มติ กกต ส่งศาลรัฐธรรมนูญ วินิจฉัยยุบพรรคอนาคตใหม่ ปมกู้เงินธนาธร 191 ล้าน

ยุบพรรคอนาคตใหม่ – วันที่ 11 ธันวาคม คณะกรรมการการเลือกตั้ง รายงาน ที่ประชุมคณะกรรมการการเลือกตั้ง ได้พิจารณาข้อเท็จจริงและพยานหลักฐาน พร้อมทั้งความเห็นของนายทะเบียนพรรคการเมือง กรณีพรรคอนาคตใหม่กู้ยืมเงินจากนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ แล้ว

ที่ประชุมเห็นว่าการที่พรรคอนาคตใหม่กู้ยืมเงินจากนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ เป็นเงินจำนวน 191,200,000 บาท เป็นการกระทำอันเป็นการฝ่าฝืน มาตรา 72 แห่งพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ. 2560 จึงมีมติด้วยคะแนนเสียงข้างมาก ให้ยื่นคำร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญเพื่อพิจารณายุบพรรคอนาคตใหม่ตามมาตรา 92 วรรคหนึ่ง (3) ประกอบมาตรา 93 แห่งพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ. 2560

ทั้งนี้กฎหมายที่กกต ยกมาประกอบคือ กฎหมายพรรคการเมืองมาตรา 72 ระบุไว้ว่า “ห้ามมิให้พรรคการเมืองและผู้ดำรงตำแหน่งในพรรคการเมืองบริจาคเงิน ทรัพย์สิน หรือประโยชน์อื่นใดโดยรู่หรือควรจะรู้ว่าได้มาโดยไม่ชอบด้วยกฎหมายหรือมีเหตุอันควรสงสัยว่า มีแหล่งที่มาโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย” อันเป็นเหตุต้องให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยยุบพรรค ตามมาตรา 92(3) ของกฎหมายพรรคการเมือง

โดยก่อนหน้านี้ กกต ได้ออกแถลงการณ์ชี้แจงเรื่อง การพิจารณาการกู้ยืมเงินของพรรคอนาคตใหม่ ไว้ดังนี้

“ตามที่ นางสาวพรรณิการ์ วานิช โฆษกพรรคอนาคตใหม่ ได้แถลงข่าวต่อสื่อมวลชนว่าคณะกรรมการการเลือกตั้งพิจารณาการกู้เงินของพรรคอนาคตใหม่เป็นไปโดยมีธงทางการเมืองหรือมีใบสั่ง ทางการเมือง หรือไม่ เนื่องจากมีเอกสารความเห็นของบุคคลระดับสูงของสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง ได้ชี้นำในสำนวนไว้แล้วว่า นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ กระทำความความผิดตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ. 2560 โดยความเห็นนี้มีมาตั้งแต่วันที่ 20 กันยายน 2562 แต่คณะกรรมการการเลือกตั้งมาเรียกพยานหลักฐานในเดือนตุลาคม 2562 นั้น

ขอเรียนว่า การแถลงข่าวข้างต้นคลาดเคลื่อนไม่ตรงกับความเป็นจริง ในการนี้สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งขอให้ข้อมูลการดำเนินการเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าว มีขั้นตอนการพิจารณา ตามกฎหมายมาเป็นลำดับ ดังนี้

1. ตามระเบียบคณะกรรมการการเลือกตั้งว่าด้วยการสืบสวน การไต่สวน และการวินิจฉัยชี้ขาด พ.ศ. 2562 เลขาธิการคณะกรรมการการเลือกตั้งต้องมีความเห็นในสำนวนการสืบสวนเพื่อเสนอความเห็น ต่อคณะกรรมการการเลือกตั้ง ซึ่งกรณีนี้เลขาธิการคณะกรรมการการเลือกตั้งได้มีความเห็น เมื่อวันที่ 20 กันยายน 2562 ตามที่ปรากฏเป็นข่าวข้างต้น โดยการเสนอความเห็นในสำนวนเป็นไปตามขั้นตอน ของระเบียบมิใช่การชี้นำในสานวนการสืบสวนแต่อย่างใด

2. เมื่อวันที่ 25 กันยายน 2562 เลขาธิการคณะกรรมการการเลือกตั้งได้แจ้งต่อสื่อมวลชนว่า กรณีพรรคอนาคตใหม่กู้ยืมเงินอยู่ในขั้นตอนของคณะอนุกรรมการวินิจฉัยคำร้องและปัญหาหรือข้อโต้แย้ง เพื่อพิจารณาและมีความเห็นเสนอต่อคณะกรรมการการเลือกตั้งตามระเบียบต่อไป

3. ในการตอบคาถามผู้สื่อข่าวเมื่อวันที่ 11 ตุลาคม 2562 และวันที่ 23 ตุลาคม 2562 ประธานกรรมการการเลือกตั้งได้ให้ข้อเท็จจริงต่อสื่อมวลชนว่าเรื่องดังกล่าวอยู่ในระหว่างการพิจารณา ของคณะอนุกรรมการวินิจฉัยคำร้องและปัญหาหรือข้อโต้แย้ง ซึ่งเป็นไปตามขั้นตอนของระเบียบและมิได้ มีการเร่งรัดแต่อย่างใด โดยคณะอนุกรรมการ ฯ ได้ขอเอกสารจากพรรคอนาคตใหม่เพื่อประกอบการพิจารณา แต่พรรคอนาคตใหม่ไม่ได้จัดส่งเอกสารตามที่ขอ คณะอนุกรรมการ ฯ จึงได้รวบรวมพยานหลักฐานเท่าที่มีอยู่เพื่อจัดทำความเห็นเสนอต่อคณะกรรมการการเลือกตั้งพิจารณาตามระเบียบต่อไป

4. ภายหลังจากที่คณะอนุกรรมการวินิจฉัยคำร้องและปัญหาหรือข้อโต้แย้ง ได้พิจารณาและเสนอความเห็นต่อคณะกรรมการการเลือกตั้งแล้ว คณะกรรมการการเลือกตั้ง ได้มีมติเมื่อวันจันทร์ที่ 18 พฤศจิกายน 2562 ให้หมายเรียกขอเอกสารที่คณะอนุกรรมการวินิจฉัยคำร้อง และปัญหาหรือข้อโต้แย้งเคยขอจากพรรคอนาคตใหม่ แต่พรรคอนาคตใหม่ได้จัดส่งเอกสารที่ขอให้บางส่วนและขอขยายเวลาการจัดส่งเอกสารที่ยังไม่ได้จัดส่งออกไปอีก 120 วัน

5. คณะกรรมการการเลือกตั้งได้มีมติเมื่อวันอังคารที่ 26 พฤศจิกายน 2562 ให้หมายเรียก ขอเอกสารที่พรรคอนาคตใหม่ยังไม่ได้จัดส่งอีกครั้ง โดยให้พรรคอนาคตใหม่จัดส่งเอกสารภายในวันที่ 2 ธันวาคม 2562 หากพรรคอนาคตใหม่ไม่จัดส่งเอกสารภายในกำหนดเวลาดังกล่าว ถือว่าพรรคอนาคตใหม่ ไม่ติดใจที่จะส่งเอกสารตามที่คณะกรรมการการเลือกตั้งร้องขอ และจะพิจารณาเอกสารเท่าที่มีอยู่

ดังนั้น การดำเนินการของคณะกรรมการการเลือกตั้งเกี่ยวกับกรณีดังกล่าว เป็นไปตามกฎหมายและระเบียบที่เกี่ยวข้องทุกขั้นตอน และให้โอกาสผู้ที่เกี่ยวข้องตามควรแก่กรณี ซึ่งคณะกรรมการการเลือกตั้ง ได้ให้ข้อมูลเกี่ยวกับการดำเนินการในเรื่องนี้มาเป็นลำดับปรากฏตามเอกสารแนบนี้ โดยคณะกรรมการการเลือกตั้งมิได้มีความเห็นตั้งแต่วันที่ 20 กันยายน 2562 ตามที่มีการกล่าวอ้างและไม่ได้มีเหตุจูงใจทางการเมือง แต่อย่างใด”

ภาพนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจจาก: พรรคอนาคตใหม่

ศรีสุวรรณโต้วิษณุไม่ใช่ศาลกฎหมายต้องมีหลักเดียว

ที่ดินปารีณา – วันที่ 11 ธ.ค. 53 รายงานการประชุมสภาผู้แทนราษฎรครั้งที่ 1/2554 เมื่อวันที่ 14 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2553 ที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎรครั้งที่ 1/2554 เมื่อวันที่ 22 กรกฎาคม พ.ศ. 2553 ที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร ที่ดินส. ป. ก. ตอนที่นำออกมาแล้วไม่ผิดเพราะถือครองไม่ได้ถือครอง แต่ก็ไม่ทันรู้ตัวเมื่อได้รับกฏห ายแต่ละเรื่องไม่ได้ยึดหลัก เดียวกันหมด ” นั้น

สมาคมผู้พิทักษ์สิทธิมนุษยชนแห่งสหัสวรรษใหม่ที่มีชื่อเสียงกล่าวถึงและยืนยันในหลักการทางกฎหมายว่า“ กฎหมายที่มีอยู่มากมาย” ไม่มีการเลือกปฏิบัติ แต่จะมีนักกฎหมายที่เป็นไม้หลัก การสัมภาษณ์บุคคลและคำให้สัมภาษณ์ของน. ส. ปารีนาเอ็กซ์คลูซีฟว่ากันว่าเป็นส่วนหนึ่งของการยึดครองดินแดนรัฐทั้ง ภ.บ.ท. 5 และส. . ก ที่อยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติป่าสงวนแห่งชาติ 1069 (พ.ศ. 2527) ออกมาเพื่อความปลอดภัยในประเทศ ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่หกเดือนถึงห้าปีหรือปรับช่วงห้าพันบาทถึงห้าหมื่นบาทหรือทั้งจำทั้งปรับมีคำพิพากษาฎีกาอยู่มากมายเช่น 747/2550

รองประธานฝ่ายกฎหมายที่ต้องปฏิบัติตนเป็นหลักของเมืองใหญ่ต้องใช้กฎหมายที่ไม่อนุญาตให้มีการเยียวยาผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย แต่อย่างใดเพราะพวกเขาเป็นคนของรัฐบาลถึงขนาดรับทราบมาว่า“ กฎหมาย แต่ละเรื่องไม่ได้ยึดหลักเดียวกันหมด”

ด้วยเหตุดังกล่าวสมาคมฯ จะพิสูจน์ให้เห็นว่ากฎหมายหลักมีความสำคัญอย่างไรโดยได้รับการแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นในประเทศไทย ทางผ่านต่อน. ส. ปารีนาและส. ส. และ ส.ว. อื่น ๆ ที่ยึดครองดินแดนส. ป. ก. ไว้โดยไม่มีสิทธิตามกฎหมายต่อไปในวันศุกร์ที่ 13 ธ.ค. 62 เวลา 10.30 น. ณ สำนักงาน ส.ป.ก. ถนนราชดำเนินนอกเขตพระนครกทม.
ประกาศมาวันที่ 11 ธันวาคม 2562

ศรีสุวรรณเดินหน้า เตรียมร้อง โรงแรมรีสอร์ทเขาค้อรุกป่าสงวนฯ/อุทยานฯ

นายศรีสุวรรณ จรรยา นายกสมาคมต่อต้านสภาวะโลกร้อน รายงาน หลังจากนายประสม ประคุณสุขใจ เจ้าของเมาเทนพาร์ครีสอร์ท ได้สร้างความฮือฮาโดยการขึ้นป้ายยักษ์หน้ารีสอร์ทของตน ความว่า “ลุงตู่ บิ๊กป็อก ลูกท็อป” ปล่อยให้โรงแรม-รีสอร์ทเถื่อนและบุกรุกป่าเขาค้อผุดเต็มพื้นที่เกือบ 1000 แห่ง พร้อมจี้ให้เร่งบังคับใช้กฎหมายโดยเร็วนั้น

นายศรีสุวรรณ ระบุว่า ประเด็นปัญหาดังกล่าวชี้ให้เห็นถึงการละเลยเพิกเฉยของหน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง ทั้งในระดับจังหวัดเพชรบูรณ์ และส่วนกลาง สมาคมฯจึงต้องลงพื้นที่อ.เขาค้อ จ.เพชรบูรณ์ เพื่อรับฟังข้อมูลพร้อมรับเรื่องร้องเรียนและรับเอกสารต่างๆจากนายประสมและชาวบ้านในพื้นที่

หลังจากนายศรีสุวรรณได้รับเอกสารจากผู้ประกอบการโรงแรม-รีสอร์ทที่ถูกกฎหมายบนเขาค้อแล้ว ก็จะเร่งรีบนำเรื่องนี้ไปดำเนินการยื่นให้หน่วยในส่วนกลาง ไม่ว่าจะเป็น รมว.ทส. รมว.มท.,อธิบดีกรมป่าไม้, อธิบดีกรมปกครอง ดำเนินการเรื่องนี้เป็นการด่วน เพราะมีกรณี “ปารีณาโมเดล” เกิดขึ้นแล้ว เพราะฉะนั้นเรื่องนี้ต้องไม่มีสองมาตรฐาน การเอาพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ-อุทยานแห่งชาติ ไปเอื้อให้กลุ่มทุนสร้างรีสอร์ทอย่างผิดกฎหมาย ณ วันนี้มีแล้วกว่า 600 รีสอร์ทเป็นเรื่องที่รับไม่ได้

ทั้งนี้ เมื่อตรวจสอบข้อมูลเบื้องต้นรีสอร์ทเหล่านี้ เข้าข่ายความผิดตามพ.ร.บ.ป่าสงวนแห่งชาติ 2507 พ.ร.บ.อุทยานแห่งชาติ 2562 และ พ.ร.บ.ป่าไม้ 2484 แล้วยังเข้าข่ายความผิดตาม พ.ร.บ.โรงแรม 2547 อีกด้วย ซึ่งเรื่องนี้หน่วยงานภาครัฐในจังหวัดเพชรบูรณ์รับรู้เรื่องนี้โดยตลอดแล้ว เพียงแต่ว่าหลับตาไม่ใช่ข้างเดียวแต่หลับตาทั้งสองข้างทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ ซึ่งเรื่องนี้คงปล่อยให้เป็นเรื่องคาราคาซังแบบนี้ต่อไปไม่ได้ สมาคมฯต้องนำความไปจี้และกระตุ้นให้ หน่วยงานที่มีหน้าที่โดยตรงบังคับใช้กฎหมายอย่างเคร่งครัด ให้เร่งรีบดำเนินการเช่นเดียวกันกับ “ปารีณาโมเดล” ให้เร็วที่สุด หากหน่วยงานเหล่านี้ไม่ดำเนินการอะไรก็จะนำเรื่องขึ้นฟ้องศาล เพื่อเล่นงานหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ที่ทางสมาคมฯและผู้ประกอบการร้องเรียนไป นายศรีสุวรรณ กล่าวในที่สุด