สังคม/เศรษฐกิจ
กรมพัฒนาธุรกิจการค้า เผยการจดทะเบียนธุรกิจ ก.ย.62 ธุรกิจก่อสร้างฮิตสุด

กรมพัฒนาธุรกิจการค้า เผยการจดทะเบียนธุรกิจ ก.ย.62 ธุรกิจก่อสร้างฮิตสุด
ข่าวจากกรมพัฒนาธุรกิจการค้า รายงาน การจดทะเบียนธุรกิจ ประจำเดือนกันยายน 2562 และ ไตรมาส 3/2562
นายวุฒิไกร ลีวีระพันธุ์ อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า แถลงข่าวการจดทะเบียนธุรกิจของกรมพัฒนาธุรกิจการค้า ประจำเดือนกันยายน 2562 และไตรมาส 3/2562 โดยมีรายละเอียด ดังนี้
ผลการจดทะเบียนธุรกิจ
ธุรกิจจัดตั้งใหม่เดือนกันยายน
– จำนวนธุรกิจจัดตั้งใหม่ มีผู้ประกอบธุรกิจยื่นขอจดทะเบียนจัดตั้งห้างหุ้นส่วนบริษัทใหม่ทั่วประเทศ ในเดือนกันยายน 2562 จำนวน 6,954 ราย เมื่อเทียบกับเดือนสิงหาคม 2562 จำนวน 5,973 ราย เพิ่มขึ้นจำนวน 981 ราย คิดเป็นร้อยละ 16 และเมื่อเทียบกับเดือนกันยายน 2561 จำนวน 6,313 ราย เพิ่มขึ้น จำนวน 641 ราย คิดเป็นร้อยละ 10
– ประเภทธุรกิจจัดตั้งใหม่สูงสุด 3 อันดับแรก ได้แก่ ธุรกิจก่อสร้างอาคารทั่วไป จำนวน 669 ราย คิดเป็น ร้อยละ 10 รองลงมา คือ ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ จำนวน 391 ราย คิดเป็นร้อยละ 6 และอันดับ 3 คือ ธุรกิจภัตตาคาร ร้านอาหาร จำนวน 239 ราย คิดเป็นร้อยละ 3
– มูลค่าทุนธุรกิจจัดตั้งใหม่ ในเดือนกันยายน 2562 มีจำนวนทั้งสิ้น 28,315 ล้านบาท เมื่อเทียบกับเดือนสิงหาคม 2562 จำนวน 17,172 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจำนวน 11,143 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 65 และเมื่อเทียบกับเดือนกันยายน 2561 จำนวน 48,027 ล้านบาท ลดลงจำนวน 19,712 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 41
– ธุรกิจจัดตั้งใหม่แบ่งตามช่วงทุน โดยช่วงทุนที่มีจำนวนรายธุรกิจจัดตั้งใหม่ทั่วประเทศมากที่สุด ได้แก่ ช่วงทุน ไม่เกิน 1 ล้านบาท มีจำนวน 5,035 ราย คิดเป็นร้อยละ 72.40 รองลงมา คือช่วงทุนมากกว่า 1-5 ล้านบาท จำนวน 1,789 ราย คิดเป็นร้อยละ 25.73 รองลงมา คือช่วงทุนมากกว่า 5-100 ล้านบาท มีจำนวน 103 ราย คิดเป็นร้อยละ 1.48 และช่วงทุนมากกว่า 100 ล้านบาท จำนวน 27 ราย คิดเป็นร้อยละ 0.39
ธุรกิจจัดตั้งใหม่ไตรมาส 3/2562
– จำนวนธุรกิจจัดตั้งใหม่ มีผู้ประกอบธุรกิจยื่นขอจดทะเบียนห้างหุ้นส่วนบริษัทจัดตั้งใหม่ทั่วประเทศ ไตรมาส 3/2562 (ก.ค.-ก.ย.) จำนวน 19,386 ราย เมื่อเทียบกับไตรมาส 2/2562 (เม.ย.-มิ.ย.) จำนวน 17,472 ราย เพิ่มขึ้นจำนวน 1,914 ราย คิดเป็นร้อยละ 11 และเมื่อเทียบกับไตรมาส 3/2561 จำนวน 18,723 ราย เพิ่มขึ้นจำนวน 663 ราย คิดเป็นร้อยละ 4
– ประเภทธุรกิจจัดตั้งใหม่สูงสุด 3 อันดับแรก ได้แก่ ธุรกิจก่อสร้างอาคารทั่วไป จำนวน 1,812 ราย คิดเป็นร้อยละ 9 รองลงมา คือ ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ จำนวน 1,065 ราย คิดเป็นร้อยละ 5 และธุรกิจภัตตาคาร / ร้านอาหาร จำนวน 622 ราย คิดเป็นร้อยละ 3 ตามลำดับ
– มูลค่าทุนธุรกิจจัดตั้งใหม่ ในไตรมาส 3/2562 มีจำนวนทั้งสิ้น 68,353 ล้านบาท เมื่อเทียบกับไตรมาส2/2562 จำนวน 65,365 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจำนวน 2,988 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 5 และเมื่อเทียบกับไตรมาส 3/2561 จำนวน 97,614 ล้านบาท ลดลงจำนวน 29,261 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 30
– ธุรกิจจัดตั้งใหม่แบ่งตามช่วงทุน โดยช่วงทุนที่มีจำนวนรายธุรกิจจัดตั้งใหม่ทั่วประเทศมากที่สุด ได้แก่ ช่วงทุนไม่เกิน 1 ล้านบาท มีจำนวน 13,993 ราย คิดเป็นร้อยละ 72.18 รองลงมา คือช่วงทุนมากกว่า 1-5 ล้านบาท จำนวน 5,008 ราย คิดเป็นร้อยละ 25.83 รองลงมา คือช่วงทุนมากกว่า 5-100 ล้านบาท มีจำนวน 328 ราย คิดเป็นร้อยละ 1.69 และช่วงทุนมากกว่า 100 ล้านบาท จำนวน 57 ราย คิดเป็นร้อยละ 0.30
– ธุรกิจจัดตั้งใหม่สะสม จำนวนธุรกิจตั้งใหม่สะสมตั้งแต่เดือน ม.ค. – ก.ย. 62 มีจำนวน 57,608 ราย เทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา (ม.ค. – ก.ย. 61) จำนวน 56,271 ราย โดยเพิ่มขึ้น จำนวน 1,337 ราย คิดเป็นร้อยละ 2 สำหรับมูลค่าทุนจดทะเบียนธุรกิจตั้งใหม่สะสมตั้งแต่เดือน ม.ค. – ก.ย. 62 มีจำนวน 186,109 ล้านบาท ลดลง 54,377 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 23 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกับของปีที่ผ่านมา (ม.ค. – ก.ย. 61) จำนวน 240,486 ล้านบาท
ธุรกิจเลิกประกอบกิจการ เดือนกันยายน
– จำนวนธุรกิจเลิกประกอบกิจการ มีจำนวน 1,938 ราย เมื่อเทียบกับเดือนสิงหาคม 2562 จำนวน 1,755 ราย เพิ่มขึ้นจำนวน 183 ราย คิดเป็นร้อยละ 10 และเมื่อเทียบกับเดือนกันยายน 2561 จำนวน 1,899 ราย เพิ่มขึ้นจำนวน 39 ราย คิดเป็นร้อยละ 2
– ประเภทธุรกิจเลิกประกอบกิจการสูงสุด 3 อันดับแรก ได้แก่ ธุรกิจก่อสร้างอาคารทั่วไป จำนวน 158 ราย คิดเป็นร้อยละ 8 รองลงมาคือ ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ จำนวน 127 ราย คิดเป็นร้อยละ 7 และธุรกิจภัตตาคาร / ร้านอาหาร จำนวน 44 ราย คิดเป็นร้อยละ 2 ตามลำดับ
– มูลค่าทุนธุรกิจเลิกประกอบกิจการ ในเดือนกันยายน 2562 มีจำนวนทั้งสิ้น 15,361 ล้านบาท เมื่อเทียบกับเดือนสิงหาคม 2562 จำนวน 28,933 ล้านบาท ลดลงจำนวน 13,572 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 47 และเมื่อเทียบกับเดือนกันยายน 2561 จำนวน 6,555 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจำนวน 8,806 ล้านบาท คิดเป็น 1.3 เท่า
– ธุรกิจเลิกประกอบกิจการแบ่งตามช่วงทุน โดยช่วงทุนที่มีจำนวนรายธุรกิจเลิกประกอบกิจการทั่วประเทศ มากที่สุด ได้แก่ ช่วงทุนไม่เกิน 1 ล้านบาท จำนวน 1,395 ราย คิดเป็นร้อยละ 71.98 รองลงมาคือช่วงทุนมากกว่า 1- 5 ล้านบาท จำนวน 446 ราย คิดเป็นร้อยละ 23.01 ลำดับถัดไปคือช่วงทุนมากกว่า 5-100 ล้านบาท จำนวน 88 ราย คิดเป็นร้อยละ 4.54 และช่วงทุนมากกว่า 100 ล้านบาท มีจำนวน 9 ราย คิดเป็นร้อยละ 0.47
ธุรกิจเลิกประกอบกิจการไตรมาส 3/2562
– จำนวนธุรกิจเลิกประกอบกิจการ มีจำนวน 5,287 ราย เมื่อเทียบกับไตรมาส 2/2562 จำนวน 3,379 ราย เพิ่มขึ้นจำนวน 1,908 ราย คิดเป็นร้อยละ 56 และเมื่อเทียบกับไตรมาส 3/2561 จำนวน 5,327 ราย ลดลงจำนวน 40 ราย คิดเป็นร้อยละ 0.8 ซึ่งเป็นไปตามสถานการณ์ปกติที่จะมีแนวโน้มของการจดทะเบียนเลิกประกอบธุรกิจในช่วงปลายปี
– ประเภทธุรกิจเลิกประกอบกิจการสูงสุด 3 อันดับแรก ได้แก่ ธุรกิจก่อสร้างอาคารทั่วไป จำนวน 456 ราย คิดเป็นร้อยละ 9 รองลงมา คือ ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ จำนวน 323 ราย คิดเป็นร้อยละ 6 และธุรกิจภัตตาคาร / ร้านอาหาร จำนวน 131 ราย คิดเป็นร้อยละ 2 ตามลำดับ
– มูลค่าทุนธุรกิจเลิกประกอบกิจการ ในไตรมาส 3/2562 มีจำนวนทั้งสิ้น 52,573 ล้านบาท เมื่อเทียบกับไตรมาส 2/2562 จำนวน 12,341 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจำนวน 40,232 ล้านบาท คิดเป็น 3.2 เท่า และเมื่อเทียบกับ ไตรมาส 3/2561 จำนวน 22,993 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจำนวน 29,580 ล้านบาท คิดเป็น 1.3 เท่า
– ธุรกิจเลิกประกอบกิจการแบ่งตามช่วงทุน โดยช่วงทุนที่มีจำนวนรายธุรกิจเลิกประกอบกิจการทั่วประเทศ มากที่สุด ได้แก่ ช่วงทุนไม่เกิน 1 ล้านบาท จำนวน 3,700 ราย คิดเป็นร้อยละ 69.98 รองลงมาคือช่วงทุนมากกว่า 1- 5 ล้านบาท จำนวน 1,305 ราย คิดเป็นร้อยละ 24.68 ลำดับถัดไปคือช่วงทุนมากกว่า 5-100 ล้านบาท จำนวน 250 ราย คิดเป็นร้อยละ 4.73 และช่วงทุนมากกว่า 100 ล้านบาท มีจำนวน 32 ราย คิดเป็นร้อยละ 0.61
– ธุรกิจเลิกสะสม จำนวนธุรกิจเลิกสะสมตั้งแต่เดือน ม.ค. – ก.ย. 62 มีจำนวน 11,954 ราย เพิ่มขึ้นจำนวน 338 ราย คิดเป็นร้อยละ 3 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา (ม.ค. – ก.ย. 61) จำนวน 11,616 ราย มูลค่าทุน จดทะเบียนธุรกิจเลิกสะสมตั้งแต่เดือน ม.ค. – ก.ย. 62 มีจำนวน 74,909 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 12,588 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 20 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกับของปีที่ผ่านมา (ม.ค. – ก.ย. 61) จำนวน 62,321 ล้านบาท
ธุรกิจดำเนินกิจการอยู่ ณ เดือนกันยายน
– ธุรกิจดำเนินกิจการอยู่ทั้งสิ้น (ณ วันที่ 30 ก.ย. 62) ธุรกิจที่ยังคงดำเนินกิจการอยู่ทั่วประเทศ จำนวน743,073 ราย มูลค่าทุน 18 ล้านล้านบาท จำแนกเป็นห้างหุ้นส่วนจำกัด / ห้างหุ้นส่วนสามัญนิติบุคคล จำนวน 183,862 ราย คิดเป็นร้อยละ 24.74 บริษัทจำกัด จำนวน 557,955 ราย คิดเป็นร้อยละ 75.09 และบริษัทมหาชนจำกัด จำนวน 1,256 ราย คิดเป็นร้อยละ 0.17 แนวโน้มการจัดตั้งธุรกิจ
– ธุรกิจดำเนินกิจการอยู่แบ่งตามช่วงทุน ธุรกิจส่วนใหญ่มีช่วงทุนไม่เกิน 1 ล้านบาท จำนวน 440,101 ราย คิดเป็นร้อยละ 59.23 รวมมูลค่าทุน 0.39 ล้านล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 2.17 รองลงมา คือ ช่วงทุนมากกว่า 1-5 ล้านบาท จำนวน 217,186 ราย คิดเป็นร้อยละ 29.23 รวมมูลค่าทุน 0.71 ล้านล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 3.94 รองลงมา คือ ช่วงทุนมากกว่า 5-100 ล้านบาท จำนวน 70,444 ราย คิดเป็นร้อยละ 9.48 รวมมูลค่าทุน 1.91 ล้านล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 10.61 และช่วงทุนมากกว่า 100 ล้านบาท จำนวน 15,342 ราย คิดเป็นร้อยละ 2.06 รวมมูลค่าทุน 14.99 ล้านล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 83.28 ตามลำดับ
แนวโน้มการจัดตั้งธุรกิจ
เมื่อประเมินจากสถานการณ์การจดทะเบียนและสภาพเศรษฐกิจ รวมถึงแนวโน้มการจดทะเบียนจัดตั้ง ตามฤดูกาล (seasonal trend) จึงคาดการณ์ว่าสถานการณ์การจดทะเบียนจัดตั้งในไตรมาสสุดท้ายของปีนี้ (ไตรมาส 4 ปี 2562) จะใกล้เคียงกับไตรมาสเดียวกันของปีที่ผ่านมา โดยมีแนวโน้มการจดทะเบียนในไตรมาสสุดท้ายของปีลดลงตามแนวโน้มฤดูกาลในช่วงสิ้นปี
การลงทุนประกอบธุรกิจในไทยภายใต้กฎหมายต่างด้าว
เดือนกันยายน
– เดือนกันยายน 2562 มีการอนุญาตให้คนต่างชาติประกอบธุรกิจทั้งสิ้น 48 ราย แบ่งเป็นใบอนุญาตประกอบธุรกิจ 18 ราย และหนังสือรับรองประกอบธุรกิจ 30 ราย โดยมีเม็ดเงินลงทุนทั้งสิ้น 17,594 ล้านบาท
– นักลงทุนต่างชาติที่เข้ามาลงทุนในไทยมากที่สุด ได้แก่ ญี่ปุ่น จำนวน 15 ราย เงินลงทุนกว่า 15,410 ล้านบาท รองลงมา ได้แก่ สิงคโปร์ จำนวน 7 ราย เงินลงทุน 307 ล้านบาท และจีน 6 ราย เงินลงทุน 718 ล้านบาท
– การเปรียบเทียบการลงทุนรายเดือน เมื่อเปรียบเทียบการเข้ามาลงทุนของชาวต่างชาติในเดือนกันยายน กับเดือนสิงหาคม 2562 ที่ผ่านมา ปรากฏว่า จำนวนธุรกิจที่คนต่างชาติเข้ามาลงทุนลดลง 1 ราย หรือร้อยละ 2 ในขณะที่เงินลงทุนลดลง 1,276 ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 7
ไตรมาส 3/2562
– เดือนมกราคม -กันยายน 2562 คนต่างด้าวได้รับอนุญาตให้ประกอบธุรกิจ จำนวน 448 ราย มีเงินลงทุนทั้งสิ้น 101,579 ล้านบาท และเมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ปรากฏว่าจำนวนธุรกิจที่ได้รับอนุญาต ลดลง 106 ราย (19%) ขณะที่เงินลงทุนเพิ่มขึ้น 28,680 ล้านบาท (39%) เนื่องจากใน ปี 62 มีต่างชาติลงทุนประกอบ
ธุรกิจที่ต้องใช้เงินลงทุนสูง อาทิ บริการออกแบบทางวิศวกรรม และบริหารจัดการโครงการปลดประจำการเรือสำหรับผลิตและเก็บปิโตรเลียม บริการออกแบบ จัดหา ก่อสร้าง ติดตั้งและทดสอบเครื่องมือและอุปกรณ์สำหรับโครงการก่อสร้างโรงงานผลิตเม็ดพลาสติก เป็นต้น
ที่มา : กองข้อมูลธุรกิจ
ติดตามข่าวสารจาก The Thaiger ได้ทางเฟซบุ๊ก.สังคม/เศรษฐกิจ
‘บ้านดีมีดาวน์’ คึกคัก ลงทะเบียนวันแรก 4 หมื่นราย

บ้านดีมีดาวน์ – ข่าวทำเนียบรัฐบาล รายงาน นายลวรณ แสงสนิท ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง ในฐานะโฆษกกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า การเปิดลงทะเบียน “โครงการบ้านดีมีดาวน์” ในวันแรก ระบบมีความพร้อมในการรองรับการลงทะเบียนผ่าน www.บ้านดีมีดาวน์.com เป็นอย่างดี
ณ เวลา 13.00 น. มีผู้ลงทะเบียนแล้วจำนวน 40,906 ราย ซึ่งผู้ที่ลงทะเบียนแล้วระบบจะใช้เวลาตรวจสอบรอบแรก 3 วันทำการ และจะได้รับ SMS แจ้งผลการตรวจสอบคุณสมบัติในรอบแรกว่าได้เป็นผู้เข้าร่วมโครงการหรือไม่ และหากเป็นผู้ที่ผ่านการตรวจสอบสามารถนำ SMS ดังกล่าวไปแสดงต่อสถาบันการเงินที่เข้าร่วมโครงการเพื่อแสดงตนว่าเป็นผู้เข้าร่วมโครงการได้ ในส่วนของการกรอกข้อมูลหน้าเว็บไซต์ที่ลงทะเบียนมีเพียงข้อมูลเบื้องต้น ได้แก่ เลขประจำตัว 13 หลัก ชื่อ-สกุล ว/ด/ป เกิด รหัสหลังบัตรประชาชน หมายเลขโทรศัพท์มือถือและ E-mail
โฆษกกระทรวงการคลังกล่าวอีกว่า กระทรวงการคลังกำหนดเวลาในการเปิดรับลงทะเบียนตั้งแต่เวลา 8.00 – 18.00 น. ของทุกวัน ตั้งแต่วันนี้ 11 ธันวาคม 2562 – 31 มีนาคม 2563 และในช่วงแรกจะจำกัดจำนวนผู้ลงทะเบียน 500,000 ราย เพื่อประโยชน์ในการประเมินผลของโครงการ ในส่วนของคุณสมบัติของผู้ที่จะได้รับสิทธิยังคงเดิม คือ
1) เป็นผู้มีสัญชาติไทย
2) เป็นผู้อยู่ในระบบฐานภาษีกรมสรรพากรและมีเงินได้ในปีภาษี 2561 ไม่เกิน 1,200,000 บาท
3) เป็นผู้ที่มีพร้อมเพย์ที่ผูกกับเลขประจำตัวประชาชน 13 หลัก โดยหลังลงทะเบียนระบบจะตรวจสอบคุณสมบัติรอบแรกตามข้อ 1) – 3) และแจ้งผลการตรวจสอบทาง SMS
และ 4) เป็นผู้ที่ขอสินเชื่อตามหลักเกณฑ์ที่กระทรวงการคลังกำหนด ได้แก่ 4.1) เป็นผู้ที่ได้รับอนุมัติสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยและจดจำนองแล้วเสร็จตั้งแต่วันที่ 27 พฤศจิกายน 2562 ถึง31 มีนาคม 2563 4.2) เป็นการซื้อที่อยู่อาศัยใหม่ที่สร้างเสร็จแล้วจากผู้ประกอบการที่เป็นผู้จัดสรรตามกฎหมายและ 4.3) ไม่ใช่การกู้เพื่อ refinance โดยสามารถขอสินเชื่อได้จากสถาบันการเงินที่เข้าร่วมโครงการตามรายชื่อสถาบันการเงินที่แสดงอยู่บนเว็บไซต์ www.บ้านดีมีดาวน์.com โดยผู้ที่ผ่านคุณสมบัติ 100,000คนแรก จะเป็นผู้ได้รับสิทธิจะได้รับเงินสนับสนุน 50,000 บาท
โครงการบ้านดีมีดาวน์เป็นโครงการที่จะช่วยผู้ที่อยู่ระหว่างตัดสินใจซื้อบ้านให้สามารถตัดสินใจซื้อบ้านได้เร็วขึ้น โดยโครงการนี้เป็นหนึ่งในมาตรการของรัฐที่สนับสนุนให้คนไทยมีที่อยู่อาศัยเป็นของตนเอง อีกทั้งเป็นการช่วยกระตุ้นภาคอสังหาริมทรัพย์โดยคาดว่าโครงการนี้จะช่วยระบาย stock ของที่อยู่อาศัยที่สร้างเสร็จแล้วและใกล้แล้วเสร็จที่ปัจจุบันมีอยู่ประมาณ 270,000 ยูนิต เพื่อก่อให้เกิดการลงทุนใหม่และส่งผลดีต่อเนื่องไปยังธุรกิจเกี่ยวเนื่อง (Supply Chain) ซึ่งจะส่งผลให้เกิดการขยายตัวทางเศรษฐกิจของประเทศต่อไป
ติดตามข่าวสารจาก The Thaiger ได้ทางเฟซบุ๊ก.
สังคม/เศรษฐกิจ
อ่านเลย สรุปภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง ฉบับใหม่ เริ่มจัดเก็บ 1 มกรา 2563

อ่านเลย ภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง ฉบับใหม่ เริ่มจัดเก็บ 1 มกรา 2563
ภาษีที่ดินใหม่ – ประชาชนไทยควรรู้ พ.ร.บ.ภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง พ.ศ.2562 ฉบับใหม่นี้ จะมาใช้แทน พ.ร.บ.ภาษีโรงเรือนและที่ดิน พ.ศ.2475 และพระราชบัญญัติภาษีบำรุง ท้องที่ พ.ศ.2508 จะเริ่มจัดเก็บ 1 มกราคม 2563 นี้ โดยสาระสำคัญของภาษีที่ดินใหม่มีอะไรบ้าง ไปดูกันเลย
ฐานภาษี : มูลค่าของทีดินและสิ่งปลูกสร้าง
ผู้เสียภาษี : เจ้าของที่ดินหรือสิ่งปลูกสร้าง, เจ้าของห้องชุด, ผู้ครอบครองทรัพย์สินหรือทำประโยชน์ในทรัพย์สินของรัฐ (ที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง)
ผู้จัดเก็บภาษี : เทศบาล, อบต, กรุงเทพมหานคร, เมืองพัทยา
การทำประโยชน์ในที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง
เกษตรกรรม : ทำนา ทำไร่ ทำสวน เลี้ยงสัตว์/สัตว์น้ำ และกิจการอื่นตามที่ประกาศกำหนด
การจัดเก็บ
- ดูตามสภาพข้อเท็จจริง
- ทำเกษตรกรรมไม่เต็มพื้นที่ เสียภาษีตามสัดส่วนการใช้ประโยชน์
- รวมถึงที่ดินและสิ่งปลูกสร้างต่อเนื่องที่ใช้สำหรับเกษตรกรรม
ที่อยู่อาศัย : บ้านหลังอื่น ๆ เจ้าของบ้านมีชื่อในโฉนด แต่ไม่มีชื่อในทะเบียนบ้าน, ที่ดินหรือสิ่งปลูกสร้างที่เจ้าของใช้อยู่อาศัย แบ่งเป็นบ้านหลังหลัก เจ้าของบ้านและที่ดิน/เจ้าของเฉพาะตัวบ้านมีชื่อในเอกสารและแสดงกรรมสิทธิ์ทะเบียนบ้าน (ไม่จำเป็นต้องเป็นเจ้าของบ้าน/เจ้าของคนใดคนหนึ่งมีชื่อในทะเบียนบ้าน)
ที่ว่างเปล่า/ไม่ทำประโยชน์ตามควรแก่สภาพ : ทิ้งที่ดินไว้ว่างเปล่าหรือไม่ทำประโยชน์ในปีก่อนหน้า
อื่น ๆ : พาณิชยกรรม อุตสาหกรรม โรงแรม อพาร์ทเม้นท์ บ้านให้เช่า อื่น ๆ
อัตราภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง
เกษตรกรรม อัตราเพดานภาษี 0.15% บุคคลธรรมดา ได้รับยกเว้น อปท. ละไม่เกิน 50 ล้านบาท
อัตราที่จัดเก็บ มูลค่า ต่อ %
- 0-75 ล้านบาท เก็บ 0.01%
- 75-100 ล้านบาท เก็บ 0.03%
- 100-500 ล้านบาท เก็บ 0.05%
- 500-1,000 ล้านบาท เก็บ 0.07%
- 1,000 ขึ้นไป ล้านบาท เก็บ 0.1%
ภาระภาษี (บุคคลธรรมดา) มูลค่า ต่อ บาท
50 ล้านบาท เก็บ 0 บาท
100 ล้านบาท เก็บ 5000 บาท
200 ล้านลาท เก็บ 40,000 บาท
บ้านพักอาศัย อัตราเพดาน 0.3% อัตราจัดเก็บ
มูลค่าล้านบาท | บ้าน (บ้านหลังหลัก) | บ้าน+ที่ดิน (บ้านหลังหลัก) | บ้านหลังอื่น |
0-10 | ยกเว้นภาษี | ยกเว้นภาษี | 0.02 |
10-50 | 0.02 | ยกเว้นภาษี | 0.02 |
50-75 | 0.03 | 0.03 | 0.03 |
75-100 | 0.05 | 0.05 | 0.05 |
100 ขึ้นไป | 0.1 | 0.1 | 0.1 |
ภาระภาษี
มูลค่าล้านบาท | บ้านหลังหลัก ยกเว้น 50 ล้านบาท | บ้านหลังอื่นๆ |
50 | 0 | 10,000 |
100 | 20,000 | 30,000 |
200 | 120,000 | 130,000 |
อื่น ๆ ที่รกร้างว่างเปล่า อัตราเพดาน 1.2%
อัตราที่จัดเก็บ มูลค่า ต่อ อัตรา%
- 0-50 ล้านบาท เก็บ 0.3%
- 50-200 ล้านบาท เก็บ 0.4%
- 200-1,000 ล้านบาท เก็บ 0.5%
- 1,000-5,000 ล้านบาท เก็บ 0.6%
- 5,000 ล้านบาทขึ้นไป เก็บ 0.7%
ภาระภาษี
50 ล้านบาท เก็บ 150,000 บาท
100 ล้านบาท เก็บ 350,000 บาท
200 ล้านบาท เก็บ 2,250,000 บาท
1,000 ล้านบาท เก็บ 4,750,000 บาท
ทั้งนี้เพิ่มอัตรา 0.3% ทุก 3 ปี แต่อัตราภาษีรวมไม่เกิน 3%
*** เสียภาษีภายใน 30 เม.ย. ของทุกปี ***
สำหรับใครที่สงสัยอยู่คอนโดต้องเสียภาษียังไงคลิกอ่านได้ที่โพสต์ด้านล่างนี้เลย
รวมคำถามเกี่ยวกับการลงทะเบียนตอบรับ "ภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง" มีผลบังคับใช้วันที่ 1 มกราคม พ.ศ.2563…
Posted by ClubSunday Condo Story on Saturday, December 7, 2019
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ : สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง กระทรวงการคลัง
อ่าน พ.ร.บ.ภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง พ.ศ.2562 ฉบับเต็ม คลิก
ติดตามข่าวสารจาก The Thaiger ได้ทางเฟซบุ๊ก.
สังคม/เศรษฐกิจ
เปิดขั้นตอนการรับสิทธิ์โครงการ ‘บ้านดีมีดาวน์’ ช่วยผ่อน 5 หมื่น 11 ธ.ค. ลงทะเบียนวันแรก

เปิดขั้นตอนการรับสิทธิ์โครงการ ‘บ้านดีมีดาวน์’ ช่วยผ่อน 5 หมื่น 11 ธ.ค. ลงทะเบียนวันแรก
ลงทะเบียนบ้านดีมีดาวน์ – จากกรณีที่ประชุมคณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบในหลักการมาตรการ/โครงการ ‘บ้านดีมีดาวน์’ ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ และอนุมัติงบกลาง รายการสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น จำนวน 5,000 ล้านบาท เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายสำหรับมาตรการลดภาระการซื้อที่อยู่อาศัย ด้วยการสนับสนุนเงินดาวน์ 50,000 บาท ต่อราย ทั้งหมด 100,000 สิทธิ เพื่อสนับสนุนให้ประชาชนมีบ้านเป็นของตัวเอง รวมถึงเป็นการลดภาระค่าใช้จ่ายในการดาวน์บ้านให้กับประชาชน มาตรการดังกล่าว ช่วยเร่งให้ประชาชนที่อยู่ระหว่างการตัดสินใจจะซื้อบ้าน สามารถตัดสินใจได้เร็วขึ้น และช่วยกระตุ้นการลงทุนใหม่ของภาคอสังหาริมทรัพย์ ซึ่งจะส่งผลดีต่อเนื่องไปยังห่วงโซ่อุปทาน ของภาคอสังหาริมทรัพย์และเศรษฐกิจไทยในภาพรวม
ล่าสุด วันที่ 11 ธ.ค. เป็นวันแรกที่เปิดให้ประชาชนเปิดลงทะเบียนโครงการบ้านดีมีดาวน์ เป็นวันแรก สามารถลงทะเบียนได้ที่ บ้านดีมีดาวน์.com
** โครงการนี้สำหรับผู้ยื่นแบบแสดงรายได้ปีภาษี 2561 กับกรมสรรพากร เท่านั้น
** ลงทะเบียนตั้งแต่วันที่ 11 ธ.ค. 62 – 31 มี.ค. 63 เวลา 8.00น. – 18.00น. ไม่เกิน 5 แสนราย
คุณสมบัติของผู้เข้าร่วมโครงการ
- สัญชาติไทย
- เป็นผู้อยู่ในระบบฐานภาษีอากรของกรมสรรพากรที่มีเงินพึงได้ประเมินในปี 2561 ไม่เกิน 1,200,000 บาท ต่อปี
- เป็นผู้กู้หรือผู้กู้หลักกับสถาบันการเงินที่เข้าร่วมโครงการ
- เป็นการยื่นกู้ใหม่ (ไม่ใช่การ refinance)
- การขอสินเชื่อ ต้องเป็นสินเชื่อที่อยู่อาศัย และเป็นที่อยู่อาศัยที่สร้างแล้วเสร็จ ไม่รวมบ้านมือสองและทรัพย์สินรอการขายของกรมบังคับคดี
- ซื้อจากผู้ประกอบการที่เป็นผู้จัดสรรตามกฎหมายเท่านั้น
- ได้รับอนุมัติสินเชื่อและจดจำนองและทำนิติกรรมอื่นๆ แล้วเสร็จตั้งแต่วันที่ 27 พ.ย. 2562 แต่ไม่เกินวันที่ 31 มี.ค. 2563
เงื่อนไขการได้รับสิทธิ์
- มีคุณสมบัติครบตามที่โครงการกำหนด
- เป็นผู้ที่ลงทะเบียนและได้ผ่านการตรวจสอบสิทธิจากโครงการถูกต้องครบถ้วน โดยพิจารณาดังนี้
- เมื่อโครงการได้รับข้อมูลจากสถาบันการเงินที่ท่านได้ทำธุรกรรมด้วย
- ในกรณีที่สถาบันการเงินส่งข้อมูลมาวันเดียวกัน จะพิจารณาจากวันที่จดจำนอง
- ในกรณีที่มีผู้เข้าข่ายได้รับสิทธิเกิน 100,000 ราย หากสถาบันการเงินส่งข้อมูลมาในวันเดียวกัน และการจดจำนองเป็นวันเดียวกัน จะพิจารณาให้สิทธิจากผู้ที่ลงทะเบียนบนเว็บไซต์ก่อน
ขั้นตอนการรับสิทธิ์โครงการ บ้านดีมีดาวน์
- ลงทะเบียนระหว่างวันที่ 11 ธ.ค. 2562 – 31 มี.ค. 2563 เวลา 08.00 น. – 18.00 น. โควต้า 5 แสนราย
- จะได้รับ e-mail แจ้งผลการตรวจรอบแรกใน 3 วัน
- สถาบันการเงินพิจารณาคำกู้ตามกระบวนการของธนาคาร และส่งข้อมูลของผู้กู้ที่ประสงค์เข้าร่วมโครงการให้กับระบบ
- ระบบตรวจสอบข้อมูลที่ได้จากสถาบันการเงิน และแจ้งผลการตรวจสอบ
- ธอส. ได้รับข้อมูลผู้ได้รับสิทธิ์และโอนเงิน 5 หมื่นบาท เข้าบัญชีที่สมัครพร้อมเพย์ด้วยเลขประจำตัวประชาชน 13 หลักของผู้กู้
- ผู้ลงทะเบียนได้รับเงินโอน

ภาพจาก: บ้านดีมีดาวน์.com
ติดตามข่าวสารจาก The Thaiger ได้ทางเฟซบุ๊ก.
- ข่าว14 hours ago
‘100เดียวเที่ยวทั่วไทย’ ลงทะเบียน 11-12 ธ.ค. วิธีลงทะเบียน-รายชื่อ 4 หมื่นของขวัญ
- กีฬา3 days ago
8 ธ.ค. โปรแกรมถ่ายทอดสด “ซีเกมส์ 2019” พร้อมสรุปเหรียญล่าสุด
- กีฬา10 hours ago
11 ธ.ค. สรุปตารางเหรียญ “ซีเกมส์” 2019 วันสุดท้าย – ไทย อันดับที่ 3 อย่างไม่เป็นทางการ
- กีฬา2 days ago
9 ธ.ค. ถ่ายทอดสด “ซีเกมส์” ครั้งที่ 30 รอบบ่าย – DOTA2 ซีเกมส์ เทควันโด มวย ฯลฯ
- กีฬา1 day ago
10 ธ.ค. สรุปเหรียญ “ซีเกมส์” 2019 ล่าสุด พร้อมโปรแกรมถ่ายทอดสด – ไทย ขึ้นมาอันดับที่ 2
- บันเทิง3 days ago
9 ธ.ค. ถ่ายทอดสด Miss Universe 2019 – ช่องทางรับชม
- ทีมชาติไทย3 days ago
8 ธ.ค. ถ่ายทอดสด ฟุตบอลหญิงซีเกมส์ รอบชิงฯ ไทย พบ เวียดนาม – ลิงค์ดูบอล ช่อง 5HD
- พรีเมียร์ลีก4 days ago
จัดเต็มทั้งคู่! 11 ตัวจริง แมนซิตี้ พบ แมนยู – พร้อมช่องทางรับชม