‘วิโรจน์’ อัด ‘เศรษฐา’ สีข้างถลอก หลังชี้แจงเรื่องตั๋วเพื่อไทย เปิดสภาตั้งกระทู้แน่
วิโรจน์ อัด เศรษฐา สีข้างถลอก หลังชี้แจงเรื่องตั๋วเพื่อไทย แนะยอมรับสภาพเถอะ พร้อมถามตอนหาเสียงบอกจะขจัดเส้นสาย ใช่คนเดียวกันรึเปล่า
นาย วิโรจน์ ลักขณาอดิศร สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกลและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ให้สัมภาษณ์ถึงประเด็นตั๋วเพื่อไทย หรือประเด็นที่นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี พูดว่า สส. ฝากตำแหน่งผู้กำกับใหม่ ก่อนที่นายเศรษฐาจะออกมาปฏิเสธในเวลาต่อมานั้น
นายวิโรจน์ระบุว่า นายกฯได้ชี้แจงหรือไม่ว่าท่านกินอะไรไป วันก่อนถึงพูดว่ามีสส.เข้าไปเกี่ยวข้องกับการโยกย้ายนายตำรวจระดับผู้กำกับ ซึ่งก็ชัดเจนว่านายกฯพูดถึงการแก้หนี้นอกระบบและมีการพูดถึงนายอำเภอ ผู้การจังหวัด ดังนั้นผู้กำกับจะหมายเป็นอย่างอื่นไม่ได้ จะเป็นผู้กำกับซีรี่ย์หรือภาพยนตร์ไม่ได้ ต้องเป็นผู้กำกับสถานีตำรวจอย่างเดียว และที่นายกฯบอกว่ามีคนขอมาเยอะ ตกลงแล้วคนที่ขอเป็นคนหรือเป็นสัมภเวสี แล้วท่านพูดกับใคร ท่านพูดในที่ประชุมสส.พรรคเพื่อไทยใช่หรือไม่
เมื่อถามว่า ในฐานะฝ่านค้านจะตรวจสอบเรื่องนี้อย่างไร นายวิโรจน์ กล่าวว่า เมื่อเปิดสมัยประชุมมาก็ต้องต้องกระทู้ถามในเรื่องนี้ว่า ที่นายกฯบอกว่าที่คนขอมาเยอะเหลือเกินคือใคร เพราะท่านพูดอีกว่ามีคนผิดหวังมากกว่าสมหวัง แต่สมหวัง ก็มีอยู่จำนวนไม่น้อยก็แสดงว่ามีการฝากกันจริง ต้องยอมรับกันตรงๆ อย่าบิดพลิ้วเลย ท่านหลุดปากพูดแล้วมาอีกวันก็มาแก้ตัว
“ท่านยอมรับสภาพเถอะ วันก่อนหน้าเป็นการสารภาพของคนเป็นนายกฯอยู่แล้ว แล้วที่ท่านเคยพูดก่อนหน้าหาเสียงที่บอกว่า จะขจัดสังคมเส้นสาย พอหลังหาเสียงก็ลืมที่นายเศรษฐาเคยพูดเอาไว้เสียงเข้ม แต่ก็ลืมหมดแล้ว ตกลงเศรษฐาก่อนหน้าที่ประชุมพรรคเพื่อไทย กับเศรษฐาที่มาพูดอีกวันคือเศรษฐาคนเดียวกันหรือเปล่า“ นายวิโรจน์ กล่าว
นายวิโรจน์ กล่าวต่อว่า ตอนนี้ก่อนที่จะเปิดสมัยประชุมก็คงจะใช้การทำงานของคณะกรรมาธิการในการจัดการก่อน พอเปิดสมัยประชุมนายกฯก็ต้องมาชี้แจง ไม่ใช่อยู่ดีๆ พอวันรุ่งขึ้นมาบอกว่าไม่ได้หมายความแบบนั้น พูดถึงว่าความไม่ใช่คน ตนฟังแล้วจริงๆแล้ววันนั้น อยากเอายาไปทาสีข้างให้ท่าน ท่านคงจะอักเสบพอสมควร ไหนๆท่านก็สารภาพมา 80% แล้ว อีก 20% ก็พูดมาเถอะว่าสส.ที่มาฝากผู้กำกับใหม่กับท่านคือใคร ฝากกี่คน จริงๆไม่ได้ยากเกินวิสัย เพราะผู้กำกับมีการโยกย้ายและมีผุ้กำกับใหม่อยู่จำนวนหนึ่ง
“เดี๋ยวผมจะไปหาทางโยงว่าผู้กำกับที่เพิ่งได้รับการแต่งตั้งจาก พ.ต.ท.เป็น พ.ต.อ. และเพิ่งได้รับการแต่งตั้งเป็นผู้กำกับใหม่ เป็นใคร อยู่ในจังหวัดไหน อยู่ในสถานีตำรวจใด และมีเครือข่ายความสัมพันธ์โยงใย เครือข่ายกับสส.คนไหน แล้วเดี๋ยวค่อยไปถามนายกฯเรียงคนว่าคนนี้อยู่ในบัญชีฝากหรือไม่ สมหวังหรือผิดหวัง” นายวิโรจน์ กล่าว
เมื่อถามว่า ถ้าดูจากคำพูดของนายกฯ ที่พูดในที่ประชุมสส.พรรคเพื่อไทย ตามกฎหมายเราสามารถดำเนินการอย่างไรได้บ้าง นายวิโรจน์ กล่าวว่า จริงๆคนผิดต่อสังคมเกิดขึ้นแล้ว แต่ต้องหาหลักฐานเพิ่ม เพราะการสารภาพของผู้ต้องหายังไม่ใช่หลักฐาน ต้องแสวงหาข้อเท็จจริง แต่เดี๋ยวก็รู้เพราะผู้กำกับใหม่มีไม่กี่คน โดยเฉพาะพื้นที่สส.พรรคเพื่อไทยชนะ หาชื่อนามสกุลก็รู้แล้วว่า เป็นน้องคนนั้น เป็นเพื่อนคนนี้ และเรียนรุ่นเดียวกับคนนั้นคนนี้ ซึ่งตนจะทำบัญชีว่าคนไหนอยู่บัญชีสมหวังหรือบัญชีแห้ว
เมื่อถามว่า มองว่าเรื่องนี้จะทำให้นายกฯพ้นสภาพจากการเป็นนายกฯได้หรือไม่ นายวิโรจน์ กล่าวว่า เรื่องนี้ต้องถูกตั้งคำถาม แต่คำสารภาพของผู้ต้องหาไม่ใช่หลักฐาน ซึ่งจะทำให้ประชาชนตั้งคำถามว่าต่อไปนี้จะเชื่อคำพูดอะไรจากนายกฯได้อีก เพราะเมื่อวานพูดอย่างวันนี้พูดอย่าง เมื่อถามย้ำว่า พล.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย เรียกร้องให้นายเศรษฐา ลาออก นายวิโรจน์ กล่าวว่า การเรียกร้องเป็นสิ่งที่ทำได้ แต่การตัดสินใจคงต้องอยู่ที่นายกฯ แต่ตนถือโอกาสนี้ให้กำลังใจตำรวจ ให้ตั้งหน้าตั้งตาทำงานอย่างเต็มที่
“มันไม่ใช่เรื่องเกินจริงที่บอกว่าถ้าคุณไม่วิ่ง คุณไม่หาเงินมาซื้อตำแหน่ง โอกาสที่คุณจะขึ้นเป็นผู้กำกับก็ยากเหลือทน ซึ่งเป็นคำพูดที่ทุกคนรู้ดีว่าแสดงว่าเป็นความท้อแท้ ท้อถอยของเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ปฏบัติหน้าที่ด้วยความซื่อสัตย์ แต่พอเขามาเจออย่างนี้ คนที่ชื่อเศรษฐา พูดตอนหาเสียงว่าจะขจัดเส้นสายให้หมดไป แล้ววันนี้เมื่อเป็นนายกฯ มาพูด จะมาบอกว่าถูกบังคับ หรือว่าโดนคุณไสยหรือโดนของ เพราะพูดไปยิ้มไปและพูดด้วยตัวของตัวเอง เรื่องนี้ผมเข้าใจว่าท่านอยู่แวววงอสังหาริมทรัพย์ และอสังหาริมทรัพย์บางรายก็จะรู้สึกว่าการติดสินบน การฝาก การใช้เส้นสาย เป็นเรื่องปกติ แต่ก็หวงัว่านายกฯที่ยืนยันตัวเองว่าอยากยืนอยู่ในสังคมที่ถูดต้องและทำธุรกิจมาอย่างถูดต้องตลอดจะไม่มีพฤติกรรมเช่นนี้ ”นายวิโรจน์ กล่าว
‘เศรษฐา’ แจงดราม่า ‘ตั๋วเพื่อไทย’ ยืนยันไม่เคยยุ่งย้าย ผกก.-สส. ไม่เคยขอ