วันนี้ (15 ธ.ค.) มีรายงานความคืบหน้าเกี่ยวกับการแข่งขันบินโดรนจากเฟซบุ๊กเพจ FAI Drones โดยรายการดังกล่าวคือ โดรน เรซซิ่ง ชิงแชมป์โลก รายการ FAI World Drone Racing Championship Grand Final 2019 ประเภทหญิง ที่ประเทศจีน ซึ่งปีนี้เยาวชนจากประเทศไทยคว้าแชมป์เป็นปีที่สองแล้ว

 

โดยในปีนี้ ด.ญ.วรรรญา วรรณผ่อง หรือ น้องมิลค์ อายุ 12 ปี ตัวแทนประเทศไทย สามารถป้องกันตำแหน่งแชมป์โลกได้สำเร็จ ครองแชมป์สมัยที่ 2 ติดต่อกัน โดยสามารถทำเวลาในรอบชิงชนะเลิศได้ 55.739 วินาที จนสามารถเอาชนะคู่ต่อสู้อย่าง ซียุน ปาร์ค วัย 15 ปี จากเกาหลี และ เถิง หม่า วัย 34 ปี จากสหรัฐอเมริกา มาได้

 

ที่มา Kapook, เพจ FAI Drones และ ThaiPBS

ติดตามข่าวสารจาก The Thaiger ได้ทางเฟซบุ๊ก.

วันนี้ (15 ธ.ค.) มีรายงานว่า เมื่อช่วงกลางดึกที่ผ่านมา ป๋อง กพล พิธีกรชื่อดัง พร้อมทีมงาน The Shock และแฟนรายการ ได้ร่วมกันจัดงานทำบุญเลี้ยงโต๊ะจีนผี 100 โต๊ะ ที่สุสานอริยะธรรมสถาน ต.สาริกา อ.เมืองนครนายก จ.นครนายก

 

 

ทางทีมงานได้ติดตั้งเซ็นเซอร์เพื่อจับพลังงาน ตรงทางเข้าประตูผี ที่ใช้ใบตองรองพื้น และใช้แป้งโรย ซึ่งเกิดเหตุการณ์ชวนขนลุกและน่าแปลกใจเมื่อเซ็นเซอร์ส่งเสียงดังตลอด เหมือนมีคนเดินผ่าน ทั้งๆ ที่ประตูดังกล่าวนั้นห้ามไม่ให้คนเดินเข้า

 

 

ทั้งนี้ การจัดเลี้ยงโต๊ะจีนดังกล่าว เพื่ออุทิศส่วนบุญส่วนกุศลให้กับผีที่มีญาติและไม่มีญาติที่สุสาน ทางทีมงานได้เลือกเมนูหมูกระทะชุดใหญ่มาเลี้ยง พร้อมจ้างวงดนตรีมาเล่นภายในงาน ซึ่งทุกคนเชื่อว่าการทำบุญครั้งนี้ จะทำให้สัมภเวสีได้รับส่วนบุญ อิ่มหนำสำราญ และได้ไปเกิดยังภพภูมิใหม่

 

 

ที่มา Kapook และ อมรินทร์ ทีวี

ติดตามข่าวสารจาก The Thaiger ได้ทางเฟซบุ๊ก.

จากกรณที่มีการพบรถยนต์นิสสัน พัลซ่าร์ สีขาวจมอยู่ในคลอง พร้อมศพเจ้าของรถคือ น.ส.กลิ่นเกสร วงษ์สิงห์ อายุ 36 ปี เซลส์สาวขายปุ๋ย ซึ่งน่าจะจมนานกว่า 3 ปี จนเหลือแต่โครงกระดูก ล่าสุด วันนี้ (15 ธ.ค.) ได้มีชาวบ้านในพื้นที่รายหนึ่ง ได้เปิดเผยข้อมูลเกี่ยวกับเหตุการณ์ก่อนเซลส์สาวหายตัว ว่า เมื่อ 3 ปีที่แล้ว ซึ่งเกี่ยวข้องกับเสี่ย ซึ่งหลายฝ่ายมุ่งเป้าสงสัย

 

ชาวบ้านรายนี้เล่าว่า ช่วงดังกล่าว เสี่ยจะพาลูกน้องมานั่งกินเหล้าที่ร้านสเต็กของ น.ส.กลิ่นเกษร ทุกวัน จนกระทั่งประมาณหนึ่งสัปดาห์ก่อนที่ น.ส.กลิ่นเกสร จะหายตัวไป เสี่ยก็พาลูกน้องนับสิบคนมานั่งกินเหล้าตามปกติ แต่ช่วงกลางดึกมีคนมาบอกกับเสี่ย โดยอ้างว่า น.ส.กลิ่นเกษร คบชู้ ทำให้เสี่ยโมโหและพาลูกน้องพังร้าน จากนั้นอีกสองวัน เสี่ยก็มาตั้งร้านให้ใหม่ และเปิดขายตามปกติ

 

 

หลังจากวันเกิดเหตุไม่กี่วัน น.ส.กลิ่นเกษร ก็หายตัวไป ซึ่งตอนนั้นตนก็ไม่ได้คิดอะไร เนื่องจากญาติผู้ตายเคยบอกว่า ผู้ตายอยากไปขายสเต็กที่ จ.ลพบุรี ตนจึงคิดว่าคงย้ายไปแล้ว ตนรู้สึกตกใจที่มีคนมาพบกระดูกของผู้ตายในเวลา 3 ปีให้หลัง

 

ตนและชาวบ้านหลายคนค่อนข้างหวาดกลัวเสี่ยรายดังกล่าว เพราะเสี่ยมักจะพูดเสมอว่า คนอย่างเสี่ยฆ่าคนตายก็ไม่ติดคุก ส่วนผู้ที่ก่อเหตุจะเป็นเสี่ยหรือไม่ ตนก็ไม่กล้ากล่าวหา แต่อยากให้ตำรวจจับคนร้ายให้ได้โดยเร็ว

 

 

นอกจากนี้ อดีตคนงานของเสี่ยโรงปุ๋ยที่รู้จักกับเสี่ยมา 20-30 ปี เผยว่า เสี่ยเป็นคนใจกว้าง ใจนักเลง และเป็นผู้ชายสายเปย์ทั้งลูกน้องและผู้หญิง โดยมักจะพกเงินติดตัวหลายแสนบาท ส่วนที่ผ่านมาก็มีผู้หญิงติดพันกับเสี่ยหลายคน ที่ผ่านมาเวลาจัดงานเลี้ยงสังสรรค์ในโรงงาน ผู้หญิงเหล่านี้ก็จะมาร่วมงานเสมอ

 

ส่วนกรณีที่เสี่ยตกเป็นผู้ต้องสงสัย ตนก็ตอบไม่ได้ว่าเสี่ยทำหรือไม่ แต่ทุกคนมีสิทธิ์ที่จะสงสัย ท้ายที่สุดก็เป็นเรื่องของกฎหมาย ที่จะพิสูจน์ว่าใครเป็นคนทำ

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง:

• ตำรวจส่งกล้องหน้ารถเซลล์สาวตรวจพิสูจน์ ไขปมอยู่กับเสี่ยสระบุรีเป็นคนสุดท้ายหรือไม่
• พบกล้องหน้ารถ คดีเซลล์สาวถูกพบเป็นศพในรถจมน้ำ พร้อมสอบเสี่ย
• น้องเซลล์สาวเผย เสี่ยส่งคนสะกดรอย แถมขู่ ‘ฆ่าไม่ติดคุก’ พี่สาวร่ำไห้ก่อนหายตัว
• ชาวบ้านพบร่องรอยเซลล์สาว 3 ปีก่อน – ตำรวจเผยหลักฐานมีมากกว่ากล้องหน้ารถ
• ผู้เชี่ยวชาญด้านรถยนต์ ชี้ลูกสูบรถ – เมมโมรีการ์ดกล้องหน้ารถ เป็นชนวนไขคดีเซลล์สาว
• คดีเซลล์สาว ส่อพบกระดูกเพิ่มอีกศพ พร้อมของหลายชิ้น หลังกู้ภัยดำน้ำหาหลักฐานเพิ่ม

 

 

ที่มา Kapook และ อมรินทร์ ทีวี

ติดตามข่าวสารจาก The Thaiger ได้ทางเฟซบุ๊ก.