตรวจสอบผลการโอนเงินได้ทางแอปพลิเคชัน BAAC Mobile ตลอด 24 ชั่วโมง โดยจะมีข้อความแจ้งเตือนเงินเข้าบัญชีผ่านบริการ BAAC Connect ทาง Line ชื่อบัญชี BAAC Family
พร้อมกันนี้ เกษตรกรที่มีสิทธิรับเงินช่วยเหลือชาวนา สามารถตรวจสอบสถานะเกษตรกรจากการขึ้นทะเบียนกรมส่งเสริมการเกษตร ปี 2566 ได้ที่เว็บไซต์ efarmer.doae.go.th
สำหรับเกษตรกรที่มีหนี้ค้างชำระและประสงค์ที่จะนำเงินมาชำระหนี้ สามารถทำได้โดยสมัครใจ ธ.ก.ส. ไม่มีนโยบายบังคับแต่อย่างใด และหากมีสงสัยหรือต้องการสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม สามารถติดต่อได้ที่ ธ.ก.ส. ทุกสาขา หรือ Call Center 02 555 0555