ช่างอลูมิเนียมยิงเมียสาวครูสอนภาษาจีนบาดเจ็บ ก่อนจับตัวขึ้นรถจับเป็นตัวประกัน
ช่างอลูมิเนียมยิงเมียสาวครูสอนภาษาจีนบาดเจ็บ ก่อนจับตัวขึ้นรถจับเป็นตัวประกัน ขับรถแหกด่านหลบหนี เจ้าหน้าที่ สกัดได้ที่แยกตลาดเหนือคลอง เจ้าหน้าที่และญาติ เจรจาร่วม 7 ชม.ก่อนใจอ่อนตัดสินใจมอบตัว ท่ามกลางเสียงปรบมือยินดีของไทยมุง ส่วนสาเหตุมาจากหึงหวงขอคืนดีภรรยาแต่ไม่สำเร็จ
เมื่อเวลา 06.30 น.วันที่ 23 ก.ค.61 ร.ต.อ.วิทยา หลูกุล รองสว.สอบสวน (สภ.เมืองกระบี่) รับแจ้งเกิดเหตุคนร้าย ใช้อาวุธปืนยิงภรรยาสาหัส เหตุเกิดที่บ้านเลขที่ 27/3 ถ.สุขสำราญ ต.ปากน้ำ อ.เมือง จ.กระบี่ รายงานผู้บังคับบัญชาทราบ จากนั้นพร้อมเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน หน่วยกู้ภัยมูลนิธิกระบี่พิทักษ์ประชา เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ
โดยบริเวณหน้าบ้านพัก พบกองเลือดจำนวนหนึ่ง ปลอกกระสุนปืนขนาด .38 จำนวน 2 ปลอก สอบถามชาวบ้านใกล้กันทราบว่า คนก่อเหตุคือนายสายัณห์ พิมลเดชกุล อายุ 48 ปี อาชีพรับเหมาติดตั้งอลูมิเนียม ผู้ที่ถูกยิงคือ นางอารีรัตน์ หรือครูเจิ้น พิมลเดชกุล อายุ 46 ปี ครูสอนภาษาจีน ใน อ.เหนือคลอง
สอบสวนทราบว่า ก่อนเกิดเหตุ ทั้งคู่มีปากเสียงทะเลาะกัน หลังนายสายัณห์ไปขอคืนดีอดีตภรรยา ต่อมานายสายัณห์ จึงใช้อาวุธปืนยิงใส่นางอารีรัตน์ บาดเจ็บ ก่อนจะพาตัวขึ้นรถยนต์เก๋งยี่ห้อ โตโยต้าวีออส สีเทา ทะเบียน กจ 2700 กระบี่ ซึ่งเป็นรถของนางอารีรัตน์ ขับออกไป มุ่งหน้าไปทาง อ.เหนือคลอง เจ้าหน้าที่จึงวิทยุสกัดจับ
กระทั่งสามารถสกัดรถของผู้ก่อเหตุได้บริเวณสามแยกเหนือคลอง หมู่ 2 ต.เหนือคลอง แต่ผู้ก่อเหตุ ยังไม่ยอมลงจอดรถ เจ้าหน้าที่จึงนำรถตู้กู้ภัยจำนวน 2 คัน และรถปิคอัพอีก 1 คัน จอดประกอบข้าง ปิดหัวปิดท้าย ผู้ก่อเหตุจึงจอดรถติดเครื่องเปิดแอร์อยู่ในรถกับคนเจ็บ
ต่อมา พล.ต.ต.บุญทวี โตรักษา ผบก.ภ.จ.กระบี่ นำกำลังชุดสืบสวนกอง บก.ภ.จ.กระบี่ และเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน สภ.เมืองกระบี่ อีกร่วม 50 นายมาล้อมบริเวณดังกล่าวไว้ พร้อมทั้งเจรจาให้ผู้ก่อเหตุยอมปล่อยคนเจ็บ และมอบตัว โดยใช้การเจรจาผ่านทางโทรศัพท์ แต่ยังไม่มีทีท่าจะยอมปล่อยตัวคนเจ็บ พร้อมขู่ว่าในรถมีระเบิดด้วย
เจ้าหน้าที่จึงติดต่อไปหาญาติของนายสายัณห์ ที่ จ.ตรัง เพื่อให้ช่วยเจรจา โดยทางญาติแจ้งว่าจะเดินทางมาพูดคุยเอง โดยมีนายอมรศักดิ์ พิมลเดชกุล พี่ชาย เดินทางมาจาก จ.ตรัง พร้อมกับญาติๆ อีก 3 คน และลูกสาวของผู้ก่อเหตุ ใช้เวลาเจรจาอยู่นาน ตัวผู้ก่อเหตุก็ยังไม่มีทีท่าจะยอมส่งตัวคนเจ็บออกมา
กระทั่งเวลา 12.00 น.หลังจากเจ้าหน้าที่และญาติ ใช้เวลาเกลี้ยกล่อมอยู่นานหลาย ชั่วโมง นายสายัณห์ ยอมที่จะปล่อยตัว นางอารีรัตน์ ออกมา ในสภาพอิดโรย เนื่องจากเสียเลือดมาก แต่ให้ญาติมานั่งเบาะหลังในรถ1คน แทนเป็นการแลกตัว
จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจ และกู้ภัย จึงช่วยกันรีบนำร่างของผู้บาดเจ็บส่ง รพ.เหนือคลอง โดย นางอารีรัตน์ ถูกยิงด้วยอาวุธปืนเข้าที่บริเวณน่องขวา 1 นัด และบริเวณเท้าขวา 1 นัด ส่วนตัวของนายสายัณห์ ภายหลังจากยอมปล่อยตัวภรรยาแล้ว ก็ยังคงนั่งอยู่ภายในรถ โดยยังคงถืออาวุธปืนลูกโม่ ขนาด .38 ไว้ในมือตลอดเวลา ทำให้สถานการณ์ตึงเครียดอีกครั้ง
จากนั้นนายอมรศักดิ์ พี่ชายนายสายัณห์ พร้อมตัวพี่สาวอีก 1 คน ขอเข้าไปนั่งพูดคุยเกลี้ยกล่อมภายในรถ เพื่อให้ยอมมอบตัว แต่นายสายัณห์ ยังมีอาการเครียดอย่างเห็นได้ชัด และยังยืนยันไม่ยอมมอบตัว แต่จะยิงตัวตาย เนื่องจากเกรงกลัวกับความผิดต่อเหตุการณ์ที่ทำลงไป ทำให้ญาติพี่น้องที่มารอเจรจากันอยู่ ต่างร้องให้เพราะเกรงว่าตัวนายสายัณห์ จะคิดสั้น ญาติต้องใช้เวลาเจรจาอีกประมาณ 2 ชม.
ต่อมามีนายประกอบศักดิ์ ประดิษฐเจริญ อดีตนักธุรกิจเจ้าของโรงไฟฟ้าและโรงแรมบนเกาะพีพี และเคยเป็นอดีตนายจ้างนายสายัณห์ เดินทางมาเจรจา โดยบอกว่าจะช่วยเหลือเรื่องคดีความให้ และจะประกันตัวมาสู้คดี กระทั่งเวลา 14.30 น. นายสายัณห์ จึงยอมมอบปืนที่ใช้ก่อเหตุออกมาให้กับเจ้าหน้าที่ จากนั้น ญาติๆ ได้เข้าไปเปิดประตูพาตัวนายสายัณห์ ออกมา ตำรวจได้เข้าประกบและพาตัวนายสายัณห์ ออกจากจุดเกิดเหตุ เดินทางไปสอบปากคำที่กองบังคับการตำรวจภูธร จ.กระบี่
เบื้องต้นแจ้งข้อกล่าวหา พยายามฆ่า กักขังหน่วงเหนี่ยว และพกพาอาวุธปืนที่สาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาต ส่วนอาการบาดเจ็บของนางอารีรัตน์ ได้รับการช่วยเหลือจนปลอดภัยแล้ว