ข่าว

ตำรวจตั้งโต๊ะแถลง ‘ขอทานจีน’ เร่งสืบหาผู้อยู่เบื้องหลัง ส่งกลับประเทศแล้ว 1 ราย

รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล แถลงประเด็น ขอทานจีน เร่งสืบหาผู้อยู่เบื้องหลัง ส่งกลับประเทศแล้ว 1 ราย ยืนยันเจอของกลางเป็นหมื่นจริง

พล.ต.อำนาจ ไตรพจน์ รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ตั้งโต๊ะแถลงกรณีขอทานจีนตามที่สื่อรายงาน โดย พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล หรือ บิ๊กต่อ ผบ.ตร. ได้สั่งให้มีการดำเนินการโดยเด็ดขาด และสั่งมาที่ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล สำหรับปฏิบัติการครั้งนี้ เริ่มขึ้นหลังจากที่เจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าจับกุมขอทานจีน ใน สน.ปทุมวัน พญาไท บางพลัด ลุมพินี บางรัก และทุ่งมหาเมฆ

Advertisements

โดยการดำเนินทั้งหมดเป็นการร่วมมือกันของเจ้าหน้าที่ตำรวจ กระทรวงพัฒนาสังคม และมีเจ้าหน้าที่ตรวจเข้าเมือง โดยเจ้าหน้าที่กำลังทำการสอบสวนนอกเหนือเบื้องต้นว่าเป็นขบวนการหรือเป็นกลุ่มแก๊งค์มารึเปล่า ส่วนใหญ่เป็นคนจีน ก็ดำเนินตามกฎหมายคือการปรับและผลักดันออกนอกประเทศ โดยตอนนี้ที่โดนผลักดันออกไปแล้ว และอยู่ในห้องกัก

ขณะที่กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ระบุว่า การขอทานในประเทศไทยถือเป็นเรื่องผิดกฎหมาย ทาง พม. จึงร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ในการกวดขัน โดยเฉพาะนโยบายของนาย วราวุธ ศิลปอาชา กำชับในการจัดระเบียบสังคม ซึ่งกระทรวง พม. เป็นหน่วยเรื่องคุ้มครองและพัฒนาคุณภาพชีวิต โดยเฉพาะขอทานที่เป็นคนไทย

ในของสถิติตั้งแต่ที่ใช้กฎหมายในปี 59 ที่ผ่าน เรามีการกวดขันขอทานทั่วประเทศ 7,155 คน เป็นคนไทย 4,685 คน เป็นขอทานต่างด้าว 2,473 คน ซึ่งส่วนใหญ่เป็นชาวเมียนมา สำหรับคนจีน ก่อนโควิดตรวจพบคนจีนที่มาขอทาน 68 คน ส่วนใหญ่เป็นคนพิการและผู้สื่ออายุ แต่ในปีนี้ที่จับกุมยังอยู่ในช่วงวัยแรงงาน อายุ 22-27 ปี ฉะนั้นในส่วนของการดำเนินการของ พม. ก็มีการประสานกับตำรวจคนเข้าเมืองในการเฝ้าระวังของคนจีน โดยเฉพาะกลุ่มคนเปราะบาง

แฟ้มภาพ

หลังจากนี้จะมีการจัดระเบียบจุดสำคัญใน กทม. โดยร่วมกับตำรวจและกรุงเทพมหานคร รณรงค์และประชาสัมพันธ์ว่าเป็นเรื่องผิดกฎหมาย และอยากจะขอให้ประชาชนหยุดให้เงินขอทาน ไม่สนับสนุนขอทานในทุกกรณี

ผู้สื่อข่าวถามว่าขอทานจีนทั้ง 6 คนที่ถูกจับกุมรู้จักกันไหม ในประเด็นนี้ พล.ต.อำนาจ ระบุว่า อาจจะรู้จักกัน แต่หลักฐานยังไม่มี แต่ดูพฤติกรรม บาดแผล แต่คล้ายคลึงกัน แต่ยังไม่มีหลักฐานชัดเจน

Advertisements

ผู้สื่อข่าวถามต่อว่าขอทานจีนทั้ง 6 คนให้การว่าอย่างไรและเงินที่ได้มาเก็บไว้ใช้เองหรือไม่ ในประเด็นนี้ พ.ต.อ.ธีรศักดิ์ จันทราพิพัฒน์ ผกก.ดส ระบุว่า ทั้ง 6 เคส เคสแรกได้ผลักดันออกนอกประเทศ ส่วนที่เหลือสอบปากคำมาแล้ว 3 ราย ในส่วนสองรายแรก ให้การว่าเดินทางเข้ามาในวีซ่านักท่องเที่ยว เงินหมด ไปเดินเยาวราช และให้คำแนะนำว่าเป็นขอทาน ส่วนเคสที่ 2 ได้มีการสมัครเป็นนักศึกษามหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งและมีการเรียนออนไลน์ ขอเปลี่ยนวีซ่าเป็นวีซ่านักศึกษา อ้างว่าต้องหาเงินเรียนหนังสือ ซึ่งขอทานที่ใบหน้าพิการให้การว่าตัวเองถูกไฟไหม้ที่ประเทศจีน แต่ไม่ได้ให้รายละเอียดอื่นๆ ยืนยันว่ากำลังสืบสวนเพิ่มเติม และกำลังหาความเชื่อมโยง

ส่วนเรื่องการเดินทางเข้าประเทศนั้น จากการตรวจสอบพบว่าคนจีนทั้งหมดเข้ามาคนละเที่ยวบิน ไม่เจอว่าเข้าพร้อมกัน เข้าๆออกๆประเทศหลายครั้ง แต่เจอว่ามีเคสที่ 1 และ 3 ที่พักอยู่ในที่เดียวกัน ขอดูความเชื่อมโยงอีกที

ในส่วนของรายได้ ผู้ต้องหาใช้ส่วนตัวจนหมด พอหมดก็ไปขอใหม่ พอได้เงินมาก็จะเอาไว้เป็นค่าเดินทาง ส่วนอื่นๆ ขอตรวจสอบข้อมูลทางธนาคารอีกที

ยังไม่สามารถสรุปได้ว่าเป็นการค้ามนุษย์หรือขบวนการขอทานข้ามชาติ และกำลังตรวจสอบอยู่ว่าคนที่อยู่เบื้องหลังหรือคนที่แนะนำคือใคร ส่วนเรื่องรายได้ พล.ต.อำนาจ เผยว่าเจอของกลางรายได้เป็นหมื่นจริง

แฟ้มภาพ

Nateetorn S.

ผู้สื่อข่าว ทำงานกับ Thaiger มาตั้งแต่ปี 2020 จบการศึกษาจากคณะวารสารศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสคร์ เคยทำงานกับสถานีโทรทัศน์อันดับ 1 ของประเทศ ทำให้มประสบการณ์ความเชี่ยวชาญ เจาะประเด็นข่าวการเมืองอาชญากรรม ข่าวแปลกๆ เรื่องน่าสนใจจากต่างประเทศ ช่องทางติดต่อ tee@thethaiger.com

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ใส่ความเห็น

Back to top button