ข่าวการเมือง
บิ๊กตู่ย้ำ ให้ความสำคัญกับการพัฒนาคุณภาพชีวิตคนไทย

นายกรัฐมนตรีย้ำ รัฐบาลให้ความสำคัญกับการพัฒนาคุณภาพชีวิต ประชากรกลุ่มวัยทำงานในทุกด้าน พร้อมสนับสนุนทุกภาคส่วนร่วมสร้างเสริมคนไทยให้มีสุขภาพที่ดี
วันนี้ (12 กันยายน 62) เวลา 09.00 น. ณ ห้องมิราเคิล แกรนด์ บอลรูม ซี โรงแรมมิราเคิลแกรนด์ กรุงเทพฯ พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นประธานพิธีลงนามบันทึกความร่วมมือด้านการส่งเสริมสุขภาพและป้องกันโรค คนวัยทำงานในสถานประกอบการ และเปิดตัวแนวทาง 10 Packages ส่งเสริมสุขภาพและอนามัยสิ่งแวดล้อมในสถานประกอบการ โดยมี พลเอก อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย พลตำรวจเอก อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เข้าร่วมงาน
นายอนุทิน ชาญวีรกุล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวรายงานโดยสรุปว่า รัฐบาลมอบให้กระทรวงสาธารณสุข บูรณาการทำงานร่วมกับหน่วยงานทั้งภาครัฐและเอกชน เพื่อดำเนินด้านการส่งเสริมสุขภาพ ป้องกันโรค ลดพฤติกรรมทางสุขภาพที่ไม่พึงประสงค์ต่อการเกิดโรคเรื้อรัง และโรคจากการประกอบอาชีพ กลุ่มคนวัยทำงานซึ่งเป็นผู้ที่มีบทบาทในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของครอบครัวและประเทศ จึงจำเป็นต้องมีสุขภาพดี รายได้ดี อายุยืนยาว โดยการลงนามครั้งนี้จะช่วยลดความซ้ำซ้อนในการปฏิบัติงาน โดยปรับปรุงสารสนเทศการส่งเสริมสุขภาพและป้องกันโรค ส่งเสริมการใช้ข้อมูลร่วมกันในการวางแผนขับเคลื่อนการดำเนินงาน ซึ่งสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง พัฒนารูปแบบของการส่งเสริมสุขภาพคนวัยทำงาน ด้วยชุดสุขภาพ 10 เรื่อง “ปลอดภัยดี สุขภาพดี งานดี มีความสุข ในสถานประกอบการ” เพื่อให้สถานประกอบการนำไปใช้ออกแบบกิจกรรมส่งเสริมสุขภาพให้วัยทำงานตามสภาพปัญหาทางสุขภาพในแต่ละมิติ และความต้องการของสถานประกอบการ
ในการนี้ นายกรัฐมนตรีเป็นสักขีพยานในพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือด้านการส่งเสริมสุขภาพและป้องกันโรค คนวัยทำงานในสถานประกอบการ และเปิดตัวแนวทาง 10 Packages ส่งเสริมสุขภาพและอนามัยสิ่งแวดล้อมในสถานประกอบการระหว่าง กระทรวงมหาดไทย กระทรวงแรงงาน กระทรวงสาธารณสุข กระทรวงอุตสาหกรรม กรุงเทพมหานคร สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย สมาคมโรงพยาบาลเอกชน
จากนั้น นายกรัฐมนตรีได้กล่าวมอบนโยบายความตอนหนึ่งว่า การมีสุขภาพแข็งแรง เป็นจุดเริ่มต้นที่จะมีชีวิตที่มีความสุข สิ่งสำคัญต้องรู้ว่าสุขภาพ อนามัย การรักษาพยาบาล เป็นสิ่งที่แตกต่างกัน การออกกำลังกายจึงเป็นสิ่งที่สำคัญที่เป็นจุดเริ่มต้นของการมีสุขภาพที่ดี ทั้งนี้ ในหลวงรัชกาลที่ 9 ในหลวงรัชกาลที่ 10 สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี ทรงให้ความสำคัญในเรื่องสุขภาพของราษฎรมาโดยตลอด รัฐบาลจึงได้สืบสานและต่อยอดนำมาเป็นนโยบายหลักในระบบสาธารณสุขของไทย
ทั้งนี้ รัฐบาลมีเป้าหมายสำคัญในการเสริมสร้างให้คนไทยทุกช่วงวัยมีสุขภาวะที่ดี ทั้งด้านกายใจ สติปัญญา และสังคม โดยให้ความสำคัญกับการพัฒนาระบบสาธารณสุขและหลักประกันทางสังคม และการบริการด้านสาธารณสุขที่ครอบคลุมประชากรทุกกลุ่มอย่างเหมาะสม เสมอภาค เพื่อให้คนไทยทุกคนมีสุขภาพแข็งแรง มีความปลอดภัยและสุขอนามัยที่ดีในการทำงาน
ปัจจุบันประเทศไทยมีประชากรวัยทำงานประมาณ 57 ล้านคน ซึ่งเป็นผู้ที่อยู่ในกำลังแรงงาน ถือเป็นกำลังสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจและสังคม สร้างผลผลิตให้แก่ประเทศชาติ ดังนั้น รัฐบาลจึงให้ความสำคัญในการพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชากรกลุ่มนี้ในทุก ๆ ด้าน เริ่มต้นจากการส่งเสริมสุขภาพและการป้องกันโรค เพื่อลดอัตราเจ็บป่วยจากโรคเรื้อรังต่าง ๆ และสนับสนุนให้ทุกภาคส่วนมีส่วนร่วมในการสร้างเสริมคนไทยให้มีสุขภาพที่ดี โดยเฉพาะคนวัยทำงานในสถานประกอบการให้ได้รับการดูแลที่เหมาะสม ทั้งด้านสุขภาพกาย และสุขภาพใจ โดยเฉพาะผู้มีรายได้น้อย สามารถเข้าถึงสวัสดิการได้อย่างทั่วถึงแล้วเท่าเทียม
นายกรัฐมนตรีกล่าวต่อไปว่า การลงนามครั้งนี้เป็นการยืนยันเจตจำนงของความร่วมมือในด้านการส่งเสริมสุขภาพและป้องกันโรคของคนวัยทำงาน ซึ่งเป็นการบูรณาการระหว่างภาครัฐและภาคเอกชนที่จะขับเคลื่อนการดำเนินงานด้านการส่งเสริมสุขภาพและการป้องกันโรค ให้ประชากรวัยทำงานมีความสุข มีคุณภาพชีวิตที่ดี พร้อมทั้งสร้างความรู้ด้านการรักษาสุขภาพ ซึ่งจะช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายทางการแพทย์และสาธารณสุข ช่วยสร้างสถานะทางเศรษฐกิจและการคลัง เพื่อการพัฒนาประเทศให้มีประสิทธิภาพและยั่งยืน เป็นส่วนหนึ่งของมาตรการสำคัญของรัฐบาลที่มุ่งพัฒนาประเทศให้มีความมั่นคง มั่งคั่งและยั่งยืนตามยุทธศาสตร์ชาติระยะ 20 ปี เป็นคนไทยยุค 4.0 ที่พร้อมรับความท้าทายและการเปลี่ยนแปลงต่าง ๆ ในอนาคต
จากนั้น นายกรัฐมนตรีเดินเยี่ยมชมนิทรรศการของสำนักงานประกันสังคม สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ คณะกรรมการพัฒนาคุณภาพชีวิตระดับอำเภอ โรงพยาบาลวิภาราม อมตะนคร ก่อนเดินทางกลับ
ที่มาและภาพ : รัฐบาลไทย
ข่าวการเมือง
ธนาธรขอบคุณทุกคน รักษาไฟหวังอย่ามอดดับ ทวงอนาคตเราคืนมา

ธนาธรขอบคุณทุกคน รักษาไฟหวังอย่ามอดดับ ทวงอนาคตเราคืนมา
ธนาธร – หลังจากที่นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ ได้ทวีตข้อความผ่าน Twitter Thanathorn_FWP ระบุว่า ถ้าใครเห็นด้วยว่าเวลานี้ประชาชนต้องลุกขึ้นสู้ ถ้าใครเห็นด้วยว่าตอนนี้ได้เวลาส่งเสียงประชาชนผู้ไม่ยอมทนอีกแล้ว มารวมตัวกันวันพรุ่งนี้ เสาร์ 14 ธันวา เวลา 17:00 น. บริเวณสกายวอล์ก สี่แยกปทุมวัน #กลัวที่ไหน #ไม่ถอยไม่ทน
เมื่อถึงเวลานัดหมาย พบว่าบริเวณทางเดินเชื่อมสกายวอร์ค สี่แยกปทุมวันมีผู้เดินทางมาร่วมชุมนุมแฟลชม็อบกันอย่างเนืองแน่น ทั้ง ส.ส. พรรคอนาคตใหม่ เช่น นางสาว พรรณิการ์ วานิช นายปิยบุตร แสงกนกกุล นักเคลื่อนไหวทางการเมือง และประชาชนทั่วไปที่มีอุดมการณ์เดียวกัน
ล่าสุดวันนี้ (15 ธันวาคม) นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ได้โพสต์ข้อความขอบคุณผ่านเฟซบุ๊ก Thanathorn Juangroongruangkit – ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ความว่า
ขอบคุณทุกคนจากใจจริง ร่วมรักษาไฟแห่งความหวังนี้อย่าให้ดับลง
ขอบคุณที่ทุกคนออกมาแสดงจุดยืนต่อต้านระบอบที่ฉุดรั้งแช่แข็งประเทศไทยไม่ให้ไปข้างหน้าร่วมกันเมื่อวานที่สกายวอล์คแยกปทุมวัน กรุงเทพฯ และที่จัดกันเองอีกหลายจังหวัดทั่วประเทศ เช่น เชียงใหม่, ลำพูน, สมุทรปราการ, ขอนแก่น และอุดรธานี
พลังที่เราแสดงออกมาร่วมกัน เปิดให้เห็นถึงความหวังและความเป็นไปได้ใหม่ๆ ที่หลายคนไม่กล้าหวังมาก่อน จึงยอมจำนนก้มหน้ารับชะตากรรม
เมื่อวานนี้ไฟแห่งความหวังได้ถูกจุดขึ้นแล้ว เพราะเรากล้าที่จะฝัน กล้าที่จะเผชิญหน้ากับความอยุติธรรมร่วมกัน
เดินหน้าต่อไป แม้พวกเขาจะทำลายเราทุกรูปแบบ ยัดเยียดคดีเพิ่มเติม, ลดความน่าเชื่อถือของการเคลื่อนไหวผ่านข่าวปลอม, จุดไฟโหมกระพือความเกลียดชังในหมู่ประชาชน, สร้างมวลชนปะทะ, คุกคาม และริดรอนสิทธิเสรีภาพในการแสดงออก และเกมสกปรกอีกหลายรูปแบบที่เราอาจคิดไม่ถึง
แต่นั่นจะไม่ทำให้เราย่อท้อ เขาต้องการให้เรากลัว ดังนั้นเราจะไม่กลัว ผมทำคนเดียวไม่ได้ จึงต้องการกำลังและแรงสนับสนุนของทุกคนมาร่วมกันทำ ให้กำลังใจกันและกัน ก้าวเดินไปด้วยกันด้วยความหนักแน่น
นี่เป็นการทวงอนาคตของเราทุกคนคืนมา
ขอบคุณทุกคนจากใจจริง
รักษาไฟแห่งความหวังนี้ อย่าให้มันมอดดับลง
#ไม่ถอยไม่ทน
[ ขอบคุณทุกคนจากใจจริง ร่วมรักษาไฟแห่งความหวังนี้อย่าให้ดับลง ].ขอบคุณที่ทุกคนออกมาแสดงจุดยืนต่อต้านระบอบที่ฉุดรั้งแช่แข็งประเทศไทยไม่ให้ไปข้างหน้าร่วมกันเมื่อวานที่สกายวอล์คแยกปทุมวัน กรุงเทพฯ และที่จัดกันเองอีกหลายจังหวัดทั่วประเทศ เช่น เชียงใหม่, ลำพูน, สมุทรปราการ, ขอนแก่น และอุดรธานี.พลังที่เราแสดงออกมาร่วมกัน เปิดให้เห็นถึงความหวังและความเป็นไปได้ใหม่ๆ ที่หลายคนไม่กล้าหวังมาก่อน จึงยอมจำนนก้มหน้ารับชะตากรรม.เมื่อวานนี้ไฟแห่งความหวังได้ถูกจุดขึ้นแล้ว เพราะเรากล้าที่จะฝัน กล้าที่จะเผชิญหน้ากับความอยุติธรรมร่วมกัน.เดินหน้าต่อไป แม้พวกเขาจะทำลายเราทุกรูปแบบ ยัดเยียดคดีเพิ่มเติม, ลดความน่าเชื่อถือของการเคลื่อนไหวผ่านข่าวปลอม, จุดไฟโหมกระพือความเกลียดชังในหมู่ประชาชน, สร้างมวลชนปะทะ, คุกคาม และริดรอนสิทธิเสรีภาพในการแสดงออก และเกมสกปรกอีกหลายรูปแบบที่เราอาจคิดไม่ถึง.แต่นั่นจะไม่ทำให้เราย่อท้อ เขาต้องการให้เรากลัว ดังนั้นเราจะไม่กลัว ผมทำคนเดียวไม่ได้ จึงต้องการกำลังและแรงสนับสนุนของทุกคนมาร่วมกันทำ ให้กำลังใจกันและกัน ก้าวเดินไปด้วยกันด้วยความหนักแน่น .นี่เป็นการทวงอนาคตของเราทุกคนคืนมาขอบคุณทุกคนจากใจจริง.รักษาไฟแห่งความหวังนี้ อย่าให้มันมอดดับลง#ไม่ถอยไม่ทนKeep the fire burning 🙂
Posted by Thanathorn Juangroongruangkit – ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ on Sunday, December 15, 2019
ติดตามข่าวสารจาก The Thaiger ได้ทางเฟซบุ๊ก.
ข่าวการเมือง
ธนาธรลั่นกลางชุมนุมสกาย์วอร์ค วันนี้แค่ชิมลาง #ไม่ถอยไม่ทน ติดเทรนด์ทวิตเตอร์

ธนาธรลั่นกลางชุมนุมสกาย์วอร์ค วันนี้แค่ชิมลาง ของจริงเดือนหน้า #ไม่ถอยไม่ทน ติดเทรนด์ทวิตเตอร์
ธนาธร ชุมนุม – หลังจากที่นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ได้ทวีตข้อความผ่าน Twitter Thanathorn_FWP ระบุว่า ถ้าใครเห็นด้วยว่าเวลานี้ประชาชนต้องลุกขึ้นสู้ ถ้าใครเห็นด้วยว่าตอนนี้ได้เวลาส่งเสียงประชาชนผู้ไม่ยอมทนอีกแล้ว มารวมตัวกันวันพรุ่งนี้ เสาร์ 14 ธันวา เวลา 17:00 น. บริเวณสกายวอล์ก สี่แยกปทุมวัน #กลัวที่ไหน #ไม่ถอยไม่ทน
เมื่อถึงเวลานัดหมาย พบว่าบริเวณทางเดินเชื่อมสกายวอร์ค สี่แยกปทุมวันมีผู้เดินทางมาร่วมชุมนุมแฟลชม็อบกันอย่างเนืองแน่น ทั้งประชาชนทั่วไป รวมถึงนักเคลื่อนไหวทางการเมือง เช่น นายพริษฐ์ ชิวารักษ์ หรือเพนกวิน นักศึกษามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เจ้ย อภิชาติพงศ์ ผู้กำกับหนังไทยในระดับนานาชาติ ผู้ได้รับรางวัลปาล์มทองคำจากเทศกาลหนังเมืองคานส์
ตราบที่เรายังเป็นประชาชนคนไทย ขอให้ทุกท่านกำมือให้แน่นและชูขึ้นมาด้วยกัน เพราะวันหนึ่ง เราจะเจอกันอีกครั้งในศึกไล่เผด็จการครั้งถัดไป จนกว่าเผด็จการจะพินาศ และประชาธิปไตยจะเจริญรุ่งเรือง
Posted by เพนกวิน – พริษฐ์ ชิวารักษ์ Parit Chiwarak on Saturday, December 14, 2019
ด้านพรรคอนาคตใหม่ รายงานว่า เวลา 17.00 น. ธนาธร เดินทางโดยเรือด่วนคลองแสนแสบ หลังเสร็จกิจกรรมร่วมกับ 7 พรรคร่วมฝ่ายค้าน จากท่าเรือยมราช มาลงที่ท่าเรือสะพานหัวช้าง ซึ่งตลอดทางมีสื่อมวลชนร่วมเกาะติดบรรยากาศ ขณะที่ประชาชนที่โดยสารมาบนเรือต่างขอถ่ายรูป และให้กำลังใจธนาธร จากนั้น เมื่อขึ้นเรือที่ท่าเรือสะพานหัวช้างแล้ว เดินเท้าต่อมาที่บริเวณสกายวอล์ค ท่ามกลางประชาชนที่มารอต้อนรับเนืองแน่น และเพิ่มจำนวนมากขึ้นเรื่อยๆ จนล้นสกายวอล์คทุกทิศทาง ไม่ว่าจะเป็นทางด้านสนามกีฬาแห่งชาติ เอ็มบีเค สยาม และล้นลงไปอยู่บริเวณลานด้านหน้าหอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร
ธนาธรกล่าวว่า กิจกรรมส่งเสียงประชาชนวันนี้ ไม่ได้มีแต่ที่กรุงเทพฯ เท่านั้น แต่ยังมีการเคลื่อนไหวของพี่น้องประชาชนในอีกหลายจังหวัดทั่วประเทศ เราต้องการส่งเสียงถึงผู้มีอำนาจ เป็นการแสดงตน แสดงพลังว่า เราจะไม่ทน ไม่ถอยให้กับระบอบเผด็จการอีกแล้ว ที่ผ่านมาเขาทำให้เรากลัว ใครลุกขึ้นสู้ก็ถูกจับยับคดีใส่ ถูกเรียกไปปรับทัศนคติ นี่คือการเมืองของเขา แต่เขาไม่มีทางชนะความหวังของพี่น้องประชาชนได้ อย่างตอนนี้ ถ้าไม่ให้ลงถนน ก็ไม่รู้จะทำอย่างไรแล้ว เพราะประชาชนที่มาร่วมแสดงตนมีเยอะมาก และเดือนหน้า เราจะได้ลงถนนกันแน่ๆ ให้ซ้อมวิ่งกันไว้ได้แล้ว เพราะการจัดกิจกรรมในวันนี้เป็นแค่การ “ชิมลาง” เท่านั้น
“นอกจากพวกเขาจะทำให้เรากลัวแล้ว ยังทำให้พ่อแม่พี่น้องประชาชนเกลียดชังกันเอง เพราะยิ่งเมื่อเราเกลียดกันเอง ก็จะเป็นข้ออ้างให้เขาทำรัฐประหาร วันนี้ เขากล่าวหาว่าเราชังชาติ แต่ที่เรามาที่นี่ เราไม่ได้ชังชาติ แต่ชาติคือประชาชน เรารักประชาชน วันนี้ ไม่ต้องพูดกันเยอะ ขอให้ส่งเสียงพร้อมกันว่า ประชาธิปไตยจงเจริญ เผด็จการออกไป” ธนาธรกล่าว ขณะที่ประชาชนที่มาร่วมกิจกรรมต่างส่งเสียงรับพร้อมกัน “ประชาธิปไตยจงเจริญ เผด็จการออกไป” ดังลั่น
ปิยบุตรกล่าวว่าการปกครองรัฐบาลชุดนี้ การปกครองของระบอบ คสช. เป็นการปกครองที่ไม่เห็นหัวประชาชน ไม่เคารพรัฐธรรมนูญ มีข้อยกเว้นให้ตัวเองได้เสมอ ประเทศไทยมีต้นทุนมหาศาล มีทรัพยากร มีโอกาสจำนวนมาก แต่เราต้องใช้จ่ายสิ่งเหล่านี้ไปเพียงเพื่อให้คณะนายทหารชุดนี้ได้ครองอำนาจต่อไปเรื่อยๆ ซึ่งเราจะไม่ยอม เพราะตั้งแต่เขายึดอำนาจอยู่มา 5 ปี อยู่แล้วก็อยากอยู่ต่อ จึงลงทุนเขียนรัฐธรรมนูญที่เอื้อประโยชน์ตัวเองให้ได้สืบทอดอำนาจ เอา ส.ว. มาร่วมโหวตให้ ออกแบบรัฐธรรมนูญให้ได้เป็นรัฐบาลเสียงปริ่มน้ำ แก้ปัญหาปากท้องก็ไม่ได้ ระบบรัฐสภาพังพินาศ เพราะมีทั้งซื้องูเห่า แจกกล้วย โหวตแพ้แล้วก็ไม่รู้จักแพ้ ยอมทำทุกอย่างเพื่อให้นายทหารคณะนี้อยู่ในอำนาจเรื่อยๆ ถ้าวันนี้เราไม่ลุกขึ้นมาแสดงออก ว่ามีประชาชนคนไทยจำนวนมากที่เป็นคนรักชาติ และเราไม่ปรารถนาให้คณะผู้ปกครองชุดนี้ได้อยู่ต่อไป
“วันนี้คือจุดเริ่มต้นของการแสดงพลัง แสดงออกให้พวกเขารู้ว่า ประชาชนเป็นผู้ทรงอำนาจสูงสุดในประเทศนี้ เห็นหัวประชาชนบ้าง เรามารวมกันวันนี้ นี่คือการต่อสู้เพื่ออนาคตของคนไทยทุกคน ปัญหาทุกอย่างของประเทศนี้ ไม่มีทางแก้ได้ถ้ารัฐธรรมนูญชุดนี้ยังอยู่ ไม่มีทางแก้ไขได้ถ้ารัฐบาลชุดนี้ยังอยู่” ปิยบุตร กล่าว จากนั้นได้ชวนผู้ร่วมกิจกรรมตะโกนคำว่า “เห็นหัวประชาชน”
จากนั้นแกนนำพรรคอนาคตใหม่ และ ส.ส.ของพรรคได้แยกย้ายพบปะกับประชาชนและถ่ายรูปกันตามจุดต่างๆ ทั้งนี้ ภายหลังการปราศรัย ประชาชนต่างตะโกนดังลั่นพร้อมทั้งแสดงสัญลักษณ์ “ชู 3 นิ้ว” ต่อต้านระบอบเผด็จการ และนอกจากนี้ประชาชนยังร่วมเปิดไฟฉายโทรศัพท์มือถือพร้อมกับตะโกน “เผด็จการออกไป” ดังลั่น โดยแม้กิจกรรมจะใช้ระยะเวลาสั้นๆ เพียง 1 ชั่วโมง โดยเลิกไปในเวลา 18.00 น. หลังเคารพธงชาติเสร็จ อย่างไรก็ตาม ยังมีประชาชนที่มาร่วมกิจกรรมยังอยู่พบปะพูดคุยกันอีกเป็นจำนวนมาก
ควบคู่กันไปกับโลกออนไลน์ พบว่าสังคมชุมชนทวิตเตอร์ มีการทวิตข้อความเกี่ยวกับการชุมนุม ณ สกายวอร์ค พร้อมติดแฮชแท็ก #ไม่ถอยไม่ทน มากกว่า 1.43 ล้านครั้ง ติดเทรนด์ทวิตเตอร์ไทยอยู่หลายชั่วโมง
ด้านจำนวนผู้มาชุมนุมนั้น ผู้ใช้เฟซบุ๊กTomorn Sookprecha ได้คำนวณหาจำนวนผู้มาชุมนุมโดยใช้หลักการประชากรต่อพื้นที่ ได้ประมาณ 11,456 คน รวมคนตรงทางเดินถึงวงเวียนลานเห็ด และบนสกายวอร์ค (อ่านรายละเอียดเพิ่มเติม)
และอีกหนึ่งความประทับใจของการชุมนุมครั้งนี้คือ เมื่อชุมนุมเสร็จ ทุกคนต่างช่วยกันรักษาความสะอาดไม่ทิ้งขยะเรี่ยราดให้เป็นภาระคนข้างหลัง ทุกคนให้ความร่วมมืออย่างดีเยี่ยม
หลังการชุมนุมเสร็จสิ้น ก็ราวกับว่าไม่เคยมีการชุมนุมมาก่อนเลย เพราะมีทีมเดินเก็บขยะตลอดทาง และทุกคนก็ให้ความร่วมมือกันดีมาก น่ารักกว่านี้ไม่มีอีกแล้ว #ไม่ถอยไม่ทน
Posted by ธนวัฒน์ วงค์ไชย – Tanawat Wongchai on Saturday, December 14, 2019
ดีจัง ไปแฟลชม๊อปกันเสร็จก็เก็บกวาดขยะลงถุง ไม่ให้เหลือขยะในพื้นที่สาธารณะ
Posted by Drama-addict on Saturday, December 14, 2019
ขณะที่แฟนเพจ Ch3ThailandNews ได้เผยแพร่คลิปสุดประทับใจ เมื่อถึงเวลา 6 โมงเย็น ผู้เข้าร่วมชุมนุมทุกคน พร้อมใจทำหน้าที่พลเมืองไทยที่ดี ยืนตรงร้องเพลงชาติกันอย่างพร้อมเพรียง ดังกึกก้องทั่วสกายวอร์ค
#เพลงชาติ #สกายวอล์คปทุมวัน .บรรยากาศช่วงหนึ่งของการชุมนุมที่สกายวอล์คปทุมวัน ผู้ชุมนุมร้องเพลงชาติร่วมกัน.#ธนาธร #พรรคอนาคตใหม่#สกายวอล์คปทุมวัน#ข่าวการเมือง#ข่าวข่อง3#Ch3ThailandNews
Posted by Ch3ThailandNews on Saturday, December 14, 2019
ขอบคุณภาพจาก: FWPthailand
ติดตามข่าวสารจาก The Thaiger ได้ทางเฟซบุ๊ก.ข่าวการเมือง
คำขวัญวันเด็ก 2563 ศูนย์ต้านข่าวปลอมแจง ‘เด็กไทยยุคใหม่ต้องไปสกายวอล์ค’ เป็นข่าวปลอม

คำขวัญวันเด็ก 2563 ศูนย์ต้านข่าวปลอมแจง ‘เด็กไทยยุคใหม่ต้องไปสกายวอล์ค’ เป็นข่าวปลอม สร้างความปั่นป่วน อย่าแชร์
คำขวัญวันเด็ก 2563 – จากกรณีพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี มอบคำขวัญวันเด็กประจำปี 2563 ว่า “เด็กไทยยุคใหม่ รู้รักสามัคคี รู้หน้าที่พลเมืองไทย”
ต่อมา ช่วงเวลาหลังจากนั้นได้เกิดกระแสการรวมตัวแฟลชม็อบขึ้น โดยมีจุดนัดพบ ณ สกายวอร์ค สี่แยกปทุมวัน เวลา 5 โมงเย็น วันที่ 14 ธันวาคมที่ผ่านมา ซึ่งมีประชาชนมารวมตัวกันอย่างจำนวนมากเพื่อแสดงพลัง โดยก่อนหน้านี้ในโลกออนไลน์ ได้หยิบเอาคำขวัญวันเด็กที่พลเอกประยุทธ์ มอบ ว่าเล่นล้อต่อท้ายคำขวัญว่า ‘และอย่าลืมไปสกายวอล์คพรุ่งนี้’ ซึ่งผู้โพสต์ระบุอย่างชัดเจนว่า พลเอกประยุทธ์ ไม่ได้กล่าไว้
อย่างไรก็ดี มีรายงานว่า ศูนย์ต่อต้านข่าวปลอม (Anti-Fake News Center) ได้ออกมาชี้แจง ดังนี้
ตามที่มีข่าวปรากฏในสื่อต่างๆ เกี่ยวกับกรณีที่มีผู้เผยแพร่ข้อความในสื่อออนไลน์ ในประเด็นเรื่อง สารคำขวัญวันเด็ก จากนายกฯ ‘เด็กไทยยุคใหม่ต้องไปสกายวอล์ค’ นั้นทางศูนย์ต่อต้านข่าวปลอม ได้ตรวจสอบข้อเท็จจริงโดยหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง พบว่า ข้อมูลที่ปรากฏตามสื่อดังกล่าวนั้น เป็น ข้อมูลเท็จ
กรณี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้มอบคำขวัญวันเด็กแห่งชาติ ประจำปี 2563 “เด็กไทยยุคใหม่ รู้รักสามัคคี รู้หน้าที่พลเมืองไทย” ซึ่งมีการเผยแพร่ออกมาจากรัฐบาลเมื่อวันที่ 13 ธันวาคม 2563 โดยนางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า คำขวัญวันเด็กแห่งชาติ ปี 2563 นายกรัฐมนตรี หวังให้เด็กมีความสามัคคีตั้งแต่เยาวชน และรู้ในหน้าที่ของพลเมืองไทย
ตามที่กำลังเป็นกระแสในโลกออนไลน์ กรณี ส.ส.รายหนึ่ง ได้โพสต์ข้อความลงบนทวีตเตอร์ ระบุว่า “ไม่รู้ใครทำ แต่ชอบ! #ไม่ถอยไม่ทน #กลัวที่ไหน อย่าลืมนะคะเด็กไทยยุคใหม่ต้องไปสกายวอล์ค เสาร์ 14 ธันวาคมนี้ (ลุงตู่ไม่ได้กล่าว)” พร้อมภาพ สารคำขวัญวันเด็กประจำปี 2563 ของนายกรัฐมนตรี ซึ่งในภาพดังกล่าว ได้มีการเพิ่มเติมข้อความ ‘และอย่าลืมไปสกายวอล์คพรุ่งนี้’ ต่อจาก “เด็กไทยยุคใหม่ รู้รักสามัคคี รู้หน้าที่พลเมืองไทย” ซึ่งเป็นข้อความอันเป็นเท็จ เจตนาทำให้คนเกิดความเข้าใจผิด ซึ่งเป็นข่าวปลอม อย่าแชร์
ดังนั้นขอให้ประชาชนอย่าหลงเชื่อ และขอความร่วมมือไม่ส่ง หรือแชร์ข้อมูลดังกล่าวต่อในช่องทางสื่อสังคมออนไลน์ต่างๆ
บทสรุปของเรื่องนี้คือ : ไม่จริง ไม่ควรแชร์ต่อ
ติดตามข่าวสารจาก The Thaiger ได้ทางเฟซบุ๊ก.- ข่าวกรุงเทพ21 hours ago
15 ธ.ค. ปิดถนนสีลมวันแรก เนรมิตถนนคนเดิน
- ข่าวกรุงเทพ4 days ago
ปิดถนนเยาวราช เนรมิตถนนคนเดิน เริ่มแล้ว 13 ธ.ค. นี้
- ข่าวเชียงใหม่3 days ago
แห่ซื้อ เลขเด็ดหลวงปู่ทอง เกจิดังล้านนา หวังลาภหวยงวด 16 ธันวา
- ข่าวไทย4 days ago
รู้จักเรือพระราชพิธี ในขบวนพยุหยาตราทางชลมารค
- คลิป4 days ago
คลิปสุดท้าย เอ๋ล่าผีเฮี้ยน บุกโรงเรียนร้าง ก่อนเสียชีวิต
- บันเทิง4 days ago
ป้อม วินิจ ด่าแรงคนแต่งหน้า ฟ้าใส แน่นเกินดูก้าวร้าว
- ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก4 days ago
ทีมพรีเมียร์ลีก อยู่ครบ ! บทสรุปทีมเข้ารอบ 16 ทีมสุดท้ายศึก ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก พร้อมเงื่อนไขการประกบคู่
- ข่าวเชียงใหม่3 days ago
ประวัติ ‘หลวงปู่ทอง’ เกจิดังแห่งล้านนา