พยากรณ์อากาศวันนี้ 30 พ.ย. 66 ฝนตกบางแห่ง ชาวเกษตรเตรียมป้องกันผลผลิต
กรมอุตุนิยมวิทยา รายงานสภาพอากาศประจำวันพฤหัสบดีที่ 30 พฤศจิกายน 2566 ในพื้นที่ภาคเหนือตอนล่าง ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ภาคกลาง และภาคตะวันออก มีลมฝ่ายตะวันออกพัดนำความชื้นเข้าปกคลุมบริเวณทำให้อาจเกิดฝนตกในบางพื้นที่ และในพื้นที่ภาคใต้ยังคงมีฝนตกหนักอย่างต่อเนื่อง
ตามรายงานสภาพพยากรณ์อากาศวันนี้วันพฤหัสบดีที่ 30 พฤศจิกายน 2566 ได้ระบุพยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า ตั้งแต่ 06:00 น. ของวันนี้ (30 พ.ย. 66) ถึง 06:00 ในวันพรุ่งนี้ 1 ธันวาคม 66 บริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นกำลังปานกลางที่ปกคลุมพื้นที่ประเทศไทยตอนบนและทะเลจีนตอนใต้มีกำลังอ่อนลง ลักษณะนี้จึงทำให้ประเทศไทยตอนบนมีหมอกในตอนเช้า และมีอุณหภูมิสูงขึ้น 1-3 องศาเซลเซียส แต่ยังมีอากาศเย็นในตอนเช้าบริเวณภาคเหนือ และ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
ในขณะที่ลมฝ่ายตะวันออกพัดนำความชื้นเข้าปกคลุมบริเวณภาคเหนือตอนล่าง ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ภาคกลาง และภาคตะวันออก จึงทำให้พื้นที่บริเวณดังกล่าวอาจเกิดฝนตก จึงขอให้ประชาชนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ดังกล่าวดูแลรักษาสุขภาพตนเองเนื่องจากมีสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลง รวมถึงระมัดระวังการสัญจรผ่านบริเวณที่มีหมอกด้วย สำหรับชาวเกษตรกรควรเตรียมการป้องกันและระมัดระวังความเสียหายที่จะเกิดต่อผลผลิตทางเกษตรในระยะนี้
ภาคเหนือ
อากาศเย็นกับมีหมอกในตอนเช้า อุณหภูมิจะสูงขึ้น 1-2 องศาเซลเซียส มีฝนเล็กน้อยบางแห่ง อุณหภูมิต่ำสุด 16-22 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-33 องศาเซลเซียส
บริเวณยอดดอยอากาศหนาวถึงหนาวจัด อุณหภูมิต่ำสุด 7-15 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 10-20 กม./ชม.
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
อากาศเย็นกับมีหมอกในตอนเช้า อุณหภูมิจะสูงขึ้น 1-3 องศาเซลเซียส มีฝนเล็กน้อยบางแห่งทางตอนล่างของภาค อุณหภูมิต่ำสุด 19-22 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31-33 องศาเซลเซียส
บริเวณยอดภูอากาศหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 12-14 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 10-25 กม./ชม.
ภาคกลาง
มีหมอกในตอนเช้า อุณหภูมิจะสูงขึ้น 1-3 องศาเซลเซียส มีฝน ร้อยละ 10 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดพระนครศรีอยุธยา สมุทรสาคร สมุทรสงคราม กาญจนบุรี และราชบุรี อุณหภูมิต่ำสุด 23-24 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31-33 องศาเซลเซียส
ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 10-25 กม./ชม.
ภาคตะวันออก
มีหมอกในตอนเช้า อุณหภูมิจะสูงขึ้น 1-3 องศาเซลเซียส มีฝน ร้อยละ 10 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดสระแก้ว ชลบุรี ระยอง จันทบุรี และตราด อุณหภูมิต่ำสุด 23-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-33 องศาเซลเซียส
ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร
ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก)
มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 70 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง บริเวณจังหวัดสุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช พัทลุง สงขลา ปัตตานี ยะลา และนราธิวาส อุณหภูมิต่ำสุด 23-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 28-32 องศาเซลเซียส
ตั้งแต่จังหวัดสุราษฎร์ธานีขึ้นมา : ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร
ตั้งแต่จังหวัดนครศรีธรรมราชลงไป : ลมตะวันออก ความเร็ว 20-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร
ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก)
มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 60 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดภูเก็ต กระบี่ ตรัง และสตูล อุณหภูมิต่ำสุด 23-24 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-32 องศาเซลเซียส
ลมตะวันออก ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร
กรุงเทพและปริมณฑล
มีหมอกในตอนเช้า อุณหภูมิจะสูงขึ้น 1-3 องศาเซลเซียส โดยมีฝนเล็กน้อยบางแห่ง อุณหภูมิต่ำสุด 24-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-33 องศาเซลเซียส
ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 10-20 กม./ชม.
มรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้มีกำลังปานกลาง มีหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมด้านตะวันออกของประเทศมาเลเซีย ทำให้ภาคใต้ตอนล่างมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง ส่วนคลื่นลมบริเวณอ่าวไทยตอนล่างมีกำลังปานกลาง
ทะเลอันดามันมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ประชาชนในบริเวณภาคใต้ตอนล่างระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม ส่วนชาวเรือควรเดินเรือด้วยความระมัดระวังและหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
อ้างอิง : กรมอุตุนิยมวิทยา