จินตหรา เล่านาทีระทึก วิ่งหลบกระสุนกลางคอนเสิร์ต หวิดเอาชีวิตไม่รอด
จินตหรา พูลลาภ เล่านาทีระทึกสุดสยอง เจอเหตุยิงกันกลางงานคอนเสิร์ต ต้องหนีเอาตัวรอดอย่างหวุดหวิด พร้อมเล่าวิถีแห่งสายมู สิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่เชื่อ
เป็นอีกหนึ่งนักร้องที่เจอเรื่องให้ตกใจตลอด สำหรับจินตหรา พูลลาภ นักร้องลูกทุ่งเสียงดีระดับตำนาน ที่ไม่ว่าจะออกซิงเกิ้ลอะไรก็มีแฟนคลับมามุงเสมอ ล่าสุด แม่จินตหราได้ออกมาเล่าเรื่องราวปาฏิหาริย์งานบวงสรวงพญาศรีสัตตนาคราช พร้อมเผยวินาทีวิ่งหลบกระสุน จากเหตุการณ์สุดสยองกลางคอนเสิร์ต ผ่านทางรายการ คุยแซ่บshow
พี่จินเป็นศิลปินมากี่ปีแล้ว?
จินตหรา : ตั้งแต่จบ ป.6 พ.ศ.2528
นอกจากผลงานเราแล้ว พี่จินต้องมีความเป็นสายมูตัวจริงแน่ ๆ เพราะไม่อย่างนั้นคงไม่อยู่ในวงการบันเทิงมาได้ยาวนาน มีคนรัก แล้วปล่อยเพลงอะไรมาเพลงก็ฮิตตลอด พี่จินนับถืออะไรบ้าง?
จินตหรา : อันนี้คือความเชื่อส่วนบุคคลนะคะ สำหรับตัวพี่จินจะเชื่อว่าเราเกิดมาที่ได้อยู่ในวงการบันเทิง น่าจะมีกราฟชีวิต อะไรที่ขีดให้เรามาเดินตรงนี้ พอเรามาอยู่ตรงนี้พี่จินจะนับถือคุณพ่อ คุณแม่ ครูบาอาจารย์และสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายก็กราบไหว้หมดเลย โดยเฉพาะแบบนับถือพญานาค ไปทุกสถานที่ก็จะสักการะบูชา
เราเชื่อว่าทุกสิ่งอย่างที่เราไปอยู่ตรงนั้น ไปทำมาหากินตรงนั้น ไปใกล้ท่าน ท่านต้องมีเจ้าที่ เจ้าทาง อย่างเช่นพี่จินร้องเพลงเกี่ยวกับพญานาค ท่านทำให้เรามองไม่เห็น แต่เราก็เชื่อว่าสิ่งศักดิ์สิทธิ์มีจริง
ได้สัมผัสมากับตัว?
จินตหรา : ไม่เชื่อย่าลบหลู่ หลายครั้งที่ร้องเพลงเกี่ยวกับพญานาค มีครั้งนึงกลางคืนไปพักโรงแรมที่นครพนม ข้อมือเคล็ดไม่รู้เกิดจากอะไร มันกระดิกไม่ได้เลย แล้ววันนั้นที่โรงแรม น้ำไม่ค่อยไหลเยอะ เราต้องใช้ขันตักอาบ เราประคองขันไม่ได้เลย ตอนเช้าเราต้องมีถ่าย MV บวงสรวง กลางคืนเราเหมือนเป็นโรคง่อย แขนชา ทำอะไรไม่ได้เลย แต่ก็ไม่ได้คิดอะไร สงสัยนั่งรถมานาน คงไม่ได้พักผ่อน คิดว่าจะไม่หาย ทีนี้ตอนกลางคืนก็ขอพร องค์ปู่เจ้าขาลูกหลานมาครั้งนี้มาสักการะบูชาไหว้ท่าน ขอพรท่านวันพรุ่งนี้ทำงาน สิ่งใดที่ลูกผิดพลาดขอให้ท่านทำให้ลูกราบลื่นแล้วหาย ตื่นมาตอนเช้าอาการหายเป็นปลิดทิ้งเลย
เราเลยรู้สึกว่าท่านมาบอก อีกเรื่องเป็นตอนที่ถ่ายเพลงล่าสุด ตอนบวงสรวงบอกว่าลูกหลานขออนุญาตใช้ชื่อท่านร้องในเพลง จะเผยแพร่ไปทั่วโลก อะไรที่ทำผิดขอประทานอภัย อะไรที่ทำถูกขอให้ส่งเป็นสิ่งที่ดี พอไปถ่ายเครื่องเสียงกับกล้องเค้าเซ็ตมาอย่างดีรอเรา พอถ่ายกล้องไม่ติด เครื่องเสียงไม่ติด แต่ช่วงที่กล้องไม่ติดเป็นช่วงเดียวกับที่พระอาทิตย์ทรงกลด ทีมงานไปเห็นพอดี พี่จินไม่รู้นะ เลิกงานแล้วถึงมาเล่าให้ฟัง เราเลยมีความเชื่อว่าต้องมีอะไรสักอย่างที่ท่านมาดลให้เรา มันหลายรอบ หลายครั้ง รู้สึกเลยว่าท่านรับรู้สิ่งที่เราทำ
ทำไมวันนั้นถึงถ่ายได้ต่อ?
จินตหรา : เราพูดในใจว่าเราทำอะไรผิดมั้ย เราก็พูดขออยู่ในใจให้ได้ทำงาน ถ้าทำอะไรผิดพลาดขออภัย สักพักนึงทุกคนได้ทำงานเลย ลมเย็นสบาย
พี่จินกลัวการนั่งเรืออกไปถ่าย กลัวน้ำ แต่มีเหตุการณ์เกิดขึ้น?
จินตหรา : บอกทีมงานหมดแล้วว่าเรากลัวอะไรที่มันเสี่ยงๆ เค้าก็บอกว่าถ้าถ่ายในเรืออยู่แถวๆเทยบฝั่งไม่ได้ออกกลางแม่น้ำหรอก ในขณะที่รอในเรือถ่ายรูปเล่นกัน สักพักนึงเรือไหลไปอยู่กลางแม่น้ำ คนขับเรือเค้าไม่รู้เค้าคิดว่าให้ขับไปกลางน้ำ เรือไปอยู่ใกล้ตรงที่รูปปั้นพญานาคพ่นน้ำออกมา เหมือนเรารับน้ำมนต์เลย
บางคนมองว่าเรางมงาย?
จินตหรา : เข้าใจค่ะ แต่สิ่งที่เราคิดปฏิบัติและระลึกถึง ผลลัพธ์ที่กลับมาได้อย่างต่อเนื่อง เราทำอะไร เราไม่ลบหลู่
ล่าสุดไปเล่นคอนเสิร์ตวิ่งหลบกระสุน?
จินตหรา : ไปเล่นแถวระยอง คอนเสิร์ตจะจบแล้วเหลือ 2 เพลงสุดท้าย เราก็เล่นเต้นๆๆ เค้าเริ่มขึ้นแล้ว เริ่มขึ้นตั้งแต่กลางคอนเสิร์ตแล้ว เขม่นกัน เราสังเกตอยู่ พอเพลงฟ้าผ่าเปรี้ยงเค้าก็ซัดกันเลย ไล่กัน ตีกันจนเลือดแตก มุดใต้เวทีเราก็แตกตื่น
เราขี้กลัว เราก็วิ่งสวนกับถือไม้ที่ตีกัน รีบวิ่งขึ้นรถตู้ ตกใจ เราก็บอกคนขับรถตู้ออกรถเลย กลัวเค้ารู้ว่าเราเป็นนักร้อง รถตู้ขับมาถึงปั๊มพี่ถอดเสื้อผ้านักร้องออกหมดเลย คนเราตกใจลงรถไปเข้าห้องน้ำทั้งที่ถอดชุดแล้ว แต่โชคดีที่มีถุงน่อง คิดว่าตัวเองใส่เสื้อผ้าอยู่
ทำไมกลัวคนรู้ว่าเราเป็นนักร้อง?
จินตหรา : ในตอนมันฉุกเฉิน เค้าไล่ตีกันกันมา รถนี้เป็นรถนักร้องหรือปล่าว กลัวเป็นเรื่องเป็นราว เราคิด เราเลยรีบเปลี่ยนชุด ชุดที่เราใส่มันเกะกะ ยังไม่พอ พอมันซาแล้ว ทางงานเค้าหาไมค์ไม่เจอ เราถทอไมค์มาเรายังไม่รู้สึกเลยว่าเอาไมค์เค้ามา ต้องขับรถเอาไมค์ไปคืนเขา