ฮอลลีวู้ด

จัสติน บีเบอร์ เผยชีวิตเป็นโรคซึมเศร้า ติดยาหนัก การเป็นคนดัง

Published

3 months ago

September 4, 2019

Ploy Wanutch

จัสติน บีเบอร์ เผยชีวิตเป็นโรคซึมเศร้า ติดยาหนัก การเป็นคนดัง | The Thaiger

จัสติน บีเบอร์ เผยชีวิตเป็นโรคซึมเศร้า ติดยาหนัก การเป็นคนดัง : ข่าวบันเทิงฮอลลีวูด

นักร้องชื่อดัง จัสติน บีเบอร์ ได้เล่าความรู้สึกผ่านอินสตาแกรม เกี่ยวกับเรื่องชีวิตที่ผ่านมา การเป็นคนดังมีชื่อเสียง เป็นโรคซึมเศร้า และเสพติดยาอย่างหนัก ในช่วงยี่สิบปีที่ผ่านมา

จัสตินเล่าว่า มันยากที่จะลุกออกจากเตียงในตอนเช้า ด้วยการมองโลกในแง่ดี เมื่อมันเต็มไปด้วยเรื่องที่หนักหนาของคุณในอดีต ทั้งชีวิต,หน้าที่การงาน, ความรับผิดชอบ, อารมณ์ความรู้สึก, ครอบครัว, การเงิน และความสัมพันธ์ มันเหมือนกับมีปัญหาไม่จบไม่สิ้น คุณเริ่มมองเห็นแต่ละวันผ่านความกลัว และคาดการณ์ไปถึงวันถัดไปว่ามันจะไม่ดี มันกลายเป็นวังวนของความผิดหวัง บางครั้งคิดไปถึงขนาดว่า ไม่อยากจะมีชีวิตอยู่อีกต่อไป รู้สึกเหมือนว่ามันจะไม่มีวันเปลี่ยนแปลง ผมจะได้เห็นอกเห็นใจคุณอย่างเต็มที่

ผมเปลี่ยนความคิดตัวเองไม่ได้ ผมโชคดีที่มีคนคอยให้กำลังใจ และสนับสนุน ผมมีเงินมากมาย, มีโรงเก็บรถหลายคัน, ได้รับเกียรติ, ประสบความสำเร็จ, ได้รับรางวล แต่ผมก็รู้สึกว่ามันมีอะไรขาดหายไป คุณเคยสังเกตสถิติของดาราเด็ก และผลลัพธ์ในชีวิตของพวกเขาไหม เขาต้องทนรับแรงกดดัน และความรับผิดชอบมากมาย ใส่เข้าไปในสมอง, อารมณ์ ซึ่งยังไม่ได้พัฒนาเต็มที่ ความไม่มีเหตุผล, ท้าทาย, หัวขบถ พวกเราต้องผ่านสิ่งเหล่านี้ไปให้ได้ ยิ่งเพิ่มความกดดันของการเป็นดาราไปด้วย มันก็ยิ่งทำให้เกิดอะไรบางอย่าง ที่อธิบายไม่ได้

ผมไม่ได้โตมาในครอบครัวที่อบอุ่น พ่อแม่แยกทางกันตั้งแต่ 18 ไม่มีเงิน และยังเด็ก ขณะที่ผมประสบความสำเร็จ กลายเป็นคนมีชื่อเสียงภายใน 2 ปี ชีวิตผมเปลี่ยนจากหน้ามือเป็นหลังมือ จากเด็กอายุ 13 ในเมืองเล็กๆ ไปสู่การได้รับเสียงชื่นชมจากทั่วโลก มีคนนับล้านบอกรักผม และบอกว่าผมเจ๋งขนาดไหน ความอ่อนน้อมถ่อมตนมาพร้อมกับอายุที่มากขึ้น คุณคงได้ยินเรื่องเหล่านี้มามากพอแล้วในวัยเด็ก และคุณก็เริ่มจะเชื่อ ทั้งความมีเหตุผลและการตัดสินใจ นี่ถึงเป็นเหตุผลว่าเราไม่ควรดื่มเหล้าจนกว่าจะถึง 21

ผมมีคนทำทุกอย่างให้ เพราะงั้นผมถึงไม่เคยเรียนรู้เกี่ยวกับความรับผิดชอบขั้นพื้นฐานเลย พอผมอายุ 18 ผมถึงไม่มีทักษะในการใช้ชีวิตในโลกจริง พร้อมกับเงินเป็นล้าน และสามารถเข้าถึงอะไรก็ได้ที่ผมต้องการ แบบนี้เป็นอะไรที่น่ากลัวมาก ตอนอายุ 20 ผมทำเรื่องแย่ๆ และเปลี่ยนจากคนที่มีคนรัก และชื่นชมมากที่สุดในโลก มาเป็นคนที่ผู้คนต่างเยาะเย้ย มีอคติ และเกลียดที่สุดในโลก

การอยู่บนเวทีเป็นอะไรที่ต้องทำเวลา และเร่งรีบมากกว่ากิจกรรมอื่นๆ และมันก็ยากมากที่จะจัดการ กับความไม่แน่นอนนี้ คุณจะเห็นว่าวงดนตรีหลายวง และศิลปินจำนวนมาก จบลงที่การติดยาเสพติด และผมเชื่อว่า มันเป็นเพราะไม่สามารถจัดการกับความไม่แน่นอน ในการเป็นคนที่ต้องคอยเอนเตอร์เทนอยู่ตลอดเวลา

ผมเริ่มเสพยาหนักตอน 19 และทำลายความสัมพันธ์ทุกอย่าง ผมกลายเป็นคนที่ไม่พอใจ ไม่เคารพผู้หญิง และขี้โมโห ผมเริ่มแยกตัวออกจากคนที่รัก ผมซ่อนตัวอยู่ข้างหลัง กลายเป็นคนแบบนั้น ผมรู้สึกว่าผมหันกลับไปไม่ได้แล้ว ผมใช้เวลาหลายปีจากการตัดสินใจเรื่องแย่ๆ เหล่านี้ในอดีต แก้ไข ปรับปรุงความสัมพันธ์ ผมโชคดีที่พระเจ้าส่งคนที่รักผมมาให้ รวมถึงสิ่งที่ดีที่สุดคือการแต่งงาน ผมได้เรียนรู้ที่จะอดทน เชื่อใจ มุ่งมั่น มีเมตตา การให้เกียรติ ทุกสิ่งที่ทำให้กลายเป็นคนที่ดี

ที่อยากจะพูด ต่อให้มีอะไรมาขัดขวางคุณ ขอให้สู้ต่อไป พระเจ้ารักคุณ จงมีเมตตาในวันนี้ จงมีความกล้าในวันนี้ และรักผู้คนในวันนี้ ไม่ใช่เพื่อตัวคุณ แต่เพื่อความรักที่ไม่สมบูรณ์แบบของพระเจ้า

View this post on Instagram

Hope you find time to read this it’s from my heart

A post shared by Justin Bieber (@justinbieber) on Sep 2, 2019 at 2:38pm PDT

ติดตามข่าวสารจาก The Thaiger ได้ทางเฟซบุ๊ก.

Up Next

ทอม ฮอลแลนด์ ถ่ายแบบให้นิตยสาร GQ เผยความรู้สึกการเป็นสไปเดอร์แมนตลอด 5 ปีที่ผ่านมา

Don't Miss

ตัวอย่างใหม่ Terminator: Dark Fate ป๋าอาร์โนลด์กลับมา พร้อมซาร่า คอนเนอร์ คนเดิม

Ploy Wanutch

Click to comment

บันเทิง

เอ็มม่า สโตน หมั้นแฟนหนุ่ม หลังคบหาดูใจมา 2 ปี

Published

2 days ago

December 5, 2019

Ploy Wanutch

IG@davemccary

เอ็มม่า สโตน หมั้นแฟนหนุ่ม หลังคบหาดูใจมา 2 ปี

ถือเป็นข่าวที่น่ายินดีมากๆ เมื่อนักแสดงสาวเจ้าของรางวัลออสการ์อย่าง เอ็มม่า สโตน(Emma Stone) ได้หมั้นกับแฟนหนุ่ม เดฟ แม็คคารี(Dave McCary) โปรดิวเซอร์รายการ Saturday Night Live อย่างเป็นทางการแล้ว หลังจากที่คบหาดูใจกันมาเป็นเวลา 2 ปี

เดฟได้ออกมาประกาศข่าวดีผ่านทางอินสตาแกรม เมื่อค่ำวันพุธที่ผ่านมา (4 ธ.ค.) เขาลงภาพคู่กับเอ็มม่า ซึ่งโชว์ให้เห็นแหวนหมั้น และทั้งคู่ก็ยิ้มอย่างมีความสุข งานนี้ก็มีทั้งเพื่อนๆ และแฟนๆ เข้ามาแสดงความยินดีกันเป็นจำนวนมาก

View this post on Instagram

💕

A post shared by @ davemccary on Dec 4, 2019 at 4:42pm PST

ก่อนหน้านี้เอ็มม่าเคยเดทอยู่กับ แอนดรูว์ การ์ฟิลด์(Andrew Garfield) ทั้งคู่พบกันตอนเล่น The Amazing Spiderman และคบกันเป็นเวลา 4 ปี ต่อมาในปี 2015 พวกเขาได้ออกมาประกาศว่าแยกทางกัน แต่ยังคงเป็นเพื่อนที่ดีต่อกัน

ปี 2016 เอ็มม่าพบกับเดฟตอนที่เจ้าตัวไปเป็นแขกรับเชิญในรายการ Saturday Night Live ซึ่งเดฟเป็นโปรดิวเซอร์รายการนี้ และทั้งคู่ก็ได้ทำงานร่วมกัน ในผลงาน Wells for Boys เอ็มม่าแสดง ส่วนเดฟเป็นคนเขียนบทและกำกับ ทั้งคู่เริ่มเปิดเผยความสัมพันธ์ ในเดือนต.ค. 2017 หลังจากออกเดทได้ 3 เดือน

การหมั้นในครั้งนี้ ไม่ได้ทำให้เหล่าแฟนคลับของเอ็มม่าตกใจเท่าไหร่ และเมื่อไม่นานมานี้เธอก็ได้ให้สัมภาษณ์กับนิตยสาร Elle ว่าเธอเริ่มคิดที่จะสร้างครอบครัวแล้ว

มุมมองของฉันเกี่ยวกับการมีลูก เปลี่ยนไปเมื่อฉันอายุมากขึ้น ฉันไม่เคยเลี้ยงเด็ก หรือทำอะไรแบบนั้น ตอนวัยรุ่น มันเหมือนว่าฉันไม่เคยคิดเรื่องแต่งงาน เรื่องมีลูกเลย พอฉันอายุมากขึ้น ฉันก็เริ่มคิดว่า ฉันอยากแต่งงานค่ะ และก็อยากมีลูกด้วย

ยังไงก็ขอแสดงความยินดีกับทั้งคู่ด้วยนะคะ

ที่มา: Tyla

ติดตามข่าวสารจาก The Thaiger ได้ทางเฟซบุ๊ก.

ดารา

ตัวอย่าง James Bond 007: No Time to Die – Daniel Craig ทิ้งทวนบทสายลับ

Published

3 days ago

December 5, 2019

The Thaiger

ปล่อยออกม่ให้ชมกันแล้วสำหรับหนังสายลับ 007 James Bond: No Time to Die. ภาคนี้ยังคงได้นักแสดงหนุ่มใหญ่ Daniel Craig คนเดิมกลับมารับบทสายลับ 007 ซึ่งเป็นเรื่องที่ 5 ของเขากับซีรี่ย์ James Bond นี้ นับตั้งแต่ Casino Royale(2006), Quantum of Solace(2008), Skyfall(2012), Spectre(2015) และ No Time to Die ซึ่งจะมีกำหนดเข้าฉายในปี 2020.

แน่นอนครั้งนี้สายลับ 007 ยังคงได้พระเอกหนุ่มใหญ่ Daniel Craig คนเดิม พร้อมด้วย Remi Malek ผู้ที่โด่งดังจากบทนักร้องในตำนาน Freddie Mercury จาก Bohemian Rhepsody ชีวะประวัติวงร็อคชื่อดังอย่าง Queen, Ralph Fiennes คนเดิมกับบท M, Namoe Harris ที่เคยมีบทบาดสำคัญในแฟรนด์ไชส์ 007 แล้ว 2 ภาค Spectre(2015) และ Skyfall(2012), Lea Saydoux จาก Mission Impossible: Ghost Protocal(2011) และ Spectre(2015) พร้อมนักแสดงที่คุณคุ้นกน้าอีกมากมาย.

อย่างที่เคยได้ยินข่าวกันมาแล้วว่า ครั้งนี้จะเป็นการรับบทบาดสายลับ 007 เป็นครั้งสุดท้ายของ Daniel Craig ที่ตอนนี้อายุอานามป๋าแกก็ปาเข้าไปถึง 51 ขวบแล้ว. หลังจากที่เจ้าตัวออกมาประกาศว่าจะเป็นเป็น 007 เรื่องนี้เรื่องสุดท้าย หลายๆฝ่ายก็เริ่มมีการเฟ้นหาที่จะมารับตำแหน่งสายลับ 007 คนต่อไป. ล่าสุดเว็ปไซต์ชื่อดังอย่าง TheSun ก็ได้มีลิสต์รายชื่อตัวเต็งที่มีแนวโน้มจะได้เป็น 007 คนต่อไป ซึ่งได้แก่

Sam Heughan วัย 39 ปี จากหนัง The Spy Who Dumped Me และ Bloodshot ที่จะเข้าฉายในปี 2020 นี้ คู่กับ Vin Diesel

ตัวอย่าง James Bond 007: No Time to Die - Daniel Craig ทิ้งทวนบทสายลับ | News by The Thaiger

(Photo by Axelle/Bauer-Griffin/FilmMagic)

Richard Madden วัย 33 ปี จาก Cinderella(2015), Rocketman(2019) และกำลังจะมีผลงานกับ Marvel Studio ในหนัง The Eternals ที่จะเข้าฉายในปี 2020.

Tom Hiddleston วัย 38 ปี แน่นอนคงไม่มรีใครไม่รู้จัก Loki จอมกะล่อน ที่ครั้งนี้เจ้าตัวก็ติดโผตัวเต็งรับบท 007 กับเขาด้วย.

James Norton วัย 34 ปี จาก Rush(2013) และหนังใหม่ Mr.Jones ที่จะเข้าฉายปี 2020 นี้.

Michael Fassbender วัย 42 ปี ที่ปลายคนคงคุ้นหน้าคุ้นตากันดีกับบทบาดของมนุษย์กลายพันธุ์ Magneto.

Michael-Fassbender-Haywire-image-movie

ติดตามข่าวสารจาก The Thaiger ได้ทางเฟซบุ๊ก.

ต่างประเทศ

joshbrolin นักแสดง ‘ธานอส’ ทดลองหันตูดให้แดด ผลร้ายแรงกว่าที่คิด

Published

4 days ago

December 4, 2019

Aindravudh

joshbrolin นักแสดง ‘ธานอส’ ทดลองหันตูดให้แดด ผลร้ายแรงกว่าที่คิด | The Thaiger

josh brolin นักแสดงบทธานอส ทดลองหันตูดให้แดด ผลร้ายแรงกว่าที่คิด

จากกรณี บล็อกเกอร์สาว metaphysicalmeagan ได้โพสต์ภาพตัวเองเปลือยเปล่า นอนอ้าขาเป็นรูปตัววีอยู่บนหิน เพื่อให้จิ๋มและรูทวารอาบแดด ซึ่งเธอเรียกมันว่า perineum sunning โดยอวดอ้างสรรพคุณว่าพลังงานแสดงอาทิตย์จะช่วยให้นอนหลับสบาย ร่างกายแข็งแรง เซ็กซ์ดีขึ้น

แต่เชื่อหรือไม่ว่าวิธีสุดพิสดารนี้ดันมีคนทำตาม หนึ่งในนั้นคือ จอช โบรลิน (josh brolin) นักแสดงวัย 51 ปี เจ้าของบทธานอสอันโด่งดัง ที่งานนี้แม้แต่อัญมณีทั้ง 5 ก็ช่วยเขาไม่ได้ เมื่อจอช ได้โพสต์ผลการทดลองอาบแดดรูทวารผ่านอินสตาแกรม ที่ผลของมันไม่เป็นตามคาด และร้ายแรงมากทีเดียว

จอชเล่าว่า เขาได้ยินเกี่ยวกับเรื่อง perineum sunning และทดลองทำมัน แต่ขอแนะนำว่าอย่าทำตามเด็ดขาด หูรูดรูทวารของผมถูกแผดเผาบ้าคลั่ง ผมพลาดการใช้เวลาทั้งวันในการช็อปปิ้งกับครอบครัวไปกับการใช้น้ำแข็ง ว่านหางจรเข้ และครีมในการรักษาผิวหนังที่ถูกแดดเผาด้วยความเจ็บปวดแสนสาหัส

#หลุมดำวันศุกร์ #หลุมดำพระอาทิตย์ #สถานีดับเพลิงซานตาโมนิกา #ดูแลรูตูด”

View this post on Instagram

Tried this perineum sunning that I’ve been hearing about and my suggestion is DO NOT do it as long as I did. My pucker hole is crazy burned and I was going to spend the day shopping with my family and instead I’m icing and using aloe and burn creams because of the severity of the pain. I don’t know who the fuck thought of this stupid shit but fuck you nonetheless. Seriously. #blackholefriday #blackholesun #severeperineumburns #santamonicafiredepartment #assholecare

A post shared by Josh Brolin (@joshbrolin) on Nov 29, 2019 at 11:03am PST