Black friday คือวันที่หลาย ๆ คนรอคอย เพราะกว่าจะวนกลับมาอีกที ต้องรอเป็นปีเลย ซึ่งส่วนใหญ่จะรู้จักกันในเรื่องที่ว่า เป็นมหกรรมของใช้ หรือสินค้าลดราคา แต่ส่วนน้อยที่จะรู้ว่า มันมีจุดเริ่มต้นมาจากอะไร เกิดขึ้นที่ไหน และมีความน่าสนใจอย่างไร วันนี้เราได้เตรียมข้อมูลมาให้แล้ว
จุดเริ่มต้นของวัน Black friday ?
เรื่องราวเกิดขึ้นในเมืองฟิลาเดลเฟีย ประเทศสหรัฐอเมริกา ในช่วงอาทิตย์เดียวกันกับวันเกิดเหตุการณ์ มีนักท่องเที่ยว และแฟนบอลจากหลากหลายประเทศ รวมใจกันเดินทางไปชมงานบอลประเพณี และวันขอบคุณพระเจ้า (Thanksgiving Day) ที่มีผู้คนจากหลายเมืองมาร่วมเดินขบวนเพื่อเฉลิมฉลอง
หลังจากผ่านวันเทศกาลเหล่านั้นไป ทุกคนที่มาจากต่างที่ก็อาศัยช่วงเวลานี้ไปซื้อของชอปปิงกัน แต่เพราะด้วยจำนวนคนที่มาก และเพิ่งผ่านช่วงเทศกาลมา ทำให้การสัญจรในบริเวณนั้นเกิดการติดขัด คนไปซื้อของจนล้นห้าง ถึงขั้นมีคนบาดเจ็บกันเลยทีเดียว ซึ่งตำรวจที่ดูแลความปลอดภัย ไม่สามารถควบคุมคนได้เลย ถึงกับเอ่ยปากว่า “เป็นวันที่ลำบากมากจริง ๆ” และเหตุการณ์ตรงกับวันศุกร์ จึงมีคนเรียกวันนี้ว่า “Black friday” หรือศุกร์ชั่วร้าย และมืดมน
คำว่า Black Friday ถูกใช้เป็นครั้งแรกในปีค.ศ. 1869 นับเป็นจำนวน 154 ปี ถือว่าเป็นเวลาที่ยาวนาน วัน Black Friday จะถูกใช้แทนสี 2 สีคือ สีแดง และสีดำ เป็นวันที่ผู้ค้าปลีกใช้เรียกแทนจำนวนยอดขายของร้านค้าต่าง ๆ โดยสีแดง หมายถึง ยอดขายขาดทุนเป็นสีแดง ส่วนสีดำ คือ ยอดที่ทำกำไรพลิกล็อคกลับมาเป็นตัวดำในบัญชีในวันนั้น
ทำไมถึงต้องชอปปิงในวัน Black friday ?
บอกเลยว่า ถ้าพลาดโอกาสวันนี้ไป ก็ต้องรอกันอีกที่ปีหน้าเลย เพราะมหกรรมแบบนี้ 1 ปีมีครั้งเท่านั้น ซึ่งแต่ละร้านที่จัดงานในช่วงนี้ จะลดราคาสินค้ามากถึง 50% – 80% กันเลย บอกเลยว่า ลดจัดหนักจัดเต็มสุด ๆ เพราะเหตุนี้คนถึงให้ความนิยม และสนใจกับวัน Black friday อย่างมาก เลยทำให้วันนี้เป็นที่รู้จัก และพูดถึงกัน ส่งผลให้มหกรรมการลดราคาสินค้าในวัน Black friday เผยแพร่ไปอีกหลาย ๆ ประเทศ เช่น แคนาดา อังกฤษ แม็กซิโก เป็นต้น ซึ่งประเทศไทยเราก็ไม่น้อยหน้า ถึงจะไม่จัดกิจกรรมอย่างเป็นทางการ แต่ก็มีบางร้านให้ความสำคัญกับวัน Black friday แต่ส่วนใหญ่จะลดกระหน่ำในออนไลน์ รอกดใส่ตะกร้าได้เลย
แต่ไม่ใช่สินค้าทุกอย่างจะลดราคา หรือขายดี จะมีบางสินค้าที่ไม่ได้เข้าร่วม หรือลดราคาสินค้าน้อยมาก เช่น
1.ของแบรนด์ เนม
เพราะ ของแบรนด์เนมเป็นสินค้าแบรนด์ในต่างประเทศ ที่มีมูลค่า และสามารถเพิ่มราคาได้ในอนาคต หากถ้าจัดให้สินค้าลดราคา ของแบรนด์เนมจะได้รับความนิยมลดน้อยลง
2.ช็อคโกแลต
เพราะ ทั้งสองอย่างนี้ เป็นของที่ไม่สามารถเก็บไว้ได้นาน ๆ จึงไม่นิยมลดราคา เพื่อให้ซื้อไปกักตุนเยอะ ๆ
3.ตั๋วเครื่องบิน และแพ็กเกจสำหรับท่องเที่ยว
เพราะ เมื่อเทียบราคา และคำนวณแต่ละอย่างแล้ว แทบจะไม่ได้ส่วนลด หรือแตกต่างจากราคาเดิมมากเท่าไหร่ ส่วนมากจะไปลดในช่วงเดือนอื่น ๆ มากกว่า
Black friday จะจัดขึ้นวันศุกร์ที่ 4 ของเดือนพฤศจิกายนของทุก ๆ ปี โดยนับจากหลังวันขอบคุณพระเจ้า (Thanksgiving Day) ซึ่งในปี 2023 นี้ จะตรงกับวันศุกร์ที่ 24 พฤศจิกายน 2566 และใกล้จะถึงวัน Black friday เข้ามาทุกทีแล้ว เตรียมตัว เตรียมใจ เตรียมเงินในกระเป๋าให้พร้อม แต่ขอเตือนไว้ก่อนว่า ชอปปิงกันอย่างมีสติ ไม่งั้นจะหมดสตางค์กันนะ
