ข่าวไทย
ชิมช้อปใช้ เฟส 3 ขยายเวลารับสมัครร้านค้า ถึง 15 ม.ค. 63 ชิมช้อปใช้ได้ทุกจังหวัด

ชิมช้อปใช้ เฟส 3 ขยายเวลารับสมัครร้านค้า ถึง 15 ม.ค. 63 ชิมช้อปใช้ได้ทุกจังหวัด
ชิมช้อปใช้ เฟส 3 – กรมบัญชีกลาง รายงาน กรมบัญชีกลางขยายระยะเวลาลงทะเบียนผู้ประกอบการร้านค้า “ชิมช้อปใช้ เฟส 3” เผย ! ยอดร้านค้าสมัครเข้าร่วมมาตรการแล้วกว่า 1.7 แสนร้านค้า พร้อมเชิญชวนร้านค้ารีบมาสมัครเพื่อรองรับการใช้สิทธิ์ในกระเป๋า g-wallet 2 ได้ทุกจังหวัดรวมทั้งจังหวัดตามทะเบียนบ้านของตนเอง สั่งการทีมหมอคลัง สร้างความเข้าใจเรื่องภาษีกับร้านค้าและกระตุ้นผู้มีสิทธิ์ให้เน้นการใช้จ่ายผ่าน g-Wallet 2
นางสาววิลาวรรณ พยาน้อย รองอธิบดีกรมบัญชีกลาง ในฐานะโฆษกกรมบัญชีกลาง เปิดเผยว่า ตามที่คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบมาตรการส่งเสริมการบริโภคภายในประเทศ “ชิมช้อปใช้” เฟส 3 โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้เกิดการกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านการบริโภคภายในประเทศอย่างต่อเนื่อง ซึ่งจะเริ่มเปิดให้ประชาชนลงทะเบียน ตั้งแต่วันที่ 14 พ.ย. 62 โดยการลงทะเบียนในวันที่ 14 – 15 พ.ย. 62 จะเปิดวันละ 750,000 ราย แบ่งเป็น 2 รอบ ในเวลา 06.00 น. และเวลา 18.00 น. เช่นเดิม โดยจำนวนที่ยังลงทะเบียนไม่ครบจะเปิดให้ลงทะเบียนต่อในวันที่ 16 พ.ย. 62 และจะเปิดรอบลงทะเบียนให้เฉพาะผู้ที่มีอายุ 60 ปีบริบูรณ์ขึ้นไป ในวันที่ 17 พ.ย. 62 ประมาณ 500,000 ราย ซึ่งผู้ลงทะเบียนผ่านในวันแรกจะเริ่มใช้สิทธิในวันที่ 20 พ.ย. 62 เป็นวันแรก โดยมาตรการ ชิมช้อปใช้ เฟส 3 นี้ จะสิ้นสุดในวันที่ 31 ม.ค. 63 ซึ่งขยายระยะเวลาให้ผู้ที่ได้รับสิทธิเดิมด้วย ซึ่งผู้ที่ได้รับสิทธิ์ในเฟส 1 และ 2 สามารถเริ่มใช้จ่าย g-wallet ช่อง 2 ได้ทุกจังหวัด รวมทั้งจังหวัดตามทะเบียนบ้านของตนเอง ตั้งแต่วันที่ 14 พ.ย. 62 เป็นต้นไป
“ขณะนี้กรมบัญชีกลางได้ขยายระยะเวลารับสมัครร้านค้าออกไปถึงวันที่ 15 ม.ค. 63 โดยร้านค้าที่สนใจเข้าร่วมมาตรการ สามารถสมัครได้ด้วยตนเอง ณ ห้องโถงชั้น 1 กรมบัญชีกลาง และที่สำนักงานคลังจังหวัดทั้ง 76 จังหวัดทั่วประเทศ ทั้งนี้ ผู้ประกอบการร้านค้าที่จะสมัครเข้าร่วมมาตรการขอให้จัดเตรียมเอกสารที่เกี่ยวข้องให้ครบถ้วน ชัดเจน เพื่อป้องกันมิให้มีผู้ที่เข้ามาหาผลประโยชน์จากมาตรการนี้
ขณะนี้มีร้านค้าสมัครเข้าร่วมมาตรการแล้วกว่า 178,603 ร้านค้า ร้านค้าทั้งหมดสามารถเข้าร่วมมาตรการในระยะที่ 3 ได้ต่อเนื่อง โดยไม่ต้องมาลงทะเบียนใหม่ ซึ่งผู้ที่ลงทะเบียนและได้รับสิทธิ์แล้ว สามารถจับจ่ายซื้อสินค้าและบริการ ณ ร้านค้าที่เข้าร่วมมาตรการ ซึ่งจะมีสติ๊กเกอร์ ชิมช้อปใช้ ติดอยู่หน้าร้าน หรือค้นหาข้อมูลได้ที่แอพฯ เป๋าตัง
นอกจากนี้ กรมบัญชีกลางได้โอนเงินให้กับร้านค้าแล้ว (ข้อมูล ณ วันที่ 12 พ.ย. 62) เป็นเงินทั้งสิ้น 12,449.6 ล้านบาท แบ่งเป็น ร้านค้าที่ได้สิทธิ์จากกระเป๋า g-wallet 1 (ใช้จ่าย 1,000 บาท ในจังหวัดที่เลือกลงทะเบียน) จำนวน 11,465 ล้านบาท และร้านค้าที่ได้สิทธิ์จากกระเป๋า g-wallet 2 (เติมเงินเพื่อใช้จ่ายในจังหวัดที่ไม่ใช่จังหวัดในทะเบียนบ้าน เพื่อรับเงินคืน 15%) จำนวน 984.6 ล้านบาท หากจำแนกเป็นประเภท จะแบ่งเป็นประเภท “ชิม” เป็นเงิน 1,640.8 ล้านบาท ประเภท “ช้อป” เป็นเงิน 10,647.5 ล้านบาท และประเภท “ใช้” เป็นเงิน 161.3 ล้านบาท” โฆษกกรมบัญชีกลางกล่าว
โฆษกกรมบัญชีกลาง กล่าวเพิ่มเติมว่า ทีมหมอคลังในส่วนภูมิภาค ได้ลงพื้นที่ สร้างความเข้าใจให้แก่ร้านค้าอย่างต่อเนื่อง เกี่ยวกับเรื่องภาษีและสิทธิประโยชน์จากการใช้จ่ายผ่าน g-Wallet 2 โดยมีสรรพากรพื้นที่และธนาคารกรุงไทย ร่วมลงพื้นที่ด้วย ซึ่งสร้างความเชื่อมั่นให้แก่ร้านค้าและผู้เข้าร่วมมาตรการได้เป็นอย่างดี
ข่าว
นายอำดภอเมืองกาญจน์นำกำลังบุกจับปาร์ตี้ยาในรีสอร์ต

วานนี้ (13 ธ.ค.) นายวิฑูรย์ สิรินุกุล นายอำเภอเมืองกาญจนบุรี พร้อมเจ้าหน้าที่หลายฝ่ายได้เข้าตรวจค้น บ้านเขียวครามรีสอร์ต หมู่ 1 ต.ช่องสะเดา หลังได้รับรายงานว่ามีการจัดปาร์ตี้มั่วสุมยาเสพติด

ภาพจาก ไทยรัฐ
ภายในรีสอร์ตที่มีการแจ้ง เจ้าหน้าที่พบกลุ่มวัยรุ่นชายหญิงรวมตัวกันจัดปาร์ตี้และมั่วสุมเสพยาเสพติดจำนวน 28 คน หลังทำการตรวจปัสสาวะพบสารเสพติดประเภทเมทแอมเฟตามีน คีตามีน และยาอี รวมทั้งสิ้น 28 ราย แยกเป็นชาย 13 ราย หญิง 15 ราย

ภาพจาก ไทยรัฐ
จากการตรวจสอบห้องพักและบริเวณรอบที่พัก พบของกลางยาเสพติดยาไอซ์ จำนวน 120 กรัม ยาอีจำนวนหนึ่ง และยา 542 ซึ่งเป็นยานอนหลับชนิดรุนแรงจำนวน 39 แผง แผงละ 10 เม็ด เจ้าหน้าที่จึงได้ได้จับกุมผู้ต้องหาทั้ง 28 ราย และนำตัวส่งจนท.ตร.สภ.ลาดหญ้าเพื่อดำเนินคดี
ก่อนหน้านี้มีรายงานว่า มีการลักลอบจัดปาร์ตี้ยาเสพติดในพื้นที่กาญจนบุรี และเริ่มมีการลักลอบจัดปาร์ตี้อย่างโจ๋งครึ่ม โดยจัดมั่วสุมตามร้านอาหารที่ไม่มีใบอนุญาตสถานบริการ แต่เปิดให้บริการเสมือนสถานบริการในพื้นที่เมืองกาญจนบุรี และนัดหมายไปมั่วสุมในช่วงกลางคืน โดยมีกลุ่มหญิงบริการกลางคืนเป็นผู้ชักชวนกลุ่มลูกค้าที่เป็นกลุ่มวัยรุ่นและคนมีสีไปใช้บริการ โดยจัดในร้านอาหารบางแห่งที่เปิดให้บริการแบบโต้รุ่งแบบไม่เกรงกลัวกฎหมาย
ที่มา ไทยรัฐ
ติดตามข่าวสารจาก The Thaiger ได้ทางเฟซบุ๊ก.
ข่าว
วิศวกรหนุ่ม ขี่บิ๊กไบค์ชนต้นไม้ดับ

วันนี้ (14 ธ.ค.) เวลาประมาณ 06.00 น. ตำรวจสน.บางเขน ได้รับแจ้งเหตุรถจักรยานยนต์บิ๊กไบค์ชนต้นไม้อย่างแรง บริเวณปากซอยลาดปลาเค้า 66 ถนนลาดปลาเค้าฝั่งมุ่งหน้าวัดลาดปลาเค้า แขวงอนุสาวรีย์ เขตบางเขน กทม. เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิตหนึ่งราย
ในที่เกิดเหตุ เจ้าหน้าที่พบร่าง นายสราวุธ น้ำฝน อายุ 25 ปี จมกองเลือดอยู่โคนต้นไม้ริมถนน สภาพสวมเสื้อยืดคอกลมสีเทา นุ่งกางเกงยีนส์ขายาว ใส่หมวกนิรภัยเต็มใบสีแดง มีบาดแผลกะโหลกศีรษะแตกเป็นแผลฉกรรจ์ ใกล้กันพบชิ้นส่วนรถบิ๊กไบค์ยี่ห้อคาวาซากิ รุ่น Z 1000 สีดำ ทะเบียน 8 กล 7877 กรุงเทพมหานคร กระจัดกระจายอยู่เต็มพื้น
จากการสอบสวนเพื่อนๆ ผู้ตายซึ่งเดินทางมาดูศพในที่เกิดเหตุ ให้ข้อมูลว่า นายสราวุธ ทำงานเป็นวิศวกรบริษัทญี่ปุ่นแห่งหนึ่งย่านเพลินจิต ก่อนเกิดเหตุไปสังสรรค์กับพรรคพวกย่านถนนเกษตรนวมินทร์ และกำลังจะขี่รถกลับบ้านพักย่านรามอินทรา โดยใช้ถนนลาดปลาเค้าฝั่งเลขคี่เพื่อมุ่งหน้าถนนรามอินทรา แต่ระหว่างทางมีชาวบ้านเห็นผู้ตายเร่งเครื่องพยายามแซงรถจักรยานยต์อีกคันแต่ไปเจอรถแท็กซี่แล่นสวนมาทำให้ต้องหักหลบกะทันหัน รถพุ่งข้ามเลนไปชนต้นไม้ฝั่งตรงข้าม ร่างฟาดต้นไม้เสียชีวิตคาที่ และรถ จักรยานยนต์กระเด็นไถลกลับมาอยู่บนถนนฝั่งมุ่งหน้ารามอินทรา
ตำรวจคาดว่า รถจักรยานยนต์คู่กรณีที่พบในที่เกิดเหตุจะถูกรถบิ๊กไบค์ของผู้ตายเฉี่ยวชนจนพลิกคว่ำด้วยอีกคัน เป็นรถจกัรยานยนต์ยี่ห้อเรียวก้า สีดำ ทะเบียน ชงร 56 นครปฐม โดยผู้ขับขี่ได้รับบาดเจ็บ และถูกนำส่ง รพ.ภูมิพล ไปก่อนหน้านี้ ซึ่งทางตำรวจจะเดินทางไปสอบปากคำ และประสานขอดูกล้องวงจรปิด
ที่มา ไทยรัฐ
ติดตามข่าวสารจาก The Thaiger ได้ทางเฟซบุ๊ก.ข่าว
หนุ่มเปลือยโดดคอนโดกลางกรุงดับ

วันนี้ (14 ธ.ค.) เวลาประมาณ 02.30 น. ตำรวจสน.พหลโยธิน ได้รับแจ้งเหตุมีผู้กระโดดตึกลงมาเสียชีวิตภายในคอนโดมิเนียม ในแขวงจตุจักร เขตจตุจักร กทม. โดยที่เกิดเป็นบริเวณถนนทางเข้าลานจอดรถด้านข้างอาคารคอนโดมิเนียมพักอาศัยสูง 29 ชั้น
ที่จุดเกิดเหตุดังกล่าวพบ ชายนิรนามไม่สวมเสื้อผ้า ผิวขาว อายุประมาณ 30-35 ปี สูงราว 165-170 เซนติเมตร สภาพนอนคว่ำหน้า ใบหน้า ศีรษะ และลำตัวแหลกเหลวจนไม่สามารถระบุรูปพรรณได้ เศษชิ้นส่วนในร่างกายกระจัดกระจายไปทั่วพื้น
ผู้แจ้งความระบุว่า ขณะกำลังขับรถเข้าลานจอดได้เห็นคนนอนเปลือยกายอยู่กลางถนนเมื่อลงไปดูพบว่าเป็นคนกระโดดตึกลงมาเสียชีวิตในสภาพดังกล่าวแต่ยังไม่มีใครทราบข้อมูลว่าผู้ตายพักอาศัยหรือกระโดดลงมาจากห้องพักชั้นใด
ทั้งนี้ จากการตรวจสอบกล้องวงจรปิดเห็นผู้ตายร่วงลงมาจากที่สูงมากแต่ยังระบุไม่ได้ว่าตกมาจากชั้นที่เท่าใด พบเพียงประตูฉุกเฉินถูกเปิดออกที่ชั้น 20 แต่ก็ยังสรุปไม่ได้จะใช่จุดที่ผู้เสียชีวิตตกลงมาหรือไม่
หลังจากนี้ ตำรวจฝ่ายสืบสวนจะทำการตรวจสอบร่วมกับเจ้าหน้าที่ผู้ดูแลอาคารและสอบถามผู้พักอาศัยตามชั้นต่างๆ ว่ามีใครเคยพบเห็นชายคนดังกล่าวบ้างหรือไม่ เพื่อติดตามญาติมาสอบปากคำ และดำเนินการตามกฎหมาย
ที่มา ไทยรัฐ
ติดตามข่าวสารจาก The Thaiger ได้ทางเฟซบุ๊ก.- ข่าว4 days ago
‘100เดียวเที่ยวทั่วไทย’ ลงทะเบียน 11-12 ธ.ค. วิธีลงทะเบียน-รายชื่อ 4 หมื่นของขวัญ
- ข่าว3 days ago
‘100เดียวเที่ยวทั่วไทย’ ลงทะเบียน12 ธ.ค. วันสุดท้าย วิธีลงทะเบียน-รายชื่อ 4 หมื่นของขวัญ
- กีฬา3 days ago
11 ธ.ค. สรุปตารางเหรียญ “ซีเกมส์” 2019 วันสุดท้าย – ไทย อันดับที่ 3 อย่างไม่เป็นทางการ
- ข่าวกรุงเทพ2 days ago
ปิดถนนเยาวราช เนรมิตถนนคนเดิน เริ่มแล้ว 13 ธ.ค. นี้
- วอลเลย์บอล3 days ago
วอลเลย์บอล: ความในใจของเหล่าเซียน กับซีเกมส์ครั้งสุดท้าย
- ข่าว3 days ago
ปิดถนน 12 ธันวา พระราชพิธีบรมราชาภิเษก เสด็จฯเลียบพระนครทางชลมารค
- สังคม/เศรษฐกิจ3 days ago
อ่านเลย สรุปภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง ฉบับใหม่ เริ่มจัดเก็บ 1 มกรา 2563
- คลิปตลก3 days ago
ที่มา “ไอ้โอม ตาลือตกบ้าน” เป็นใครมาจากไหน?