ข่าวภูมิภาค

ศรชล.ร่วม กำหนดแนวทางการควบคุมเรือท่องเที่ยว ในพื้นที่ จ. ภูเก็ต ย้ำ ต้องไม่มีอุบัติเหตุเกิดขึ้นอีก

ผอ.ศรชล.ร่วม จังหวัดภูเก็ต หน่วยงานเกี่ยวข้อง กำหนดแนวทางการควบคุมเรือท่องเที่ยว ในพื้นที่จังหวัดภูเก็ตย้ำจะต้องไม่มีอุบัติเหตุเกิดขึ้นอีก

เมื่อเวลา 09.00 น. วันนี้ ( 24 ก.ค. 61) ห้องประชุมศูนย์ควบคุมเรือเข้า – ออก อ่าวฉลอง จังหวัดภูเก็ต พลเรือเอก พิเชฐ ตานะเศรษฐ ผู้อำนวยการศูนย์ประสานการปฏิบัติในการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเล (ผอ.ศรชล.) เป็นประธานการประชุม การกำหนดแนวทางการควบคุมเรือท่องเที่ยวในพื้นที่จังหวัดภูเก็ต ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง

Advertisements

สำหรับการประชุมในครั้งนี้เป็นการประชุมเพื่อบูรณาการหน่วยงานที่เกี่ยวข้องใน ศรชล. เข้ามาสนับสนุนในการจัดระเบียบเรือท่องเที่ยวในพื้นที่จังหวัดภูเก็ต เพื่อสร้างความเชื่อมั่นและสร้างความปลอดภัยให้กับประชาชนและนักท่องเที่ยว ที่เดินทางเข้ามาท่องเที่ยวทางทะเลในพื้นที่จังหวัดภูเก็ตและใกล้เคียงใน หลังเกิดเหตุการณ์เรือล่มใน พื้นที่จังหวัดภูเก็ต เมื่อวันที่ 5 ก.ค.ที่ผ่านมา

พลเรือเอก พิเชฐ ตานะเศรษฐ ผู้อำนวยการศูนย์ประสานการปฏิบัติในการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเล (ผอ.ศรชล.) กล่าวว่า การประชุมในครั้งนี้เพราะต้องการให้เห็นภาพการปฏิบัติร่วมกันที่จะเกิดขึ้นในอนาคตกับมาตรการการป้องกันการเกิดอุบัติเหตุทางเรือ ซึ่งโดยอำนาจหน้าที่ของกองทัพเรือเองไม่มีอำนาจหน้าหรือกฎหมายรอบรับ ที่โดยตรง แต่จากการทำงานร่วมกันของหน่วยงานต่างๆ พบว่ามีปัญหาหลายจุดจึงได้มีการรวบรวมปัญหาเหล่านี้มาหารือกันเพื่อป้องกันไม่ให้เหตุการณ์เกิดขึ้นอีก

จากการพุดคุยพบว่าทุกหน่วยงานพร้อมที่จะร่วมกันแก้ไขปัญหาและหามาตรการป้องกัน รวมทั้งการกำหนดมาตรการป้องกันจากทุกหน่วยงาน ซึ่งสิ่งที่อยากให้มีการดำเนินการให้เสร็จโดยเร็วคือการกำหนดท่าเรือขึ้นลงให้ชัดเจน และกำหนดท่าเรือนำร่องในการตรวจสอบเรือ คนเรือ นักท่องเที่ยว อุปกรณ์ความปลอดภัยในเรือ ซึ่งขณะนี้ทราบว่าทางจังหวัดกำลังอยู่ระหว่างการร่างประกาศขอบังคับเกี่ยวกับมาตรการการจัดระเบียบเรือท่องเที่ยวแล้ว

ขณะที่นายจิรุม์ วิศาลจิตร อธิบดีกรมเจ้าท่า กล่าวว่า ในส่วนของกรมเจ้าท่าจะร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการกำหนดมาตรการแก้ปัญหาช่องว่างของการบังคับใช้กฎหมาย โดยการบูรณาการความร่วมมือกันในการป้องกันไม่ให้เกิดเหตุซ้ำ ซึ่งสิ่งที่ยังต้องปฏิบัติอย่างเข้มแข็ง คือ ท่าเรือต้องปลอดภัย เรือปลอดภัย และคนเรือต้องได้มาตรฐาน ซึ่งขณะนี้ทางเจ้าท่าได้ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรวมทั้งทัพเรือภาคที่ 3 ตรวจเรือขนาดบรรทุกผู้โดยสาร 100 คนขึ้นไป ซึ่งมีการตรวจสอบความปลอดภัยของเรือ ของคนขับเรือ รวมทั้งจำนวนนักท่องเที่ยว จากการตรวจสอบพบว่ามีเรือบางลำที่ใบอนุญาตเรือขาด ทางเจ้าท่าก็สั่งไม่ให้ออกจากฝั่ง เพราะถ้าใบอนุญาตขาดก็แสดงว่าเรือลำดังกล่าวยังไม่ผ่านการตรวจประจำปี

ส่วนเรื่องท่าเรือนั้น อย่างที่ทราบที่ผ่านมามีท่าเรือจำนวนมากที่ใช้เป็นที่ขึ้นลงเรือของเรือท่องเที่ยว แต่หลังจากนี้เรือท่องเที่ยว หรือเรือโดยสารจะต้องแจ้งเข้าออกเฉพาะท่าเรือที่ทางเจ้าท่ากำหนดเท่านั้น เพราะเรือทุกลำที่แจ้งเข้าออกจะมีเจ้าหน้าที่ตรวจสอบความถูกต้องถ้าไม่ถูกต้องก็จะไม่ให้เรือออก แม้ว่านักท่องเที่ยวจะได้รับผลกระทบบ้างก็ตาม แต่การดำเนินการก็ต้องเป็นไปตามมาตรการการรักษาความปลอดภัยทางทะเล และเพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักท่องเที่ยว

Advertisements

ส่วนการเลือกท่าเรือนำร่องร่องในการดำเนินการเพื่อบูรณาการการทำงานร่วมกัน ขณะนี้กำลังอยู่ระหว่างการพิจารณาว่าจะเลือกท่าเทียวเรือใดดำเนินการ สำหรับจังหวัดภูเก็ตคาดว่าจะมีท่าเรือที่ให้เรือเข้าออกได้ประมาณ 25 แห่ง ซึ่งมีทั้งที่องค์กรท้องถิ่นเป็นผู้ดูแล รวมทั้งท่าเรือเอกชน ซึ่งต่อไปถ้าเลือกท่าเรือนำร่องได้แล้ว ท่าเรืออื่นๆก็จะต้องปฏิบัติให้เหมือนกับท่าเรือนำร่องสิ่งที่จะต้องคำนึกสูงสุดคือเรื่องของความปลอดภัย และเรือทุกลำจะต้องปฏิบัติตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ใส่ความเห็น

Back to top button