เจ้าของเจ็บใจ แจ้งความเด็กโกหกทำสุนัขตาย เข้ามาแหย่-ตีเป็นประจำ หวั่นโตเป็นภัยสังคม
ร้ายกว่าที่คิด เด็ก 2 คนต้นเหตุทำหมาตาย อ้างว่ามาเก็บบอลเลยทำหมาหลุด เจ้าของดูวงจรปิดพบบุกรุกบ้าน ทั้งแหย่-ตีสารพัด เพื่อนบ้านลั่นโดนประจำ บางทีของหาย จำขึ้นใจ “ลูกคุณไม่น่ารักสำหรับทุกคน”
วันที่ 29 พฤศจิกายน 2566 เจ้าของสุนัขเดินทางแจ้งความเอาผิด หลังเผยเรื่องราวสลดใจของลูกรักทั้ง 3 ตัว ต้องตายเพราะเด็ก 2 คนย่องเข้ามาในบ้าน เปิดประตูให้ “สุนัข” หลุดออกไป กระทั่งถูกรถชนตาย 2 ตัว เป็นที่มาของกระแสวิจารณ์ว่า “ลูกคุณไม่ได้น่ารักสำหรับทุกคน”
ต่อมาเจ้าของสุนัขเพิ่งทราบความจริง หลังได้ดูกล้องวงจรปิดของลุงข้างบ้าน ร่ายยาวความว่า “เรื่องเจ็บใจ เด็กโกหก (ก่อนดูกล้องวงจรปิด) คุณลุง (เพื่อนบ้าน) แจ้งว่าเห็นเด็กมาเปิดรั้ว เด็กรับสารภาพว่าเปิดจริง เพราะจะเข้ามาเก็บลูกบอลในบ้าน นั่งร้องไห้หน้าบ้านเรา เสียใจทำหมาหลุดไป ถ้ากลับบ้านไปพ่อแม่ต้องตีผมแน่ๆ คุณลุงก็ปลอบใจว่าไม่ได้ตั้งใจ ไม่ต้องเสียใจนะ แล้วบอกให้กลับบ้านไปก่อน
พอเรารับศพน้องหมาเข้ามาถึงที่บ้าน คุณลุงก็บอกให้เราไปตามผู้ปกครองเด็กทั้ง 2 คนมาคุยกัน เราไปถึงบ้าน เด็กยกมือไหว้ บอกขอโทษ ไม่ได้ตั้งใจครับ ร้องไห้เสียใจ ทำสีหน้าสำนึกผิด เราก็ใจอ่อน ก็เรียกผู้ปกครองเด็กมาคุยรับรู้ถึงเรื่องที่เกิดขึ้น ตักเตือน และแจ้งว่าเราต้องซ่อมรถให้กับคนที่หมาตัดหน้ารถเขาด้วย
แล้วเราก็ขอตัวไปทำศพหมาก่อน แยกย้ายกลับบ้าน พอตกดึกเรามาดูรายละเอียดกล้องวงจรปิด อ้าว เด็กมาแกล้งหมา มาแหย่หมา เอาไม้แบดมาตี แล้วปากุญแจเข้าในบ้าน เปิดรั้วบ้านวิ่งหนีล่อหมาให้วิ่งตาม สนุกสนานเสียงดังใหญ่ (ไหน บอกมาเก็บบอล)
พอเช้าวันจันทร์ 27/11/2566 เพื่อนบ้านคนอื่น ๆ ที่เคยเจอเด็กพวกนี้บุกรุกบ้านก็ทักมาบอก ทั้งมาคุยถึงหน้าบ้าน บอกว่าบ้านเขาก็โดน เด็กแอบเข้าบ้านไปหยิบของบ้าง ปีนเข้าบ้านบ้าง ปล่อยหมา แหย่หมา บลา ๆ คือไม่ใช่บ้านเราบ้านแรกที่เจอ แต่บ้านคนอื่นก็เจอเหมือนกัน แต่ไม่มีการสูญเสียถึงชีวิต แค่ทรัพย์สินเสียหาย
เด็กก็ใช้มุกเดิม ๆ บอกว่าเข้าไปเก็บบอลและขอโทษ จบ คนอื่นก็ไม่ได้ให้เป็นเรื่องใหญ่โตอะไร มีมากกว่า 5 หลังที่โดนแบบนี้
เด็กโกหกจนเคยตัว แก้ตัวแล้วพ้นผิด จนติดเป็นนิสัย ตีหน้าเศร้า เล่าความเท็จ ไม่เคยได้บทเรียน ไม่จำ ไม่ได้สำนึกผิดจริงๆ ทำแล้วทำอีก เด็กอายุแปดเก้าขวบ ไม่คิดว่าจะร้ายได้ขนาดนี้ ทั้งปั้นสีหน้า ทั้งคำพูด หลอกให้เราใจอ่อน เด็กสมัยนี้มันร้ายกาจกว่าที่เราคิด
เรียนโรงเรียนดี พ่อแม่ทำงานฐานะมั่นคง อยู่บ้านหลังใหญ่ ไม่ได้แปลว่าเด็กจะนิสัยดี มันเกินเด็ก มันคือภัยสังคม นี่ยังเด็กไม่อยากนึกถึงตอนมันโตเลย เลือกซื้อหมู่บ้านนี้หวังว่าจะได้เจอสภาพแวดล้อม สังคม ผู้คนที่ดี ไม่คิดเลยจะเจอเรื่องเลวร้ายและเด็กร้ายๆ แบบนี้
ฉันขอสู้เพื่อชีวิตของลูกฉันบ้างนะ อย่าบอกว่าฉันรังแกเด็ก อย่าบอกว่าฉันใจร้ายนะ
ขอบคุณข้อมูลและภาพจาก : Maneewan Sandee, thairath
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้องเพิ่มเติม