เปิด 10 รายชื่อประเทศที่ภาษีถูกที่สุดในโลก พร้อมเรทอัตราการเก็บภาษีเงินได้ หลายประเทศไม่ต้องเสียภาษีเลยแม้แต่เหรียญเดียว
การเก็บภาษีจากประชาชนถือว่าเป็นหนึ่งช่องทางการหารายได้ของรัฐบาลทุกประเทศทั่วโลก เพื่อนำเงินเหล่านี้มาบริหารและพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชนและประเทศให้มีความเจริญ สะดวกสะบายในการใช้ชีวิต หลายคนอาจเคยได้ยินบรรดาประเทศที่ประชาชนต้องจ่ายภาษีมหาศาล อาทิ สวีเดน ญี่ปุ่น เนเธอร์แลนด์ เป็นต้น แต่ประเทศที่กล่าวมานั้น คุณภาพชีวิตของประชากรค่อนข้างยอดเยี่ยมสมกับที่จ่ายภาษีไป
แล้วเราลองคิดกันเล่น ๆ ว่าถ้าประเทศไหนที่ไม่เก็บภาษีหรือเก็บภาษีน้อยล่ะ จะเอาเงินจากไหนมาบริหารประเทศ แน่นอนว่าก็ต้องหารายได้เข้าประเทศด้วยวิธีการอื่น เช่น การท่องเที่ยว ส่งออกน้ำมัน เป็นต้น เพื่อนำเงินส่วนนี้มาชดเชยกับวันนี้เราจะพาทุกคนมาดูอีกมุมหนึ่งกับ 10 อันดับประเทศที่ภาษีที่ถูกที่สุดในโลก จะมีประเทศอะไรบ้าง เตรียมไปสำรวจพร้อมกันได้เลย
1. สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (UAE)
อัตราการเก็บภาษีเงินได้ : 0%
สหรัฐอาหรับเอมิเรสต์ เป็นประเทศเอเชียแถบตะวันตกเฉียงใต้ที่อุดมไปได้น้ำมันเป็นจำนวนมาก ซึ่งการค้าน้ำมันถือว่าเป็นรายได้หลักของประเทศ จึงไม่ได้มีการเก็บภาษีจากประชากรในประเทศแต่อย่างใด อีกทั้งยูเออียังเป็นเมืองที่ใคร ๆ ก็สนใจที่จะย้ายถิ่นฐานมาอยู่ หรือมาหางาน ณ ที่แห่งนี้ ด้วยการมีรัฐบาลที่ทำหน้าที่อย่างมีเสถียรภาพ ระบบการศึกษาที่เพียบพร้อม และเศรษฐกิจที่มั่งคั่ง
ในแง่ความเป็นอยู่ ยูเออีถือได้ว่าเป็นอีกหนึ่งประเทศที่มีความหลากหลายด้านวัฒนธรรมสูงมาก ทำให้มีร้านอาหารและสถานบันเทิงหลากแนวให้ทุกคนได้เลือกรับประทานและใช้บริการ ควบคู่ไปกับการสื่อสารด้วยภาษาอังกฤษ สำหรับใครที่สนใจอยากย้ายมาเป็นประชากรยูเออีย่อมสามารถทำได้ แต่ต้องปฏิบัติตามกฎที่ค่อนข้างเข้มงวด ดังนี้
– หากผู้พักอาศัยไม่ใช่ชาวมุสลิม จำเป็นต้องได้รับใบอนุญาตจำหน่ายสุราเพื่อสามารถนำเครื่องดื่มแอลกอฮอล์กลับไปดื่มที่บ้านหรือในสถานที่ที่ได้รับอนุญาตเท่านั้น
– ผู้หญิงต้องแต่งกายให้เรียบร้อยในที่สาธารณะ รวมถึงไม่อนุญาตให้สวมใส่ชุดชั้นในที่สามารถมองเห็นได้ และควรใส่ชุดว่ายน้ำที่ชายหาดหรือสระว่ายน้ำเท่านั้น
– การแต่งตัวข้ามเพศสภาพในยูเออี ถือว่าเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมาย
– การมีเพศสัมพันธ์กับคนที่ไม่ใช่คู่สมรส ถือว่าผิดกฎหมาย ซึ่งรวมถึงการนอนห้องพักเดียวกันกับเพศตรงข้ามที่ไม่ได้มีความเกี่ยวข้องทางสายเลือดหรือคู่สมรสอีกด้วย
– การมีเพศสัมพันธ์แบบรักร่วมเพศ เป็นสิ่งที่ผิดกฎหมาย และการแต่งงานกับเพศเดียวกัน ยังไม่ถูกยอมรับในยูเออี
– ยูเออีเป็นสังคมที่ค่อนข้างเคารพความเป็นส่วนตัวของทุกคน
2. เวสเทิร์นซาฮารา (Western Sahara)
อัตราการเก็บภาษีเงินได้ : 0%
หลายคนอาจจะไม่รู้จักเวสเทิร์นซาฮารามาก่อน ซึ่งที่แห่งนี้คือดินแดนที่มีข้อพิพาท และให้ถือว่าเป็นส่วนหนึ่งของประเทศโมร็อกโก ตั้งอยู่ทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือของทวีปแอฟริกา มีดินแดนติดกับโมร็อกโกและแอลจีเรีย แต่ภูมิภาคนี้ต้องตกอยู่ภายใต้สงครามและถูกยึดครองนานกว่า 40 ปี
ทำให้ชาวซาห์ราวีต้องถูกกักกันในค่ายผู้ลี้ภัยในขณะช่วงสงคราม อีกทั้งโมร็อกโกยังได้ปิดพื้นที่ที่ถูกยึดครองนี้ด้วยกำแพงทรายที่ทอดยาวกว่า 2,700 กิโลเมตร ขนาบข้างด้วยทุ่นระเบิดที่ยาวที่สุดในโลก ซึ่งนี่ก็เป็นอีกหนึ่งข้อพิสูจน์ว่าการไม่เก็บภาษีเลยก็อาจจะไม่ใช่เรื่องดีเท่าที่ควร
– เวสเทิร์นซาฮารา เป็นเขตปลอดภาษีเนื่องจากผลของข้อพิพาทเรื่องอาณาเขต
– ไม่มีแหล่งท่องเที่ยวที่มากพอ และมีทรัพยากรธรรมชาติน้อย
– แม้ไม่ใช่เขตสงคราม แต่ระบบกฎหมายของเวสเทิร์นซาฮาราที่ไม่มั่นคง ส่งผลโดยตรงต่อความเป็นอยู่และการเข้ามาลงทุนจากต่างชาติ
3. เบอร์มิวด้า (Bermuda)
อัตราการเก็บภาษีเงินได้ : 0%
เบอร์มิวด้า เป็นดินแดนโพ้นทะเลของสหราชอาณาจักรในมหาสมุทรแอตแลนติก ตั้งอยู่ชายฝั่งตะวันออกของสหรัฐอเมริกา โดยเป็นดินแดนของอังกฤษที่ปกครองตนเอง มีทีมเรือยอร์ชชื่อดัง Oracle Team USA มีฐานที่ตั้งทีมอยู่ที่แห่งนี้ ซึ่งสามารถบ่งชี้ได้ว่าที่แห่งนี้มีความั่นคั่ง หรูหรา และงดงามขนาดไหน หากพูดถึงสวรรค์ของดินแดนปลอดภาษี
แต่ก็มีข้อเสียหลัก คือ ค่าครองชีพที่สูงมาก โค้เนื่องจากการอยู่ห่างไกลสหรัฐอเมริกา แม้ว่าผู้ที่ทำงานในเบอร์มิวด้าจะได้รับค่าตอบแทนที่สูงมาก แต่ก็ต้องแลกกับค่าครองชีพที่สูงเกือบ 4 เท่าหากเทียบกับสหรัฐฯ และ สูงกว่า 3 เท่าหากเทียบกับอังกฤษหรือแคนาดา
– เบอร์มิวด้าได้รับการพัฒนาอย่างก้าวกระโดดหากเปรียบเทียบกับหมู่เกาะแคริบเบียนอื่น ๆ
– มีสาธารณูปโภคที่ได้มาตรฐาน อาทิ ถนนหนทางที่ดี ระบบขนส่งสาธารณะ และร้านอาหารสุดหรู
– มีชุมชนชาวต่างชาติที่ยอดเยี่ยม
– จากผลสำรวจของธนาคาร HSBC International จัดอันดับให้เบอร์มิวด้าเป็นประเทศที่น่าอยู่อันดับ 2 ของโลกรองจากแคนาดา
– ราคาอาหารค่อนข้างสูง
– ไม่มีการเก็บภาษี แต่อาจมีภาษีทางอ้อม
– ทรายชมพู ทรายขาว น้ำทะเลสีฟ้าใส และวิถีชีวิตการล่องเรือถือว่าเป็นหัวใจการท่องเที่ยวสำคัญของดินแดนแห่งนี้
– มีภาคการเงินขนาดใหญ่ที่เอาไว้ใช้สนับสนุนแรงงานในประเทศ
4. โซมาเลีย (Somalia)
อัตราการเก็บภาษีเงินได้ : 0%
โซมาเลีย เป็นประเทศในทวีปแอฟฟริกาใต้ติดกับแหลมแอฟริกา นอกจากชื่อเสียงที่ไม่ค่อยสู้ดีนักในเรื่องการมีโจรสลัดแล้วนั้น ยังเป็นแหล่งหลบภาษีชั้นเยี่ยมอีกด้วย นับได้ว่าเป็นหนึ่งในประเทศที่ความน่าอยู่น้อยที่สุดในโลก เนื่องจากมีทั้งสงครามกลางเมือง อาชญากรรม การฆาตกรรม การลักพาตัว รวมถึงความไม่สงบนานนับหลายทศวรรษ
จนถึงขณะนี้รัฐบาลของโซมาเลียก็ยังคงล้มเหลวในการจัดการปัญหาต่าง ๆ ข้างต้น และเป็นสาเหตุว่าทำไมภาครัฐจึงไม่สามารถจัดเก็บภาษีเงินได้ ซึ่งรายได้ของประเทศตอนนี้ได้มาจากแค่การท่องเที่ยว รวมถึงการลงทุนจากต่างประเทศเพียงเท่านั้น
– เมืองฮาร์เกซา เมืองหลวงของรัฐโซมาลิแลนด์ เป็นสถานที่ที่ปลอดภัยที่สุดของโซมาเลียด้วยจำนวนประชากรเพียง 7.6 แสนคน ประชากรในพื้นที่เป็นมิตรและอัธยาศัยดี แต่อาจมีเหตุการณ์คุกคามชาวต่างชาติบ้างบางครั้ง
– การจราจรประเทศแห่งนี้มีเพียงถนน ไม่มีไฟจราจร ป้ายถนน หรือไฟถนน
– ผู้ชายไม่สามารถสวมกางเกงขาสั้นหรือเสื้อแขนกุดได้ ผู้หญิงต้องสวมชุดยาวหรือกระโปรงเท่านั้น
– สถานที่ท่องเที่ยวในเมืองฮาร์เกซา มีเพียงตลาดในเมืองและตลาดอูฐเท่านั้น
– ไม่มีเครื่องดื่มแอลกอฮอล์จำหน่ายในฮาร์เกซา ผู้ชายส่วนใหญ่จึงเลือกดื่ม ชา กาแฟ รวมถึงน้ำผลไม้แทน
5. บาฮามาส (The Bahamas)
อัตราการเก็บภาษีเงินได้ : 0%
บาฮามาส เป็นรัฐชาติที่ตั้งอยู่ในมหาสมุทรแอตแลนติก ทางตะวันออกของรัฐฟลอริดา สหรัฐฯ ด้วยวิวทิวทัศน์ทะเลอันสวยงามตระการตา ทำให้เป็นสถานที่ดึงดูดผู้คนมาท่องเที่ยวและสร้างรายได้ให้รัฐอย่างมหาศาล โดยบาฮามาสเป็นประเทศในทวีปอเมริกาที่ร่ำรวยมาก ๆ เป็นรองเพียงสหรัฐฯ และแคนาดา ซึ่งเป็นเหตุผลว่าทำไมจึงไม่เก็บภาษีเงินได้กับประชากรในประเทศ
– ใช้เงินเพียงเล็กน้อยในการตั้งถิ่นฐานเพื่ออยู่อาศัย
– สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง อนุญาตให้ทุกคนสามารถมาพำนักอาศัยในบาฮามาสได้ โดยมีค่าธรรมเนียม 1,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ (ประมาณ 34,000 บาท) ซึ่งสามารถต่ออายุใบอนุญาตได้ทุกปี
– หากวางแผนที่จะอยู่ระยะยาวหรืออยู่แบบถาวร คุณจะต้องลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ของบาฮามาสเป็นจำนวนเงิน 2.5 แสนดอลลาร์สหรัฐฯ (ประมาณ 8.4 ล้านบาท)
6. โมนาโก (Monaco)
อัตราการเก็บภาษีเงินได้ : 0%
นครรัฐโมนาโก มีที่ตั้งอยู่ในแถบยุโรปตะวันตก ทางตอนใต้ของฝรั่งเศส ติดกับทะเลเมดิเตอร์เรเนียน เป็นประเทศเอกราชที่เล็กที่สุดอันดับ 2 ของโลกรองจากนครรัฐวาติกัน สำหรับโมนาโกถือได้ว่าเป็นสวรรค์ปลอดภาษีอย่างแท้จริง มีทั้งธรรมชาติที่สวยงาม มีท่าจอดเรือล้อมรอบหน้าผาธรรมชาติ รวมถึงคฤหาสน์และโรงแรมหรูที่ล้อมรอบด้วยทะเล
– โมนาโกเป็นประเทศแรก ๆ ของโลก ที่ยกเลิกการเก็บภาษีเงินได้ในปี พ.ศ. 2412
– ความน่าอยู่ของโมนาโกเรียกได้ว่าอยู่ในระดับที่สูงมาก เพียงแต่ต้องมีเงินมากพอเพื่อใช้ดำรงชีพในที่แห่งนี้
– โมนาโกเป็นประเทศปลอดภาษีที่คนนอกประเทศ สามารถเข้ามาเป็นพลเมืองได้ง่ายที่สุด
– ธนาคารโมนาโก กำหนดให้มีเงินฝากขั้นต่ำระหว่าง 5 แสน – 1 ล้านยูโร (ประมาณ 19 – 38 ล้านบาท) เพื่อยื่นขอสัญชาติ
– อัตราการก่ออาชญากรรมต่ำในประเทศน้อยที่สุดในโลก
– ชาวต่างชาติสามารถเข้ามาเปิดบัญชีธนาคาร หรือ ซื้ออสังหาริมทรัพย์ภายในโมนาโกได้แบบไร้เงื่อนไข
– ในระหว่างการแข่งขันฟอร์มูล่า วัน Monaco Grand Prix ผู้เข้าร่วมการแข่งขันต้องจ่ายค่าเช่าห้องพักสูงสุดมากกว่า 10,000 ดอลลาร์สหรัฐต่อคืน (ประมาณ 3.4 แสนบาทต่อคืน)
7. บรูไน (Brunei)
อัตราการเก็บภาษีเงินได้ : 0%
ประเทศต่อมาไม่ใกล้ไม่ไกลจากไทย นั่นก็คือ บรูไน ชาติจากอาเซียนนั่นเอง โดยมีที่ตั้งอยู่ในทวีปเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เป็นประเทศปลอดภาษีเงินได้เนื่องจากมีความมั่งคั่งจากการส่งออกน้ำมัน แต่ไม่ใช่สถานที่ท่องเที่ยวที่จะต้อนรับชาวต่างชาติมากเท่าไหร่นัก อีกทั้งรัฐบาลของบรูไนยังเป็นเผด็จการด้วย
– บรูไนปฏิบัติตามกฎหมายชารีอะห์ (กฎหมายของศาสนาอิสลาม) อย่างเคร่งครัด โดยการห้ามจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์
– ผู้ที่ไม่ใช่ชาวมุสลิมที่มีอายุ 17 ปีขึ้นไป จะได้รับสุรา 2 ลิตร หรือ เบียร์ 12 กระป๋อง ที่นำเข้าจากต่างประเทศทุก ๆ 48 ชั่วโมง
– ชาวต่างชาติสามารถดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ได้เฉพาะในห้องพักโรงแรม หรือที่อยู่อาศัยส่วนตัวเท่านั้น
– การมีเพศสัมพันธ์กับคนที่ไม่ใช่คู่สมรส ถือว่ามีความผิดตามกฎหมาย
– การรักร่วมเพศ ยังคงเป็นสิ่งที่ผิดกฎหมายของบรูไน
– การพูดแง่ลบถึงสุลต่านหรือเจ้าชาย เป็นสิ่งที่ผิดกฎหมาย
– การอยู่เกินวีซ่าที่กำหนดอาจมีโทษได้ อาทิ การปรับเงิน จำคุกระยะสั้น หรือการเฆี่ยนตี
– การเฉลิมฉลองคริสมาสต์สามารถทำได้ แต่ต้องอยู่ในพื้นที่ที่กำหนด หรือในโบสถ์เท่านั้น รวมทั้งต้องแจ้งเจ้าหน้าที่ เนื่องจากสุลต่านเชื่อว่า การเฉลิมฉลองที่ยิ่งใหญ่เกินไปอาจเป็นการบ่อนทำลายศาสนาอิสลามในบรูไนได้
8. หมู่เกาะเคย์เเมน (Cayman Islands)
อัตราการเก็บภาษีเงินได้ : 0%
สำหรับอาณานิคมโพ้นทะเลของสหราชอาณาจักรอย่าง หมู่เกาะเคย์แมน ตั้งอยู่ในทะเลแคริบเบียนฝั่งตะวันตก บริเวณทางใต้ของคิวบา มีประชากรอยู่ราว 6 หมื่นคน โดยเป็นสวรรค์ปลอดภาษีที่แรก ๆ ของบรรดานักธุรกิจและบุคคลทั่วไปจะนึกถึง หมู่เกาะแห่งนี้ไม่มีการเก็บภาษีนิติบุคคลและภาษีเงินได้สำหรับผู้อยู่อาศัย
ด้วยบรรยากาศอันน่าอยู่ พระอาทิตย์ตก เรือคาตามารัน ค็อกเทล และหาดทรายขาว ช่างเย้ายาวหนุ่มสาวต่างชาติให้มาปักหลักพักผ่อนและดำน้ำชมธรรมชาติ ณ ที่แห่งนี้ ก่อนจะปักหลักและเริ่มสร้างครอบครัวที่นี่ หมู่เกาะเคย์แมน เป็นสถานที่ปลอดภัยมาก อัตราการเกิดอาชญากรรมต่ำ ซึ่งรายได้หลักของดินแดนแห่งนี้คือธุรกิจการดำน้ำและสินเชื่อการเงิน
– หมู่เกาะแห่งนี้ มีรายได้ผ่านค่าธรรมเนียมจากการท่องเที่ยวและใบอนุญาตทำงาน ธุรกรรมทางการเงิน และอากรขาเข้า
– สินค้านำเข้าต้องเสียภาษีระหว่าง 22% ถึง 27% ในขณะที่รถยนต์หรูหราต้องเสียภาษีสูงถึง 42.3%
– ทุกคนจะได้รับการดูแลสุขภาพหากทำงานในหมู่เกาะเคย์แมน และนายจ้างจะต้องจ่ายครึ่งหนึ่งของค่ารักษาพยาบาล
– มีค่าครองชีพที่สูงกว่าสหรัฐอเมริกาถึง 2 เท่า
– งานทุกงานจะต้องได้รับการโฆษณาและเสนอให้กับชาวเคย์เมเนียนก่อน
– การซื้ออสังหาริมทรัพย์และมีกระบวนการที่เถรตรง ด้วยราคาเริ่มต้นที่ 300,000 ดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 10.4 ล้านบาท) สำหรับทาวน์เฮาส์ก่อนจะทะยานถึงหลักล้าน
– มีอาชีพให้เลือกทำอย่างหลากหลายตั้งแต่ครู บาร์เทนเดอร์ พยาบาลและช่างทำผม
– คุณสามารถนำสัตว์เลี้ยงของคุณไปที่หมู่เกาะเคย์แมนได้การทำ หนังสือเดินทางลูกสุนัข ที่ออกโดยกรมวิชาการเกษตร
9. บาห์เรน (Bahrain)
อัตราการเก็บภาษีเงินได้ : 0%
ราชอาณาจักรบาห์เรน เป็นประเทศเกาะในทวีปเอเชียที่ตั้งอยู่ในอ่าวเปอร์เซีย บาห์เรนถือได้ว่าเป็นอีกประเทศที่ไม่มีการเสียภาษีเงินได้ ภาษีจากการค้าขาย ภาษีจากกำไรการค้าหุ้น รวมถึงบริษัทหรืออสังหาริมทรัพย์ ยกเว้นเพียงแต่การได้รับผลกำไรจากเชื้อเพลิงฟอสซิลของประเทศ โดยบริษัทที่ทำธุรกิจเกี่ยวกับเชื้อเพลิงดังกล่าว จะถูกเก็บภาษีถึง 46% จากกำไรสุทธิ ไม่ว่าจะเป็นบริษัททั้งในและต่างประเทศก็ตาม
นอกจากนี้ สิ่งที่ทำให้บาห์เรนน่าอยู่นั่นคือ การลดหย่อนภาษีได้ รวมทั้งเป็นรัฐที่มีแนวคิดที่เสรีมากที่สุดในโลก พร้อมด้วยประชากรท้องถิ่นที่เป็นมิตรและภูมิใจในวัฒนธรรมของตน ชาวบาห์เรนทุกคนสามารถพูดภาษาอังกฤษได้อย่างคล่องแคล่ว
– ผู้หญิงได้รับอนุญาตให้ขับรถและทำงานในบาห์เรน
– ผู้หญิงชาวต่างชาติไม่จำเป็นต้องคลุมศีรษะหรือสวมอาบายา แต่แนะนำให้แต่งกายให้สุภาพ
– สามารถบริโภคหมูและเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ได้ และร้านอาหารส่วนใหญ่ได้รับใบอนุญาต
– นอกจากมัสยิดแล้ว สถานที่สักการะอื่น ๆ ยังสามารถ พบได้ในประเทศรวมทั้งโบสถ์แองกลิกันและโบสถ์คาทอลิก และสุเหร่ายิว
– แม้ว่าสภาพแวดล้อมการทำงานจะน่าดึงดูด แต่ภูมิทัศน์ทางธรรมชาติของบาห์เรนนั้นไม่ค่อยสวยงามเท่าที่ควร ทิวทัศน์ทะเลทรายส่วนใหญ่เกลื่อนไปด้วยท่อส่งน้ำมันและก๊าซที่ตัดกัน
– โดยทั่วไปชาวบาห์เรนเป็นมิตรและชาวต่างชาติส่วนใหญ่ไม่มีปัญหาในการผูกมิตรกับคนในท้องถิ่น
– การเรียนภาษาอาหรับไม่จำเป็น เว้นแต่จะเป็นที่ต้องการ
– ที่พักอาศัยในบาห์เรนมีทุกแบบให้เลือก ตั้งแต่อพาร์ทเมนท์ไปจนถึงวิลล่าหลังเดี่ยวและบริเวณที่มีรั้วรอบขอบชิด
– คุณภาพน้ำในบาห์เรนยังไม่ค่อยดีนัก ดังนั้นควรเตรียมน้ำดื่มจากน้ำดื่มบรรจุขวด
– ที่หน้าฟิตเนสบาห์เรน ให้บริการมากมายตั้งแต่เทนนิส กอล์ฟ ขี่ม้า พิลาทิส
– ชมรมหนังสือและโรงเรียนสอนภาษาก็ได้รับความนิยมในหมู่ผู้ปกครองเช่นกัน
– ความใกล้ชิดกับดูไบ โอมาน อาบูดาบี และประเทศอื่น ๆ เป็นผลดีต่อผู้ที่พักผ่อนหลังสุดสัปดาห์
10. อันดอร์รา (Andorra)
อัตราการเก็บภาษีเงินได้ : 10%
ประเทศสุดท้ายของลิสต์นี้ ได้แก่ประเทศเล็ก ๆ อย่าง อันดอร์รา ตั้งอยู่ทางตะวันตกเฉียงใต้ของทวีปยุโรป ไม่มีทางออกสู่ทะเล เป็นประเทศที่เต็มไปด้วยหิมะและแสงแดด แม้ว่าจะไม่ปลอดภาษีแบบ 0% แต่ผู้ที่มีรายได้มากกว่า 40,000 ยูโรต่อปี (ประมาณ 1.5 ล้านบาทต่อปี) จะต้องเสียภาษีเงินได้ 10% ซึ่งเป็นจำนวนที่น้อยมาก ๆ หากเทียบกับหลายชาติ
อันดอร์ราขึ้นชื่อลือชาเรื่องความสงบและเป็นกันเอง ภาษาราชการคือภาษากาตาลัน แต่คนท้องถิ่นมักสนทนากันด้วยภาษาสเปน โปรตุเกส และฝรั่งเศส
– อันดอร์ราถือเป็นประเทศที่ปลอดภัยที่สุดแห่งหนึ่งของโลกด้วยจำนวนประชากร 20,000
– เมืองหลักอย่าง ลาเวลลา มีการโจรกรรมด้วยอาวุธเพียงครั้งเดียวในปี 2558
– ภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) หมายความว่า ชาวยุโรปจะขับรถผ่านเป็นประจำเพื่อเดินทางแบบไปเช้าเย็นกลับเพื่อซื้อบุหรี่ สุรา เสื้อผ้า หรืออุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์
– การได้รับสัญชาติในอันดอร์ราต้องใช้เวลาพอสมควร โดยเฉลี่ยแล้วใช้เวลามากกว่า 10 ปี
อ้างอิงจาก CEO Magazine
อ่านข่าวเพิ่มเติม