เมื่อเวลาประมาณ 05.00 ของวันนี้ (5 ธ.ค.) ตำรวจสน.ทองหล่อ ได้รับแจ้งอุบัติเหตุรถยนต์ชนเสาไฟฟ้ามีผู้เสียชีวิต บนถนนพระรามสี่ ใกล้แยกกล้วยน้ำไท แขวงพระโขนง เขตคลองเตย กทม. จุดเกิดเหตุอยู่ห่างจากสัญญาณไฟจราจรแยก ม.กรุงเทพ ประมาณ 100 เมตร เป็นถนนทางโค้ง

 

เจ้าหน้าที่พบรถยนต์ฮอนด้า ซีอาร์วี สีขาว ทะเบียน ฌศ 6099 กทม. สภาพรถด้านขวาพังยับชนติดอยู่กับเสาไฟฟ้า ในรถพบผู้เสียชีวิต 1 ราย หน่วยกู้ภัยต้องใช้อุปกรณ์เครื่องตัดถ่างงัดนำศพออกมา พบเอกสารระบุชื่อ นายพัชนุ โนรี อายุ 44 ปี ผู้กำกับฝ่ายศิลป์ภาพยนตร์เรื่องก้านกล้วยซึ่ง เบื้องต้นแพทย์ระบุเสียชีวิตจากแรงอัดกระแทกอย่างรุนแรง

 

 

พนักงานทำความสะอาด กทม. สำนักงานเขตคลองเตย ให้การว่า เวลาประมาณ 04.30 น.ข ณะกำลังปฏิบัติหน้าที่ได้ยินเสียงรถเบรกอย่างแรง เสียงดังยาว จากนั้นได้ยินเสียงดังตูมสนั่น คิดว่ารถชนบ้านคน หรือชนกับรถจักรยานยนต์ แต่ปรากฏว่ารถยนต์ชนกับเสาไฟฟ้า ตนมองเห็นรถคันนี้ขับวิ่งมาด้วยความเร็ว เพราะเป็นช่วงสัญญาณไฟเขียวกำลังใกล้เปลี่ยนสัณญาณไฟแดงเพียง 4 วินาที ซึ่งช่วงถนนบริเวณนี้เป็นทางโค้ง ทั้งนี้ ตนยังเคยจะถูกรถยนต์เบียดชนขณะทำความสะอาดช่วงกวาดถนนด้วย จึงเป็นพื้นที่ถนนอันตรายอีกแห่งหนึ่ง

 

อย่างไรก็ตาม ตำรวจจะมีการสอบสวนพยานแวดล้อมอีกครั้ง และตรวจสอบภาพกล้องวงจรปิด รวมทั้งรอผลตรวจของแพทย์ พื่อหาสาเหตุที่แท้จริง เบื้องต้นคาดว่าผู้ตายขับรถมาด้วยความเร็ว ประกอบกับเป็นทางโค้ง จึงอาจเสียหลักพุ่งไปชนกับเสาไฟฟ้า ขณะนี้อยู่ระหว่างประสานทางญาติให้รับทราบ ก่อนสรุปหาสาเหตุที่แท้จริง

 

 

ที่มา ข่าวสด

 

 

ติดตามข่าวสารจาก The Thaiger ได้ทางเฟซบุ๊ก.

วานนี้ (3 พ.ย.) ตำรวจได้รับเบาะแสจากสื่อโซเชียลมีเดียว่าร้าน Bedroom Spa ซึ่งตั้งอยู่ในย่านตลิ่งชัน เปิดบริการเป็นร้านนวดสปา แต่มีการโฆษณาเผยแพร่ภาพของหญิงสาววัยรุ่นจำนวนหลายคน พร้อมข้อความเชิญชวนในลักษณะค้าประเวณีและสนองทางเพศในรูปแบบอื่นอย่างโจ่งแจ้ง

 

นอกจากนี้ ยังพบข้อความระบุอีกว่าหญิงสาววัยรุ่นตามภาพนั้นเป็นเด็กนักเรียนมัธยม มีหมายเลขโทรศัพท์แอปพลิเคชั่นไลน์ของร้าน ไว้เป็นช่องทางติดต่อในการส่งภาพถ่ายพนักงานนวดให้ลูกค้าเลือกก่อนมาใช้บริการ

 

 

เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้วางแผนจับกุมโดยติดต่อทางไลน์ ทางร้านได้ส่งข้อมูลราคาค่าบริการพร้อมภาพพนักงานนวดเด็กสาวให้เลือกก่อนมาใช้บริการจริง จึงติดต่อเลือกพนักงานนวดที่เข้าข่ายอายุไม่เกิน 18 ปี จำนวน 3 คน คือ น้องเอ น้องบี และน้องซี (นามสมมุติ) อัตราค่าบริการคนละ 1,900 บาท/ชั่วโมง รวมเป็นเงิน 5,700 บาท

 

ทางร้านโฆษณาว่าเด็กสาวจะให้บริการออรัลเซ็กซ์ แต่ถ้าหากลูกค้าต้องการมีเพศสัมพันธ์กับเด็กสาวด้วย จะต้องจ่ายเงินเพิ่มให้เด็กสาวอีก ในอัตรา 1,500 – 3,000 บาท แล้วแต่จะตกลงราคากันได้ จากนั้นจะมีการโอนเงินค่ามัดจำในการจองก่อนเป็นเงิน 1,000 บาท ผ่านทางบัญชีธนาคารฯ ของนายแมน (นามสมมุติ) (ผู้ถูกจับ)

 

เมื่อไปถึงร้าน ได้พบ นายแมน ซึ่งแสดงตนเป็นผู้ดูแลร้านและได้เรียกพนักงานนวดทั้ง 3 คน ที่เจ้าหน้าที่นอกเครื่องแบบได้เลือกไว้มาต้อนรับที่บริเวณห้องโถงรับแขก ก่อนเข้าทำการจับกุม

 

จากการตรวจสอบภายในร้านมีหญิงสาววัยรุ่นรอให้บริการกับลูกค้าอีกประมาณ 10 คน ซึ่งบางคนแต่งเครื่องแบบของสถาบันการศึกษาระดับต่างๆ พร้อมพบสมุดลงเวลาการทำงานของพนักงานในร้าน จำนวน 2 เล่ม และพบธนบัตรที่ใช้ในการล่อซื้อ ของนายแมน และพบโทรศัพท์มือถือ ซึ่งภายในเครื่องมีรูปภาพเปลือยของเด็กสาวและพนักงานหญิงของร้านจำนวนมาก

 

นอกจากนี้ยังพบถุงยางอนามัยที่ใช้แล้วอยู่ในถังขยะในห้องนวดอีกด้วย เจ้าหน้าที่จึงได้แจ้งข้อกล่าวหา เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย

 

 

ที่มา ข่าวสด

ติดตามข่าวสารจาก The Thaiger ได้ทางเฟซบุ๊ก.

เมื่อช่วงเวลาประมาณ 03.00 น. ของวันนี้ (4 ธ.ค.) ตำรวจสน.ทุ่งสองห้อง ได้รับแจ้งเหตุรถกระบะวิ่งเข้าไปในรางรถไฟ ช่วงระหว่างสถานีหลักสี่ มุ่งหน้าสถานีบางเขน เลียบถนนกำแพงเพชร 6 แขวงทุ่งสองห้อง เขตหลักสี่ กทม.

 

ในที่เกิดเหตุช่วงทางรถไฟตัดถนนทางเข้านอร์ธปาร์ค ห่างออกไปประมาณ 300 เมตร พบรถกระบะ โตโยต้า สีเทา จอดอยู่บนรางรถไฟขาเข้า ทำให้กีดขวางทางเดินรถ ส่งผลกระทบให้ขบวนรถไฟสายเหนือและอีสาน เที่ยวเข้าสถานีกรุงเทพ ต้องล่าช้ากว่ากำหนด เนื่องจากต้องรอหลีกทางกับขบวนรถไฟเที่ยวออกจากสถานีกรุงเทพ เจ้าหน้าที่จึงดำเนินการยกรถกระบะคันดังกล่าวออกใช้เวลานานกว่า 5 ชั่วโมง ก่อนเปิดทางเดินรถไฟตามปกติ

 

 

ภายในในรถกระบะ พบคนขับขี่มีลักษณะมึนเมาคือ นายพรเทพ ศรีมา อายุ 29 ปี เจ้าหน้าที่จึงควบคุมตัวมาสอบสวน ที่สน.ทุ่งสองห้อง ซึ่งผลการตรวจวัดปริมาณแอลกอฮอล์ ในร่างกายสูงถึง 142 มิลลิกรัมเปอร์เซ็น

 

จากการสอบถามเจ้าหน้าที่การรถไฟฯ พบว่า เจ้าหน้าที่ผ่านมาพบเห็นรถกระบะเข้ามาในรางรถไฟ จึงเข้าตรวจสอบ และแจ้งไปยังนายสถานีบางเขน ให้รับทราบ ซึ่งภายในรถกระบะคันดังกล่าวพบผู้ขับขี่นั้นมีอาการมึนเมา โดยบอกเพียงว่ากำลังจะเดินทางไปประชุม และขับวิ่งตามข้อมูล Google Maps หาเส้นทางไปในสถานที่ ก่อนจะขับวิ่งเข้ามาในทางเดินรางรถไฟ

 

เคราะห์ดีที่คนขับไม่ได้รับบาดเจ็บ และช่วงเกิดเหตุเวลา 03.00 น.ยังไม่มีขบวนรถไฟวิ่งผ่านมา โดยเบื้องต้นเจ้าหน้าที่จึงแจ้งดำเนินคดีกับผู้ขับขี่รถกระบะ คันดังกล่าวในข้อหาเมาแล้วขับ ส่วนความเสียหายต่างๆ เจ้าหน้าที่การรถไฟแห่งประเทศไทย อยู่ระหว่างตรวจสอบอีกครั้ง

 

 

ที่มา ข่าวสด

ติดตามข่าวสารจาก The Thaiger ได้ทางเฟซบุ๊ก.